PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ปมเซ็นทรัลวิลเลจ สุวรรณภูมิ "ช้าง ชน ช้าง"

ปมเซ็นทรัลวิลเลจ สุวรรณภูมิ "ช้าง ชน ช้าง"
เอ๊ะ...มีช้างกี่ตัวนะ!
กรณีพิพาทระหว่างบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กับ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) วันนี้(28ก.ค.) ผู้บริหารเซ็นทรัลตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงประเด็นพิพาทในทุกประเด็นแบบถี่ยิบ ยืนยันว่า ที่ผ่านมาทำถูกต้องตามกฎหมาย
รายละเอียดที่แจกแจง พูดถึงหลายประเด็นที่ถูกโจมตี เดี๋ยวจะไล่เรียงให้อ่านกัน แต่ตอนแรกนี้อยากช่วงมองข่าวธุรกิจให้ลึก...ลงไปก่อน
ทำไมเรื่องเพิ่งมาวุ่นวายตอนนี้...สงสัยไหม สร้างเซ็นทรัลวิลเลจมา 5 ปี เพิ่งจะมาดราม่าโค้งสุดท้ายก่อนเปิดโครงการจริงในวันที่ 31 ส.ค. 62 ( ทอท.เริ่มเอาเต็นท์ไปปิดกั้นทางเข้า-ออกเซ็นทรัลวิจเลจ วันที่ 22 ส.ค. 62 )
นี่เป็นปัญหาเรื่องพิพาทที่ดิน-เรื่องความไม่ปลอดภัยการบิน จริงหรือ | หรือแค่เป็นจุดที่ถูกใช้เป็นชนวนความวุ่นวาย แต่แท้จริงแล้วมีอะไรอยู่เบื้องหลัง
ทอท. ที่เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กับ เซ็นทรัล คือ คู่ขัดแย่งตัวจริงใช่...ใช่ไหม
***คำถามพวกนี้...สเตตัสนี้ไม่มีคำตอบ***
ฮาาาาา แต่ถ้าใครอ่านจบ เชื่อว่า อาจจะพอเดาออก...หรืออาจจะมีข้อมูลไปช่วยกันหาคำตอบได้มากขึ้น
ในการแถลงข่าววันนี้(28ส.ค.) นักข่าวถาม กรรมการผู้จัดการใหญ่บ.เซ็นทรัล ว่า ที่ผ่านมาทำไมไม่คุยกับทอท.ทั้งที่เป็นหน่วยงานดูแลท่าอากาศยาน ได้คำตอบว่า ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องคุยกับทอท. เพราะ คุยและประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับทอท.ตลอด การจะไปไล่คุยกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ใช่หน้าที่ของเซ็นทรัล หน่วยงานรัฐต้องแจกแจงกันเอง
พอถามว่า...ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางธุรกิจหรือไม่ ได้คำตอบว่า ไม่อยากคาดเดาเรื่องนี้ เพราะสร้างเซ็นทรัลวิจเลจมานาน5ปี ไม่ใช่เพิ่งทำหลังประมูลdutyfree รวมถึงอยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจให้กว้างกับธุรกิจoutlet เวลาไปเที่ยว ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป อเมริกา ก็ต้องไปซื้อของที่outlet และเชื่อว่าแม้คนจะเดินซื้อของที่outlet พอเข้าไปในสนามบินก็จะซื้อของdutyfreeเช่นกัน เพราะ สินค้าแตกต่างกัน dutyfree เป็นสินค้าปลอดภาษี คอลเลคชั่น ส่วนoutletเป็นสินค้าราคาถูกที่ตกรุ่นแล้ว
ส่วนตัวมองว่า คำตอบนี้สะท้อนอะไรหลายอย่าง เช่น แม้จะบอกว่าไม่คาดเดาว่าข้อพิพาทโครงการเซ็นทรัลวิลเลจเกี่ยวกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบทบาทเรื่องการของสินค้าปลอดภาษีหรือไม่ แต่ก็พูดเปรียบเทียบoutlet-dutyfree หรือ การแสดงออกถึงการไม่ได้ให้ความสำคัญกับทอท.มากนัก
เอ่อออ...งงๆเหมือนกันว่า สรุปใครคู่กรณีใคร
แล้วก็งงๆอีกว่า...จะจบยังไง ก่อนจะไปดูว่าจะจบยังไง เราว่ากันเรื่องประเด็นที่ทำให้กลายเป็นเรื่องพิพาทกันก่อน
โครงการเซ็นทรัลวิลเลจอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิฝั่งทิศใต้ ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ทำให้ทุก5-10นาที จะเห็นและได้ยินเสียงเครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า (ภาพ1-2)
ประเด็นที่ทำให้เกิดข้อพิพาทต่างๆมีหลากหลายมาก โดยเฉพาะ เรื่องการรุกล้ำพื้นที่ราชพัสดุ บนทางหลวงหมายเลข 370 ที่อยู่ในความดูแลของ ทอท. / แต่เซ็นทรัล ชี้แจงว่า ทางหลวงหมายเลข 370 อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง ไม่ใช่ทอท. ที่ผ่านมาจึงขออนุญาตเชื่อมทางเข้า-ออกกับโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เพราะ โครงการอยู่ในที่ดินติดถนนใหญ่ ด้านขวาอยู่ติดสนามกอล์ฟซึ่งเป็นที่ของเอกชน / ส่วนด้านซ้ายอยู่ติดที่ดินว่างเปล่า / และด้านหลังอยู่ติดริมคลองบางโฉลง
(ภาพ 3)
แต่ข้อมูลของ ทอท.ระบุว่า โครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ เพราะ มีพื้นที่ประมาณ 164 ตารางวา จุดที่ตั้งเต็นท์ของทอท.ที่มาปิดทางเข้า-ออก ลานจอดรถของโครงการฯ และตลอดแนวถนนเป็นที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของทอท. (ภาพ4)
ข้อมูลของทอท.สอดคล้องกับเอกสารที่กรมธนารักษ์นำมาติดไว้ที่หน้าโครงการเซ็นทรัลวิลเลท ซึ่งยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินราชพัสดุที่อยุ่ในความดูแลของทอท.จริงและกรณีที่ทอท.เดินหน้าให้บริษัทเซ็นทรัลรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นไปตามกรอบอำนาจทางกฎหมายที่กำหนดไว้ (ภาพ5)
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าโครงการนี้ก่อสร้างในพื้นที่ผังเมืองสีเขียว คือ ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ไม่สามารถก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างได้ บริษัทเซ็นทรัล ชี้แจงว่า กฎหมายเปิดช่องให้ก่อสร้างในพื้นที่สีเขียวบริเวณ ก1-10 ได้ หากการก่อสร้างไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว (ภาพ6)
แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า ตามกฎหมายจะไม่อนุญาตให้สร้างโรงแรมและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ หรือหากดำเนินการได้ก็จะสามารถทำได้เพียง 200 ตารางเมตร แต่โครงการเซ็นทรัลวิลเลจมีพื้นที่โครงการเฉพาะสิ่งปลูกสร้างรวม 40,000 ตารางเมตร
ส่วนการดำเนินการโครงการเซ็นทรัลวิลเลจจะส่งผลต่อความปลอดภัยการบินหรือไม่ บริษัทเซ็นทรัล ยืนยันว่า ไม่ได้ละเมิดกฎใดๆ ทั้ง ความสูงของอาคาร และไม่มีกิจกรรมใดๆที่เสี่ยงรบกวนการบิน ประเด็นนี้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างที่โครงการใช้อาจกระทำกับทัศนวิสัยของนักบินหรือไม่
ส่วนข้อมูลจาก ทอท. ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งหรือสกัดการเปิดบริการของเซ็นทรัล แต่เพราะที่ผ่านมาเจ้าของโครงการไม่เคยขออนุญาต ทอท. จึงต้องปฏิบัติตามหลักการ เพราะ ไม่สามารถปล่อยปละละเลย หรือ สนับสนุนผู้กระทำผิดกฎหมายบนพื้นที่รัฐได้ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลและอนุญาตการก่อสร้างโครงการจริง แต่กรมทางหลวงใช้เกณฑ์การประเมินเฉพาะเรื่องผลกระทบด้านถนนเท่านั้น กรมธนารักษ์ในฐานะผู้กำกับดูแลที่ราชพัสดุ จึงให้ ทอท.เข้ามาดูแลและใช้เกณฑ์ด้านการบินเป็นเกณฑ์ประเมินหลัก
ส่วนข้อสงสัยที่ระบุว่าหากพบความผิดเหตุใดทอท.ไม่สั่งระงับการก่อสร้างตั้งแต่แรก นายนิตินัย ระบุว่า ตอนแรกกรมธนารักษ์มีหนังสือถึงทอท.เข้าไปตรวจสอบโครงการเมื่อวันที่ 16 มกราคม2562 จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลจากสายงานต่างๆ ก่อนจะได้ข้อสรุปในเดือนเมษายนว่าให้บริษัทเซ็นทรัลรื้อถอนถนนปูน เพราะเป็นการรุกร้ำพื้นที่ แต่ในเดือนสิงหาคมกลับพบว่า มีการเตรียมติดตั้งท่อและที่กั้นเหล็ก พร้อมเปิดใช้บริการ ทั้งที่เคยแจ้งไปแล้วว่าพื้นที่จุดเข้า-ออก ดำเนินการไม่ได้ จึงต้องเข้ามาตั้งจุดเพื่อสกัดไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ
ส่วนตัวมองว่า ข้อพิพาทต่างๆไม่ใช่เรื่องใหม่ จริงๆมีโอกาสที่จะเป็นปัญหาตั้งแต่ตอนเริ่มก่อสร้างแรกๆแล้ว แต่กลับเพิ่งมาเป็นปัญหาในอีกไม่กี่วันที่เซ็นทรัลวิจเลจจะเป็นให้บริการ
ถ้ามองข้ามห้วยไปถึงการแก้ปัญหาว่าจะจบยังไง หลังเซ็นทรัลขอให้ภาครัฐ โดยเฉพาะ นายกฯร่วมแก้ปัญหา และนายกฯสั่งการให้มหาดไทย-คมนาคม ตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน ส่วนศาลปกครองล่าสุดก็ยังไม่มีคำสั่งคุ้มครองการก่อสร้างของโครงการดังกล่าว
ตอนนี้อะไรๆก็มะรุมมะตุ้มกันไปหมด ลองแยกส่วนแล้วมองมิติทั้งธุรกิจ เศรษฐกิจ หรือแม้แต่การเมือง อาจจะพอจับทางได้ว่าเป็นยังไง ส่วนจะจบยังไง ยากที่จะตอบจริง ถ้าเป็นหนังจีนตอนนี้อาจอยู่ในช่วงวัดกำลังภายใน ส่วนใครจะชนะ จะชนะแบบใสใส หรือ แบบไสยไสย จะเจ็บตัวคนละนิด หรือ ชนะแบบขาดลอย หรือจะตกลงกันได้
มดตัวน้อยๆอย่างเรา แค่รอดูอยู่ห่างๆพอ

ไม่มีความคิดเห็น: