PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ยังไม่รู้หมู่รู้จ่า

เขย่าไปเขย่ามาชื่อหายไปเฉยๆ เก้าอี้รัฐมนตรีอยู่ข้างหน้าเห็นๆ กันอยู่กลับกลายเป็นชื่ออื่นไปเสียฉิบ ก็ต้องเจ็บใจกันเป็นธรรมดา “สามมิตร” ก็เลยแสดงปฏิกิริยาเทใส่รัฐบาลกันเอง

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้หากยังไม่มีชื่อออกมาอย่างเป็นทางการก็อย่าเพิ่งไปเชื่อหรือนั่งฝันหวานว่าได้แน่

ก็เก้าอี้ 35 รัฐมนตรีในรัฐบาล “ประยุทธ์ 2”...นั่นแหละ

เพราะหลายคนที่เปิดแชมเปญฉลองไปแล้ว ปรากฏชื่อหาย จากหลักฐานที่ชัดเจนก็คือไม่มีใบกรอกประวัติส่งมาจากเลขาธิการ ครม.

เท่ากับว่าชื่อหายไปกับสายลมเสียแล้ว...

ดูจากรายชื่อบุคคลที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ส่งไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ แล้วปรากฏว่าพรรคการเมืองต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ไม่มีปัญหา

แต่ปัญหากลับไปตกอยู่ที่พลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาลเสียเอง อย่างหนึ่งที่เห็นก็คือ การเสนอชื่อเกินโควตาที่ได้รับ

หมายความว่าบางตำแหน่งนั้นมีการเสนอ 2 ชื่อ เพื่อให้นายกฯพิจารณาว่าเอาใคร เป็นการเปิดทางเลือกให้ด้วย

จึงไม่ต้องไปสันนิษฐานเป็นอย่างอื่นให้ยุ่งยาก

บอกได้เลยว่าพรรคไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างลงตัว ผลจึงออกมาอย่างนี้แล้วก็โยนให้นายกฯรับผิดชอบเอง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ทุกอย่างจบลงไปได้

ดูจากอาการของ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” หนึ่งในกลุ่ม “สามมิตร” ที่ประกาศว่าจะไม่ยุ่งกับรัฐบาลอีกแล้วเป็นหนังตัวอย่าง

ที่ “ส้มหล่น” พรรคหนึ่งคือ “ชาติพัฒนา” ซึ่งดูเหมือนว่าชื่อตกไปแล้ว แต่เมื่อไปถึงมือนายกฯกลับปรากฏว่าได้ 1 เก้าอี้

“เทวัญ ลิปตพัลลภ” หัวหน้าพรรคได้กรอกประวัติส่งไปแล้ว

ว่ากันว่า เหตุผลสำคัญก็เพราะได้มีการตกลงกันไว้แต่ต้นแล้วว่าจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีแน่ เนื่องจากเป็นพรรคที่เข้ามาร่วมตั้งแต่ต้น

จึงถือว่าเป็นเนื้อเดียวกัน เป็น “เพื่อนแท้” ก่อนที่จะไปดึงพรรคการเมืองอื่นๆ

ทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นนี้ ย่อมสร้างความไม่สบอารมณ์ภายในพลังประชารัฐอย่างแน่นอน เพียงแต่จะเกิดปฏิกิริยาแค่ไหนก็ต้องดูกันต่อไป

แม้จะตั้งรัฐบาลได้แต่เชื่อได้เลยว่าจากนั้นอีกไม่นานก็จะได้เห็นการสำแดงพลังให้ปรากฏในกลุ่มก๊วนที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหารพรรค

ทั้งในพรรคและผู้มีบารมีนอกพรรค...ซึ่งไม่รู้ว่าใครใหญ่จริง?

อีกด้านหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้แม้คำตอบสุดท้าย ที่พูดกันว่า เป็นการดี ทุกอย่างจะได้เคลียร์ก็คือประเด็น “หุ้นสื่อ”

ฝ่ายรัฐบาลที่ถูกร้อง 41 คน ปรากฏศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยออกมาแล้วว่า 9 คนพ้นจากความผิด

อีก 32 คน ศาลรับพิจารณาให้มาชี้แจงข้อมูลภายใน 15 วัน จากนั้นก็จะวินิจฉัยเป็นรายตัวว่าใครโดน ใครไม่โดนเพียงแต่ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ยอด 32 คนนี้น่าถูก “แจ็กพอต” บ้างแหละ?

เสียงปริ่มน้ำจะมีผลต่อไปเมื่อมี ส.ส. หายไปบ้าง บัญชีรายชื่อยังสามารถเลื่อนขึ้นมาได้ แต่ ส.ส.เขตนั้นต้องไปเลือกตั้งกันใหม่โอกาสหลุดลอยไปเลยทำให้จำนวน ส.ส.ลดไปทันที

แต่อีก 33 คน ที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอชื่อจากพรรคฝ่ายค้านผ่าน “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนฯ เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ผลที่ออกมาหากมีความผิดจะทำให้เสียงของฝ่ายค้านขาดหายไป

แต่ดูแล้ว “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่ประเดิมรายแรกคดี “หุ้นสื่อ” ดูท่าว่าจะ “ตกงาน” เป็นรายแรก

พูดง่ายๆ มาเร็วเคลมเร็ว...แบบคนรุ่นใหม่!!!

“ลิขิต จงสกุล”

ไม่มีความคิดเห็น: