PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หน้ากากขาว กลิ่นไอสงครามกลางเมือง?

หน้ากากขาว กลิ่นไอสงครามกลางเมือง?
บทความ วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2556 17:53น.
456370
มีความน่าสนใจใน ปรากฎการณ์การ "รุก" ทางการเมืองของกลุ่มมวลชนสัญลักษณ์ "หน้ากากขาว"
เป็น "ความไม่ธรรมดา" ทั้ง ตัวละคร "ผู้อยู่เบื้องหลัง"และ "เบื้องหน้า" อันเป็น มวลชนจัดตั้ง ทั้งเปิด และปิด ภายใต้"โลกไฟเบอร์เสมือนจริง" สู่ "โลกจริงอันจับต้องได้ ผ่านการ" ขับเคลื่อน "แบบจัดตั้ง สู่ถนนอย่างแยบยลใน" จุดพื้นที่เดียวกันของ "ทุนเก่า" (โรงแรมดุสิตธานี)" ที่เคยมีการเคลื่อนของ "ม็อบคนหลากสี" และ "องค์กรพิทักษ์สยาม" เดิม ที่ "แปรรูป" มาเป็น การ "ปิดหน้า" ดูลึกลับ ผ่านเรื่องราว "กฎบดินปืน" นวนิยายการเมืองต่างประเทศ ผสมเรื่องราวจริงทางประวัติศาสตร์ อันเป็นวิธีทางสัญลักษณ์ที่ "ฝ่ายยุทธวิธี" คิดขึ้น ในลักษณะสร้างภาวะความสับสนใน "เป้าหมาย" โดยสร้าง "เงื่อนไข" การติดตามค้นหาตามนิสัยคนชั้นกลางที่อดไม่ได้ ที่ต้องอยากรู้ ที่มาที่ไปของ "หน้ากากขาว"
และนำมาสู่การสร้างเงื่อนไขใน "บทละครเสมือนจริง" จากภาพการเมืองความขัดแย้ง ที่มีการปะทะกันระหว่าง "กลุ่มอำนาจ" เก่าและ "ใหม่" ที่ถูกทำให้พร่าเลือน ผ่าน ความขัดแย้งระหว่าง กลุ่มผลประโยชน์ทางสังคม ระหว่าง "ทุนเก่า"กับ "ทุนใหม่" ที่ปะทะกันแบบเปิดเผยรุนแรงสร้าวความเสียหายให้กับประเทศไทยมาตลอด 8 ปีที่ผ่านมา(2548-2556)

น่าสนใจ ที่ "ความน่ากลัว" หนนี้ ยังอยู่ใน "ระบบคิดเดิม" (บทเรียนม็อบเสธอ้าย) ที่ยัง "มุ่งเห็นผลเร็ว" โดยไม่คำนึงถึงวิธีการและผลลัพธ์ ที่ อาจเกิดขึ้นจาก การใช้ความรุนแรง เพื่อหวังผลการรุกฮือ และนำไปสู่การนองเลือดของประชาชนบริสุทธิ์แต่ละฝั่ง อันเป็นแนวคิดของนักยุทธวิธีทางทหาร ที่ อยู่ในวง "วอร์รูม" อันมักรวมและจะแยกต่างหากทันทีหากความสุกงอมในทางกายภาพปรากฎ วิธีคิดนี้ยังคงอยู่

เป็นการแยะผละออกจากกระบบในความคิดของ "นักคิดยุทธวิธีมวลชนบริสุทธิ์" ที่มี "เป้าหมายเดียวกัน" คือ การต่อต้านล้มล้าง "ฝ่ายทักษิณ" ละ "อำนาจรัฐ" ของ "พรรคเพื่อไทย" ที่มี "คนเสื้อแดง" เป็น "มวลชนสนับสนุน" เป็นเกราะกำบังทางการเมือ

เป็นการ ช่วงชิงการเข้าตี ที่ถึงที่สุดมัก "ลับลวงพราง" ทั้งฝ่ายตรงข้าม และ ฝ่ายเดียวกันเอง จนมักก่อให้เกิดผลร้ายรุนแรงกับ "สังคมองค์รวม" ที่บางครั้งฝ่ายเดียวกันก็พูดไม่ออก ต้องเออออห่อหมก เพราะลงเรือลำเดียวกันมาแล้ว ยากที่จะถอนตัวกลางครัน และจำต้องร่วมเป็นส่วนหนึ่ง แม้จะรู้ว่า "บางอย่าง" ไม่ถูกต้องก็ตาม

น่าสนใจอีกว่า ยุทธวิธี หนนี้ แม้ภายนอกทางหนึ่ง เลี่ยงที่จะให้ "ผลรวม" ของการไหลไปสู่ เงื่อนไขเดิมๆคือการออกมาของกองทัพ แต่ในทางปิด กลับมีการเชื่อมต่อ และร้อยโยงไปสู่รูปแบบ การติดอาวุธ และการผสมในทางไม่เปิดเผยจาก "กองกำลังอำนาจแฝงในรัฐ" คล้ายยุคสมัย "ทักษิณ" (2548)ที่หนนี้ ไม่มีใครต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบถึงตัวเองเพราะมี "หน้ากากขาว" สวมทับ ซึ่งเป็นการจับจริตคนไทยชั้นกลางได้ ว่า "ชอบผสมโรง" สำหรับความไม่ชอบใจใคร และ "คนคิด" ก็ฉลาดที่จะยังคงเอาชื่อ "ทักษิณ" เป็น "เป้าเชิงสัญลักษณ์" โดยยกระดับเป็น "ระบอบ"ภายใต้การจับจุดคนไทย ที่ว่าจะมาร่วม ต้องไม่กระทบผลประโยชน์"ตัวเอง"ด้วย

กระนั้น ทุกฝ่ายต้องไม่ลืมว่า ในขณะที่สร้างเงื่อนไขแบบ "บ่มเพาะเร็ว" นี้ ยังมี "เสื้อแดง" ที่ขยายแนวคิด การศึกษารูปแบบทางการเมือง และการทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่ปรากฎ ผ่านโรงเรียนการเมือง ของพวกเขา ไปหลายพื้นที่รอบนอกทั่วประเทศเช่นกัน

ดังนั้น เมื่อถึงเวลานั้น ที่ฝ่ายทุนเก่าสัมฤทธิ์โดยกระบวนการสนับสนุนจากอำนาตตุลาการ ที่ปะทะกับบริหาร นิติบัญญัติ อีกฟากข้างหนึ่งของมวลชนเสื้อแดงหาก "ผลลัพธ์" ปรากฎเข้าอิหรอบเก่าๆการชิงอำนาจการเมืองกันของ "สองขั้วอำนาจ" ที่มีสองขั้วทุนหนุนหลัง ก็ควรต้องระวัง อาการแบบเดียวกันกับ "หน้ากากขาว" ที่อาจจะปรากฏโดยขยายจาก"หน้ากากแดง" ที่เคลื่อนคู่ขนานเวลานี้ และกลายเป็นสภาพ มวลชน ปะทะมวลชน ยิ่งเมื่อมีการสนับสนุนอาวุธ ก็จะกลายเป็น "สงครามกลางเมือง" แบบไม่รู้จบได้ในที่สุด.


โดย ศักดา จิวัธยากูล
2 มิ.ย.2556

ไม่มีความคิดเห็น: