PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เมื่อผู้ร้ายบังคับบัญชาตำรวจ บทความโดย วสิษฐ เดชกุญชร

วันพุธที่ 9 ตุลาคม 2556, 10:45 น.

ข่าวเกี่ยวกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่สองคนทำให้ผมรู้สึกสลดหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก

นายตำรวจคนแรกที่เป็นข่าวคือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผมทราบ

ข่าวนี้เพราะได้อ่านจากหน้าเฟซบุ๊กของ (พ.ต.ท.) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้หนีโทษ
ทางอาญาไปเร่ร่อนอยู่ในต่างประเทศ (พ.ต.ท.) ทักษิณได้เขียนข้อความลงในหน้านั้น เมื่อ วันที่ 
1 ตุลาคม ดังนี้

"วันก่อนได้คุยกับท่าน ผบ.ตร. ผมก็บอกว่าผมได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ขายของทั้งหลาย

ในเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต ว่ามีหน่วยงานทั้งหลายในตำรวจและหน่วยงานภายนอกเดิน
เก็บส่วยกันมากจนเป็น cost ของผู้ประกอบการ และแน่นอนก็จะผ่านไปยังผู้บริโภคทั้งๆ ที่รัฐบาล
ได้จัดการปัญหาเรียกรับเงินในการแต่งตั้งโยกย้ายออกไปอย่างสิ้นเชิง ก็ยังไม่ง่ายเพราะ นิสัยที่
ชอบเก็บส่วยได้แพร่กระจายเป็นวงกว้าง ขอให้ช่วยกันจัดการด่วน! ท่านก็บอกว่าท่านนายกฯ ได้
สั่งการมาแล้วครับ ผมเลยหวังว่าทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นครับ"

หลังจากที่มีข่าวดังกล่าว พล.ต.อ.อดุลย์ได้ปฏิเสธว่าตนไม่เคยได้พูดคุยกับ (พ.ต.ท.) ทักษิณ ดัง

ที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณอ้าง

ถ้าเป็นตามที่ พล.ต.อ.อดุลย์อ้างก็แปลว่า (พ.ต.ท.) ทักษิณโกหก และที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณอ้างว่า

ได้รับการร้องเรียนจาก "ชาวบ้านทั้งหลายในเมืองท่องเที่ยว" ก็เป็นเรื่องโกหก แต่ถ้าเป็นจริงตาม
ที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณอ้างก็แปลว่า พล.ต.อ.อดุลย์โกหก

(พ.ต.ท.) ทักษิณนั้นโกหกเป็นประจำ และเคยถูกจับโกหกได้หลายครั้งแล้ว จนน่าเชื่อว่าจะกลาย

เป็นคนที่ภาษาจิตวิทยาเรียกว่า pathological liar คือคนที่โกหกบ่อยๆ จนในที่สุดเจ้าตัวเองไม่ตระ
หนักว่าโกหกและนึกว่าเป็นเรื่องจริง

ที่อวดอ้างว่าชาวบ้านที่ขายของทั้งหลายในหลายเมืองท่องเที่ยวร้องเรียนไปจนถึงตน ก็น่าจะเป็น

เรื่องโกหกเพราะการร้องเรียนต่อ (พ.ต.ท.) ทักษิณคงทำได้ไม่ง่ายนัก เนื่องจาก (พ.ต.ท.) ทักษิณ
ไม่ อยู่เป็นที่ แต่เร่ร่อนไปตามประเทศต่าง ๆ หลายประเทศอยู่ตลอดเวลา

ส่วน พล.ต.อ.อดุลย์นั้นไม่เคยมีชื่อเสียงว่าเป็นคนโกหก เพราะฉะนั้นที่ พล.ตอ.อดุลย์ปฏิเสธว่าไม่

เคยได้พูดคุยกับ (พ.ต.ท.) ทักษิณก็น่าเชื่อว่าเป็นความจริง แต่ถึงจะเป็นความจริงการปฏิเสธของ 
พล.ต.อ.อดุลย์ก็ควรทำมากกว่าปฏิเสธสั้นๆ เช่นนั้น แต่ควรทำเป็นกิจจะลักษณะด้วยการออก
แถลงการณ์ หรือให้โฆษกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าว เพราะถ้าเพียงแต่ตัดบทห้วนๆ 
เช่นนั้น ก็อาจจะมีผู้ที่ยังสงสัยอยู่ว่าจะเป็นความจริงดังที่ (พ.ต.ท.) ทักษิณอ้าง

นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งที่เป็นข่าว คือ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ซึ่งเป็นข่าว ขึ้นมาก็

เพราะมีผู้นำภาพของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ซึ่งถ่ายร่วมกับ (พ.ต.ท.) ทักษิณที่เมืองมาเก๊าและ ออก
เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต กรณีนี้ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไม่เคยปกปิด
ความสัมพันธ์ที่ตนมีกับ (พ.ต.ท.) ทักษิณ เมื่อตอนที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ 
บัญชาการตำรวจนครบาล และเลื่อนยศเป็นพลตำรวจโทนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็เป็นผู้แพร่ภาพ 
(พ.ต.ท.) ทักษิณประดับยศใหม่ให้ตน ทั้งยังเคยประกาศอย่างเปิดเผยว่า "มีวันนี้เพราะพี่ให้" 
ด้วย

เกี่ยวกับเรื่องให้ (พ.ต.ท.) ทักษิณประดับยศให้นี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ขอให้สำนักงานตำรวจแห่ง

ชาติดำเนินการแล้ว และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ก็กำลังถูกสอบสวนโดยจเรตำรวจแห่งชาติ เมื่อปรา
กฏว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ไปพบกับ (พ.ต.ท.) ทักษิณที่มาเก๊า ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ขอให้สำนักงาน
ตำรวจแห่งชาติดำเนินการเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกเรื่องหนึ่งด้วย

พล.ต.ท.คำรณวิทย์อาจไม่แยแสกับการสอบสวนและผลการสอบสวน แต่พฤติการณ์ของ พล.ต.ท.

คำรณวิทย์ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย เพราะ (พ.ต.ท.) ทักษิณเป็นผู้หนีโทษทางอา
ญาและเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาอีกหลายคดี เป็นหน้าที่ของตำรวจทุกคนรวมทั้ง พล.ต.ท.คำรณ
วิทย์ที่จะต้องจับกุมตัว (พ.ต.ท.) ทักษิณเอามาฟ้องร้องให้ศาลลงโทษ แต่พฤติการณ์ของ พล.ต.ท.
คำรณวิทย์แสดงให้เห็นว่าตนซึ่งเป็นนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นอกจากจะไม่ปฏิบัติหน้าที่ของผู้รักษา
กฎหมายแล้ว ยังไปแสดงความเคารพนบนอบกับอาชญากรเสียด้วย

ประชาชนย่อมหวังจะให้ตำรวจเป็นผู้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนให้พ้นจากอาชญากรรม การ

ที่ประชาชนสงสัยว่านายตำรวจผู้ใหญ่คนหนึ่งรับคำสั่งจากอาชญากร และเชื่อว่าอีกคนหนึ่งจงรัก
ภักดีต่ออาชญากรย่อมทำให้ประชาชนหมดความเชื่อถือในตำรวจ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องนี้หรือไม่ หรือว่าจะ ปล่อยให้ประชา

ชนหมดความเชื่อถือและสิ้นศรัทธาที่มีต่อตำรวจ ?

(ที่มา:มติชนรายวัน 8 ต.ค.2556)


ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline

ไม่มีความคิดเห็น: