PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อนุญาตฝากขัง'พงศ์พัฒน์'อีก12วัน

อนุญาตฝากขัง'พงศ์พัฒน์'อีก12วัน
ศาลอนุญาตฝากขัง ครั้งที่ 2 อีก 12 วัน 'พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ - เครือข่าย' รวม 10 คน เหตุรอสอบพยาน 45 ราย - รอผลตรวจสอบธุรกรรมการเงิน
4 ธ.ค. 57 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.สมเกียรติ ตันติกนกพร พนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 631/2557 ลงวันที่ 21 พ.ย. 57 และที่ 644/2557 ลงวันที่ 26 พ.ย. 57 ได้ยื่นคำร้องฝากขัง ครั้งที่ 2 พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อายุ 58 ปี อดีต ผบช.ก. และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อายุ 59 ปี อดีต รอง ผบช.ก. สองผู้ต้องหา คดีร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ฯ , เจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ ฯ , เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ฯ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , 149 และ 157 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ฯ
พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อายุ 55 ปี อดีต ผบก.รน. ผู้ต้องหาคดีเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ ฯ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157
พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ อายุ 46 ปี อดีต ผกก.4 บก.ปคบ. , ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา อายุ 50 ปี อดีตผู้บังคับหมู่ กก.ปพ.บก.ป. และ ด.ต.ฉัตรินทร์ หรือจักรินทร์ เหล่าทอง อายุ 48 ปี อดีตผู้บังคับหมู่ กก.ปพ.บก.ป. ผู้ต้องหา 3 คน เป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 , 149 และ 157
นางสวงค์ มุ่งเที่ยง อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 และ 47
โดยคำร้องฝากขัง ระบุว่า ตามคำร้องฝากขัง ครั้งที่ 1 ผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 57 ศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา มีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. - 5 ธ.ค.นี้ ซึ่งวันที่ 5 ธ.ค. ตรงกับวันหยุดราชการนั้น ซึ่งการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานสำคัญ อีก 45 ปาก และรอผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง , ผลการตรวจสอบประเมินราคาทรัพย์ที่ตรวจยึดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ หรือเปรียบเทียบของกลางกับผู้ต้องหาจากกองพิสูจน์หลักฐาน ดังนั้นจึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย อีกเป็นครั้งที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 - 17 ธ.ค.นี้ โดยขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง จึงเกรงว่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และอาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวนได้
นอกจากนี้ พ.ต.ท.สมเกียรติ พนักงานสอบสวน ยังได้ยื่นคำร้องฝากขัง ครั้งที่ 2 นางปิยพรรณ ชินนะประภา อายุ 56 ปี และนายชอบ ชินนะประภา อายุ 60 ปี สามีภรรยา ซึ่งเป็นน้องสาว และน้องเขยของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กระทำความผิดฐานฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (5) (9) และมาตรา 5 (1) (2) และมาตรา 60 อีกด้วย โดยคำร้องฝากขัง ระบุ เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานสำคัญ อีก 45 ปาก และรอผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารที่เกี่ยวข้อง , ผลการตรวจสอบประเมินราคาทรัพย์ที่ตรวจยึดจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ หรือเปรียบเทียบของกลางกับผู้ต้องหาจากกองพิสูจน์หลักฐาน ดังนั้นจึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อีกเป็นครั้งที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 - 18 ธ.ค.นี้ โดยขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง จึงเกรงว่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และอาจเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของพนักงานสอบสวนได้
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.วีระวุฒิ บำรุงสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 631/2557 ลงวันที่ 21 พ.ย. 57 ก็ได้ยื่นคำร้องฝากขัง ครั้งที่ 2 นายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์เดช อายุ 57 ปี ผู้ต้องหาคดีครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 มาตรา 19 และ 47 โดยคำร้อง ระบุว่า เนื่องจากต้องสอบสวนปากคำพยาน อีก 2 ปาก , รอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร และรอผลการตรวจพิสูจน์ซากสัตว์ป่าคุ้มครองของกลาง จากผู้เชี่ยวชาญของกรมประมง และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาประกอบสำนวนการสอบสวน ดังนั้นจึงขออำนาจศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อีกเป็นครั้งที่ 2 เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 - 19 ธ.ค.นี้
จากนั้นที่ห้องเวรชี้ เวลา 14.30 น. ศาลได้ดำเนินการฝากขัง ผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง ที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยผู้ต้องหาไม่คัดค้านการฝากขัง
ศาลจึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหา 10 คนได้ ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ


ไม่มีความคิดเห็น: