PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"เพชรชมพู กิจบูรณะ" ในการประชุม One Young World 2014

ในการประชุม One Young World 2014 เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 57 เมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ น้อง"เพชรชมพู กิจบูรณะ" ตัวแทนจากประเทศไทย กำลังศึกษาอยู่ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยเดอรัม ประเทศอังกฤษ สาขาวิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ อายุแค่ 20 ปี เธอคือคนที่ขึ้นไปพูดบนเวทีกปปส.ที่ราชดำเนิน เชื่อว่าหลายๆคนคงจำกันได้ เธอได้รับเกียรติกล่าวแนะนำด้วยความชื่นชมเป็นอย่างยิ่งจากอดีตประธานาธิบดีปานามา "นิโคลาส อาร์ดิโต้ บาเร็ตต้า" ให้ขึ้นไปพูดบอกเล่าถึงการชุมนุมต่อสู้ของ กปปส.บนเวทีที่ด้านล่างรายล้อมไปด้วยชาวต่างชาติ เธอพูดได้ดีและด้วยภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยม จนทุกคนปรบมือให้เธอ ไม่นานเราคงได้เห็นเธอกับบทบาททางการเมืองที่สำคัญในอนาคต
**********************************************
นิโคลาส อาร์ดิโต้ บาเร็ตต้า : ตอนนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้แนะนำทุกท่านให้ได้รู้จักผู้หญิงไทยคนนี้ "เพชรชมพู" ก่อนที่จะได้รู้จักกับเธอ ผมมีข้อคิดที่อยากจะมาแบ่งปันกับทุกท่านก่อน "ผู้นำ" ในความคิดของผมคือ คนที่ช่วยประชาชนค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงก่อนแล้วต่อมาถึงคอยช่วยแนะนำที่จะนำพาพวกเขาไปสู่จุดมุ่งหมายปลายทางได้ และอย่าล้มเลิกความตั้งใจจนกว่าจะทำสำเร็จ จนกว่าเราจะบรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ ผมขอฝากไว้แค่นี้นะครับ เรามาทำความรู้จักกับคุณเพชรชมพู กันเลยดีกว่า คุณเพชรชมพู เป็นนักศึกษชั้นปที่ 3 จากมหาวิทยาลัยเดอรัม ประเทศอังกฤษ เธออายุ 20 ปี เธอกำลังเรียนสาขาวิชาปรัชญา การเมือง และเศรษฐศาสตร์ ก่อนหน้าที่จะเกิดรัฐประหารขึ้นในประเทศไทย เธอได้แสดงความเป็นผู้นำผ่านกิจกรรมที่เธอทำที่ประเทศของเธอ ซึ่งผู้ที่ติดตามข่าวสารคงจะทราบกันอยู่แล้วว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีรัฐบาลชั่วคราวที่เป็นรัฐบาลทหาร ซึ่งได้สัญญาว่าจะเข้ามาแก้ไขระบบและคืนอำนาจประชาธิปไตยให้ประชาชนภายในปีหน้า เธอได้กลับประเทศไทยในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วในขณะที่ประเทศไทยยังมีความวุ่นวาย อันเนื่องมาจากปัญหาคอร์รัปชั่นและปัญหาของระบอบประชาธิปไตยของรัฐบาลในขณะนั้น ที่พยายามทำให้คอร์รัปชั่นถูกกฏหมายและสร้างความล่าช้าให้กับคดีคอร์รัปชั่นในชั้นศาล รวมทั้งพยายามล้มล้างคำพิพากษาในคดีคอร์รัปชั่นที่ตัดสินไปแล้วทั้งหมด พวกเขาจึงออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านระบอบประชาธิปไตยที่เต็มไปด้วยการทุจริตคดโกง คุณเพชรชมพูก็ได้เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย เธอขึ้นพูดบนเวทีหลายครั้งต่อหน้าคนเรือนแสน และแสดงความคิดเห็น รวมถึงช่วยผลักดันให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้ก้าวต่อไป ด้วยอายุน้อยนิดเพียงเท่านี้ ถือว่าเป็นการกระทำที่กล้าหาญมาก ในขณะเดียวกันทางด้านตำรวจเองก็ไม่ได้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนต้องหาทางป้องกันตนเอง ซึ่งคุณเพชรชมพูก็โดนข่มขู่อยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังสู้ต่อไป จนท้ายที่สุดกองทัพก็ได้เข้ามาแทนที่รัฐบาลในการรักษาความมั่นคง ทุกท่านก็คงจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมผมถึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้แนะนำผู้หญิงที่กล้าหาญคนนี้ แม้ว่าเธอจะยังเป็นนักศึกษาอยู่ แต่เธอก็ได้แสดงความตั้งใจที่จะกลับไปช่วยพัฒนาประเทศไทยต่อไป
**********************************************
เพชรชมพู กิจบูรณะ : เมื่อความอยุติธรรมกลายเป็นกฎหมาย การต่อต้านจึงกลายเป็นหน้าที่ ประโยคอันทรงพลังนี้ของ "โทมัส เจฟเฟอสัน" ได้รวบรวมจิตวิญญาณของการลุกฮือครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยได้เป็นอย่างดี ย้อนกลับไปวันที่ 1 พ.ย. 2556 ณ เวลาตี 4 รัฐบาลไทยได้ผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านสภาผู้แทนราษฎรจนผ่านไปได้ พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นความพยายามที่จะนิรโทษกรรมใครก็ตามที่มีคดีความติดตัวจากปัญหาการเมืองในไทยตั้งแต่ปี 2547 ถึงปี 2553 ถึงแม้ว่าในทางทฤษฎีแล้ว การนิรโทษกรรมจะเป็นความพยายามในการปรองดอง แต่รายละเอียดของ พ.ร.บ.ฉบับนี้กลับบ่งชี้ไปถึงบางอย่างที่น่ากลัวกว่านั้นมาก ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่านวุฒิสภาไปได้ก็จะส่งผลให้เกิดการนิรโทษกรรมนักการเมืองระดับสูงหลายคนจากคดีคอร์รัปชั่น คดีอาญา ทั้งยังสามารถยุติคดีความในชั้นศาล และล้มล้างคำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องที่ศาลตัดสินไปแล้ว สำหรับหลายๆคน การออก พ.ร.บ.ฉบับนี้คือฟางเส้นสุดท้าย อย่างเช่น การที่รัฐบาลใช้นโยบายประชานิยมเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงที่แลกมาด้วยการทำลายระบบเศรษฐกิจ แต่ยิ่งไปกว่านั้น การที่พวกเขาพยายามทำให้คอร์รัปชั่นถูกกฎหมายนั้น ได้สร้างปัญหาอันใหญ่หลวงให้กับประเทศ อยากให้ลองฟังชัดๆอีกรอบนะคะ "ความพยายามทำให้คอร์รัปชั่นถูกกฎหมาย" ในหลายๆประเทศทั่วโลก คนรุ่นใหม่มักจะหมดศรัทธากับการเมือง เพราะปัญหารุมเร้าทั้งเรื่องคอร์รัปชั่น การเล่นพรรคเล่นพวกและความไม่ซื่อสัตย์ในระบบ อย่างไรก็ตามในประเทศนั้นๆ อย่างน้อยก็ยังมีกฎหมายที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า ใครก็ตามที่ทความผิด จะถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด แต่เมื่อหลักนิติธรรมในไทยได้ถูกทำลายลงอย่างนี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะลุกขึ้นต่อต้านการลุแก่อำนาจอย่างใหญ่หลวงในครั้งนี้ แน่นอนว่าการลุกขึ้นมาสู้ครั้งนี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยยังเชื่ออยู่ว่า คอร์รัปชั่นเป็นสิ่งที่รับได้หากตนได้ประโยชน์ด้วย ใครที่เห็นต่างก็ถูกข่มขู่ให้กลับไปอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ในฐานะคนรุ่นใหม่ เราไม่สามารถอยู่เฉยและปล่อยให้การคอร์รัปชั่นเป็นวัฒนธรรมของชาติได้อีกต่อไป เพราะฉะนั้น ดิฉันจึงตัดสินใจเข้าร่วมการต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ เพื่อร่วมสร้างความเข้าใจถึงผลร้ายของคอร์รัปชั่นและความหมายของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง (เสียงปรบมือดังลั่นห้อง) น้องเพชรชมพูยิ้มตอบรับเสียงปรบมือจากผู้ฟังด้านล่าง
.
เพชรชมพู กิจบูรณะ : หากแต่ว่าการเคลื่อนไหวของเรานั้นต้องประสบกับการขู่ทำร้ายและการใช้ความรุนแรง ดิฉันขึ้นพูดบนเวทีทั้งหมด 4 ครั้ง ต่อหน้าผู้ฟังกว่าแสนคน หลังจากนั้น คนที่เห็นต่างจากสิ่งที่ฉันพูด ก็ได้เข้ามาขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายหรือแม้แต่ดักข่มขืน ถ้าเขาเห็นดิฉันอีก ระหว่างระยะเวลา 7 เดือนกว่า ที่เราชุมนุมกันอย่างสันติ มีการใช้อาวุธสงคราม เช่น M-16 , M-79 ยิงใส่ผู้ชุมนุม หลายเวทีโดนโจมตีไม่เว้นแต่ละวัน ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก 28 คน เสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บกว่า 834 คน สุดท้ายก็ไม่สามารถจับผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ พวกเขาคิดว่าความหวาดกลัว จะทำให้พวกเราถอยหนี แต่พวกเขาคิดผิดแล้ว ยิ่งเขาใช้ความรุนแรงกับพวกเราเท่าไหร่ คนที่เข้ามาร่วมยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จากร้อยเป็นพัน จากพันเป็นหมื่น และจากหมื่นเป็นล้าน สิ่งที่ชัดเจนก็คือ คนไทยในยุคนี้มีความตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น และมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น หัวใจของประชาธิปไตยอยู่ที่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน การลุกฮือครั้งนี้จึงถือได้ว่าบรรลุเป้าหมาย(เสียงปรบมือดังกึกก้องอีกครั้ง)
.
เพชรชมพู กิจบูรณะ : การชุมนุมยุติลงเมืองทางกองทัพก้าวเข้ามารักษาความมั่นคง นานาชาตินั้นต่างเร่งประนามการรัฐประหารครั้งนี้ โดยมองข้ามการที่ไทยแบกรับความขัดแย้งทางการเมืองที่หนักหนาในหลายเดือนก่อนหน้า ถ้ากองทัพไม่ได้แทรกเข้ามาระหว่างความขัดแย้ง คงจะต้องมีการนองเลือดมากไปกว่าที่เกิดขึ้นก็เป็นได้ เราตระหนักดีว่า การที่กองทัพเข้ามายึดอำนาจนั้น ไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด หากแต่ระบบการเมืองนั้นกำลังล้มเหลว ต้องมีใครทำอะไรสักอย่าง ยังมีอีกหลายเรื่องที่ประเทศไทยต้องก้าวผ่าน และเราก็มุ่งมั่นที่จะใช้โอกาศนี้ในการปฏิรูปประชาธิปไตยให้ดีที่สุด สุดท้ายนี้ กรุงเทพฯได้รับเกียรติจัดงาน One Young World ในปีหน้า พวกเราจึงขอโอกาสเรียนเชิญทุกท่านให้มาสัมผัสประเทศไทยที่ทั้งทันสมัยและร่ำรวยด้วยวัฒนธรรมด้วยตัวท่านเอง แม้สยามเมืองยิ้มนั้นจะยังอยู่ในกระบวนการค้นหานิยามประชาธิปไตยของเราอยู่ แต่เราก็พร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานอันยิ่งใหญ่นี้ ขอเรียนเชิญอีกครั้งค่ะ มาพบกันที่กรุงเทพฯปีหน้า และเราจะมาร่วมกันสร้างโลกที่ก้าวหน้า กลมเกลียว และเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันค่ะ ขอบคุณค่ะ (เสียงปรบมือพร้อมเสียงโห่ร้องด้วยความชื่นชมดังกระหึ่มห้องอีกครั้ง)
**********************************************
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=I6GZ-xMDHgc&feature

ไม่มีความคิดเห็น: