PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พลิกปูมชีวิต"บิ๊กตู่"ลูกทหาร-วันรับตำเเหน่งหัวหน้า คสช.ทางการ

พลิกปูมประวัติ 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากชายชาติทหารสู่หัวหน้าคสช. 1 ใน 3 ผู้โดดเด่นเเห่งสายบูรพาพยัคฆ์
วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยต้องจารึกไว้อีกครั้ง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ภายหลังยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลรักษาการ ที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นหัวเรือใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ หรือ บิ๊กตู่ เกิดวันที่ 21 มีนาคม 2497 ที่จ.นครราชสีมา เป็นบุตรคนโตของพ.ท.ประพัฒน์ และนางเข็มเพชร จันทร์โอชา ในบรรดาพี่น้อง 4 คน จบการศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 23 ปัจจุบันครองสมรสกับรศ.นราพร จันทร์โอชา และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาทหารบก เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งชีวิตก่อนเข้ารับราชการทหารของพล.อ.ประยุทธ์นั้น ถือว่าได้รับการกล่าวขานเป็นผู้เรียนดีคนหนึ่งของประเทศ จนกองบรรณาธิการ ‘ชัยพฤกษ์’ ฉบับที่ 4 ปักษ์หลังเดือนกุมภาพันธ์ 2512 ต้องบันทึกเรื่องราวของเขาไว้ในคอลัมน์ ‘เรียนดี’ ขณะนั้นอายุเพียง 15 ปี โดยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทให้กับการอ่านหนังสือ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ถึงขนาดอ่านทวนซ้ำหลายรอบเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
โดยวิชาที่เก่งมากที่สุดคงต้องยกให้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ซึ่งนอกจากจะเก่งในวิชาเหล่านี้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังชอบเรียนมากด้วย แต่ยามใดที่เขารู้สึกเครียดก็จะใช้เวลาผ่อนคลายไปกับการดูสารคดีหรือหนังญี่ปุ่นแทน
ทั้งนี้ ใครหลายคนที่รู้จักพล.อ.ประยุทธ์มักจะคุ้นชินกับอุปนิสัยที่เคร่งขรึมที่ติดตัวมาแต่วัยเด็ก หากแต่จิตใจเบื้องลึกของผู้ชายผู้นี้แล้ว นับว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจใช้ได้! คนหนึ่งทีเดียว โดยจะช่วยเหลืองานบ้านเป็นประจำ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน เพราะเชื่อว่าผู้ที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตข้างหน้านั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนหนังสือเพียงอย่างเดียว
สำหรับห้วงชีวิตในราชการทหารของพล.อ.ประยุทธ์ เริ่มต้นที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี) จากนั้นจึงย้ายไปอยู่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และรับตำแหน่งรองแม่ทัพ ภาคที่ 1 ไต่อันดับจนกระทั่งได้เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายทหารที่เป็นใหญ่ในสายบูรพาพยัคฆ์ หรือนักรบแห่งบูรพาโดดเด่นอันดับต้น ๆ รองจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ซึ่งบุคคลหลังนับว่ามีความสนิทสนมกันมากที่สุด ด้วยความเป็นทหารเสือราชินีเหมือนกัน ถึงขนาดนับถือเป็นเสมือนพี่น้องท้องเดียวกัน เพราะพล.อ.ประยุทธ์เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างนอบน้อมมาโดยตลอด
สมญานาม ‘บูรพาพยัคฆ์’ หมายถึง นายทหารที่สังกัดหรือเจริญเติบโตมาจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) ตั้งอยู่ค่ายพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทั้งยังมีคุณลักษณะพิเศษให้เป็นกองพลทหารราบยานเกราะที่มีหน่วยขึ้นตรงในระดับกรมและกองพันกระจายตัวอยู่ทั้งในจ.สระแก้ว ชลบุรี และปราจีนบุรี ซึ่งปัจจุบันไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ากลุ่มทหารสายบูรพาพยัคฆ์มีบทบาทสูงในกองทัพ
ดังเช่นวิกฤตการณ์ปัจจุบัน... ตัดสินใจเฉียบขาด...ในการยึดอำนาจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นิตยสารราชพฤกษ์ ผลิตโดย สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ตีพิมพ์ฉบับเเรกเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2497 เน้นความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กเเละเยาวชน ทั้งในเเง่ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ เเละอื่น ๆ รวมถึงคอลัมน์ 'เรียนดี' ที่จะนำเสนอเรื่องราวของนักเรียนที่มีทักษะการเรียนดี
กระทั่งภายหลังได้มีการขยายรูปเเบบเป็น นิตยสารชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์ เเละชัยพฤกษ์การ์ตูนในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม เเม้ระยะหลังจะมียอดตีพิมพ์สูงเดือนละ 2.5 หมื่นเล่ม เเต่ด้วยต้นทุนที่สูงขึ้นเเละไม่ค่อยมีโฆษณาเข้า จึงทำให้ต้องทยอยปิดตัวลง โดยนิตยสารชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์ ปิดฉากลงในฉบับที่ 299 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2538


ไม่มีความคิดเห็น: