PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557

"แม่ทัพ1” ยัน ไม่มีการปฏิวัติซ้อน พรัอมดูแลรัฐบาล ยันฟัง ยึดถือ-เชื่อมั่น นายกฯประยุทธ์


"แม่ทัพ1” ยัน ไม่มีการปฏิวัติซ้อน พรัอมดูแลรัฐบาล ยันฟัง ยึดถือ-เชื่อมั่น นายกฯประยุทธ์-ผบ.ทบ. ชี้ เดินหน้าปรองดองสมานฉันท์ ควบคู่ การปฏิรูป

พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาค 1 และ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.)
ได้รับมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 จาก พลเอก ธีรชัย นาควานิช ที่ขยับขึ้น ผช.ผบ.ทบ.

สำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่หรือไม่ นั้น พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า ขอรับนโยบายจากทาง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ในวันที่ 6 ต.ค. นี้ก่อน หลังจากทันมอบนโยบายแล้วให้ตนมาประชุมที่กองทัพภาค ว่าจะดำเนินการไปอย่างไร

สำหรับการยกเลิกกฎอัยการศึกนั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบาย ขอให้ทางรัฐบาล และผู้บังคับบัญชาสั่งมา ทางเราพร้อมปฏิบัติ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมดุล เรื่องความมั่นคง เรื่องการปรองดอง เรื่องการปฏิรูป เพื่อให้ประเทศเดินไปได้

สิ่งที่สำคัญคือ สถาบันฯ ผมยอมไม่ได้เพราะเป็นสถาบันฯสูงสุด ทางกองทัพภาคที่ 1 ที่รับผิดชอบหลักจะต้องดำเนินการ เพราะฉะนั้นใครที่มาก้าวล่วงตนยอมไม่ได้

เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดช ผบ.ทบ. ท่านใหม่ ออกมาพูดชัดว่าไม่มีการปฏิวัติ นั้น ในฐานะกองทัพภาคที่ 1 ที่ดูแลพื้นที่ภาคกลาง และปริมณฑล มองว่าอย่างไร พล.อ.กัมปนาท กล่าวว่า ผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา และทหารอาชีพ เชื่อฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา เพราะฉะนั้นผบ.ทบ. พูดอย่างไรก็ตามนั้น

"ยืนยันว่าไม่มีการปฏิวัติอย่างแน่นนอน และยึดมั่นในสายการบังคับบัญชาของตน ทั้งนายกฯและผบ.ทบ."

พลโท กัมปนาท กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก ที่สนองตอบต่อนโยบาย ต่อ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งในตอนนี้กองทัพภาคที่ 1 มีบทบาท หลายบาท ซึ่งบทบาทที่ขึ้นตรงกับทางกองทัพบก

ในฐานะที่เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เพราะฉะนั้นภารกิจของกองทัพภาคที่ 1 จะต้องดำเนินการทั้ง 2 ส่วนให้สมดุลกัน และรักษามาตรฐานไว้ให้ได้

โดย หน้าที่หลัก มี 2 เรื่อง คือ 1.การเตรียมกำลังพล จะต้องให้กำลังพลมีความพร้อมรบ สูงสุดตามนโยบายของทางผู้บังคับบัญขา

2. การใช้กำลังในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งภารกิจของทางกองทัพบก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการป้องกันประเทศ การป้องกันชายแดน การรักษาความมั่นคงภายใน การรักษาความสงบเรียบร้อย

ที่สำคัญคือ งานรักษาความสงบตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องรักษาสมดุลที่ทางหัวหน้าคสช.ได้ให้นโยบายไว้

“ท่านพูดเสมอมว่าเราต้องรักษาสมดุลให้ได้ ระหว่างการบริหารราชการแผ่นดิน และการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูป"

พลโท กัมปนาท กล่าวว่า ทั้ง 3 เรื่อง เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทางหัวหน้า คสช. ได้มอบหมายไว้ ก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ผมเคยนั่งอยู่ข้างบนในการบริหารสั่งการ เวลานี้มาอยู่ข้างล่าง จะต้องเป็นผู้ที่มาขับเคลื่อนงานต่างๆ ตามนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม ดังนั้นผมก็ต้องมารับภารต่อจากท่านแม่ทัพภาคที่ 1 ท่านที่แล้ว เพื่อมาดำเนินการ โดยนโยบายทุกเรื่องผมรับตรงมาจากผู้บัญชาการทหารบก” พล.อ.กัมปนาท กล่าว

เมื่อถามว่า ในเรื่องของงานปรองดองสมานฉันท์ จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร หรือดำเนินการใกล้จะสำเร็จแล้ว พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า การปรองดองสมานฉันท์ ต้องใช้เวลา และมีความต่อเนื่อง เวลานี้ตนได้รับนโยบาย ที่ต้องลงมาสานต่อในระดับข้างล่างให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น เรายังเดินหน้าทำต่อไป ถ้าเราสร้างความปรองดองไม่ได้ ทุกอย่างที่เราทำกันมาก็จะกลับไปอยู่จุดเดิม มันไม่เกิดประโยชน์ ท่านจะปฏิรูปอย่างไรก็ตามถ้าประชาชนไม่มีความปรองดองสมานฉันท์ ที่เราทำมาก็สูญเปล่า นั้นคือ ปัญหาที่เกิดขึ้นมา

เพราะฉะนั้นเราต้องเดิน เพื่อสร้างให้คนไทย มีความปรองดองสมานฉันท์กัน การทำงานที่ผ่านมา มีความคืบหน้าที่ไปมาก ตนทำงานปรองดองมา 4 เดือน แล้วปีหน้าก็ยังคงเดินต่อไป สำหรับเวทีปรองดองสมานฉันท์ ที่ตนรับผิดชอบ ก็จะทำคู่ขนานไปกับสภาปฏิรูป

เมื่อถามว่า ในส่วนของนักวิชาการที่พยายามออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ในเรื่องการเมือง ตรงนี้มองว่าอย่างไร พล.อ.กัมปนาท กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ของทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ทางเราเป็นหน่วยปฏิบัติ โดยเฉพาะตัวตนเองนั้นเป็น ผบ.กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) ที่คุมกองกำลังทั้ง 4 กองทัพภาค ก็ต้องรับนโยบายจากผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้รับนโยบายจากหัวหน้าคสช. ที่จะดำเนินการ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีความมุ่งหมายที่จะทำให้คนไทยเกิดความปรองดองสมานฉันท์ นี้คือหัวใจ ซึ่งทางหัวหน้าคสช. ได้เน้นย้ำมาตลอดว่าทำอย่างไรให้คนไทย กลับมารักและสามัคคีเหมือนเดิม ตนจึงได้รับมอบหมายให้ลงมาขับเคลื่อนให้เกิดรูปธรรมมากที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น: