PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

ชะตา"ปู"ชะตาตู่

วันชี้ "ชะตาตู่" มากกว่า "ชะตาปู"

    เป็นไง...ดูและฟังการแถลงเปิดคดีถอดถอน "สมศักดิ์-นิคม" ไปเมื่อวาน พอมองเห็นอะไรๆ นอกเหนือจากที่ "เห็นด้วยตา" บ้างมั้ย?
    นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ สละสิทธิ์การแถลงแจงโต้ ปล่อยให้นายนิคม ไวยรัชพานิช เก่ง-กร่างกลางสภา สนช.คนเดียว
    แต่ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่คงไม่ได้ดูซักเท่าไหร่ เพราะโทรทัศน์โดยเฉพาะช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ ไม่ได้ถ่ายทอดสด
    คงมีแต่คอการเมืองและผู้ถือหางแต่ละฝ่ายเท่านั้นกระมังที่ต้องตะกายหาดูกันทางโทรทัศน์ดาวเทียมช่องรัฐสภา
    ทีนิวส์ ของเสี่ยต้อยเพื่อนผมก็ถ่าย ผมดูแวบๆ รำคาญตัวเองที่ดูไป เห่าไป คือไอไม่หยุด เลยหนีไปนอนหลบไข้ส่งเดชไปเลย
    ทันได้ดูนายนิคมแสดงบทพระเอกผู้พิทักษ์ศักดิ์ศรี "สภาทาสระบอบทักษิณ" ในสมัยนั้น ด้วยโวว่าไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่อยู่หน่อย
    ยังพองและพูด "คำโต" เหมือนเดิม!
    และในการประชุมเมื่อวาน ก็ยังช่วยทำให้พอรู้จักและพอใจเข้าใจตัวตนของคนที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติชัดเจนขึ้นหลายคน อย่างเช่น พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์
    ในเรื่องที่ควรให้ประชาชนได้รับรู้-รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง จากการแถลงเปิดคดี พล.ต.อ.สมจิตรกลับเสนอให้ "ประชุมลับ" ซะงั้น
    ทำเอางันและงง ทั้งในและนอกสภาฯ ไปเลย!?
    พล.ต.อ.ชัชวาลย์ยืนยันในเหตุผลควรประชุมลับว่า..........
    "แม้สถานการณ์บ้านเมืองเหมือนจะเข้าสู่ปกติ แต่ในความเป็นจริงกลับยังมีประชาชนที่เฝ้าติดตามที่แบ่งเป็นสองฝ่าย และหากปล่อยให้มีการประชุมในเปิดเผย ก็อาจนำมาความแตกแยกในบ้าน

เมือง ซึ่งผมเชื่อว่าจะสร้างผลเสียมากกว่าผลดีอย่างแน่นอน"
    ทำให้ต้องโหวตเสียงว่าจะลับ-ไม่ลับ ซึ่งผลโหวตออกมา
    ๑๐๗ เสียง ไม่เห็นด้วยกับการประชุมลับ
    ๗๐ เสียงเห็นด้วย
    งดออกเสียง ๑๙ เสียง
    ไม่ลงคะแนน ๑ เสียง
    ก็ถือเป็นการ "เช็กเสียง-เช็กฝ่าย" ไปโดยปริยาย ไม่ใช่ "ฝ่ายป้อม-ฝ่ายตู่" หากแต่เป็นฝ่ายจะถอดหรือไม่ถอดน่ะ!
    จำนวน สนช. มี ๒๒๐ คน แต่ดูจากเสียงโหวตเมื่อวาน มาประชุมกันแค่ ๑๙๗ คนเท่านั้นเอง
    แถมยังเป็นพวก บี้-บอด-ใบ้ อีก ๑๙ หน่อ มีแต่ร่าง แต่ไม่มีจิตวิญญาณอีก ๑ หน่อ
    เห็นอย่างนี้แล้ว จะถอดได้ที่ต้องใช้เสียง ๓ ใน ๕ คือ ๑๓๒ เสียง มันยากเย็นยิ่งกว่าเข็นให้ทักษิณกลับมาสร้างฮวงซุ้ยในประเทศไทย!
    แต่ สนช.ประเภท "บี้-บอด-ใบ้" กลับเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่น และเติบโตเร็วเกินคาด จำได้มั้ย ตอนโหวตว่าจะรับเรื่องถอดถอนหรือไม่รับ "งดออกเสียง" มีแค่ ๑๕
    เมื่อวาน เพิ่มอีกตั้ง ๔ เป็น ๑๙ แน่ะ!
    อย่างนี้ ยิ่งลักษณ์น่าจะแถลงโต้ข้อกล่าวหา ป.ป.ช.ในสภาฯ วันนี้ (๙ ม.ค.๕๘) ได้แฉล้มแช่มช้อยสำออยสำอาง ด้วยมั่นอก-มั่นใจยิ่งขึ้นว่า...
    "ต่อให้โหวตถึงชาติหน้าบ่ายๆ ก็ยังได้เสียงไม่ถึง ๑๓๒"!
    ถ้าเป็นในศาล ยึดบรรทัดฐานกฎหมายชี้ขาด
    แต่ใน สนช.รัฐบาล คสช.ตั้ง...........
    ยึดกฎหมาย หรือยึดฝ่าย เป็นตัวชี้ขาด.........เดี๋ยวก็รู้ มือนายพล นายหมื่น ในสภา สนช. กับมือราษฎรเต็มขั้นนอกสภาฯ ในความมาก-น้อยกว่ากันนั้น
    มือฝ่ายไหนจะกร้านและแกร่งกว่ากัน?
    จากการแถลงเปิดคดี ทำให้รับรู้-รับทราบว่า ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนำมาสู่การถอดถอนสมศักดิ์-นิคมมีอะไรบ้าง ก็ยกมาจากที่ "ท่านวิชา มหาคุณ" แถลงเปิดคดีในสภาฯ ดังนี้
    นายนิคม ไวยรัชพานิช สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานฯ มูลความผิด ฐานส่อว่าจงใจใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓ วรรคสอง และมาตรา ๒๙๑
         เนื่องจากใช้อำนาจรับญัตติให้ปิดอภิปราย ทั้งที่มีผู้ขอแปรญัตติ ผู้สงวนคำแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็น รอการอภิปรายอยู่ จึงเป็นการตัดสิทธิ์โดยใช้เสียงข้างมากในที่ประชุมปิดการอภิปราย

จึงเป็นมูลเหตุให้ถอดถอนจากตำแหน่ง
    ขอให้ดำเนินการถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา ๖ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.๒๕๕๗ ประกอบมาตรา ๖๘ ของ พ.ร.บ.

ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.๒๕๔๒
    ส่วนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภานั้น เมื่อวานไม่มาและไม่ส่งตัวแทนมา ประธาน สนช. "นายพรเพชร วิชิตชลชัย" สรุปว่า ถือว่าไม่ประสงค์แถลงคัดค้านข้อกล่าวหา
    ขั้นตอนแถลงเปิดคดีถอดถอน "สมศักดิ์-นิคม" จึงจบแค่นี้ เหลืออีก ๒ ขั้นตอนก็จะลงมติถอด-ไม่ถอด ประมาณปลายเดือนมกรานี้
    สำหรับมูลความผิดนายสมศักดิ์ ตามที่ท่านวิชา มหาคุณ ป.ป.ช.แถลงเปิดคดี เป็นดังนี้
    "เป็นการกระทำที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๓ วรรคสอง มาตรา ๑๒๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง และมาตรา ๒๙๑ อันเป็นมูลเหตุให้ถูกถอดถอนออกจาก

ตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๒๗๐ และมาตรา ๒๗๔
    ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาตรา ๕๖ มาตรา ๕๘ มาตรา ๖๑ และมาตรา ๖๒"
    สรุปแล้ว การชี้มูลความผิด หรือพูดง่ายๆ ว่า ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.ตั้งกับนายสมศักดิ์และนายนิคม ไม่เพียงปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี ๕๐ ที่ยกเลิกไปแล้วเท่านั้น
    ยังผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คือ พ.ร.บ.ป.ป.ช.ที่ยังใช้อยู่ปัจจุบันด้วย
    ฉะนั้น ถึงไม่มีรัฐธรรมนูญ ปี ๕๐ ก็ยังมี พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๔ เป็นบทลงโทษได้อยู่
    ก็ไปหา พ.ร.บ.ป.ป.ช. พ.ศ.๒๕๔๒ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๕๔ อ่านในมาตราตามข้อหานี้เอาเองละกัน ช่วยเปิดอ่านแทนด้วย ผมขี้เกียจเปิดตอนนี้
    สรุปอีกที เป็นอันว่าจบปฐมบทถอดถอน "สมศักดิ์-นิคม" ไปเมื่อ ๘ ม.ค.๕๘ รอชี้ขาดถอดได้-ไม่ได้ ปลายเดือนมกรา
    และขอนำคำแถลงปิดท้ายของท่านวิชา มหาคุณ มาบันทึกเป็นเครื่องกระตุกสำนึกไว้ด้วย ดังนี้....
     “คดีของนายนิคมและสมศักดิ์ถือเป็นอนาคตของชาติในการตรวจสอบทุจริตและประพฤติมิชอบของประเทศที่ไม่ใช่แค่รับสินบน หรือผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
    แต่ยังหมายถึงจริยธรรมและคุณธรรม ที่เป็นหลักในการปกครองประเทศ ดังเช่น มหาตมะ คานธี นักต่อสู้สันติวิธีของประเทศอินเดีย เคยพูดไว้”
    ก็เอาละ......!
    ส่วนวันนี้ ๙ ม.ค. ถึงคิวถอดถอนแม่เนื้อนิ่ม "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในมูลความผิด.....
     ปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้เกิดความเสียหายเป็นประวัติการณ์-ประวัติศาสตร์ชาติ
    คงไม่ต้องนำมาจิ้ม-มาไชอีกกระมัง เพราะแจกแจงให้ทราบไปแล้วแต่วาน อยากบอกกันแต่เพียงว่า
    จาก "ท่าที" สมาชิก สนช.ในสภาฯ ที่รู้หน้า แต่ไม่รู้ใจ แต่เมื่อวาน ก็ทำให้เรารู้ทั้งหน้า-รู้ทั้งใจ ได้พอสมควร
    ผมไม่ห่วงหรอกว่า เมื่อผลโหวตออกมา ถ้าถอดถอนใครไม่ได้เลย แล้วจะเกิดปฏิกิริยาสังคมเป็นมุมลบต่อรัฐบาล คสช.
    เพราะหมู่นี้ ได้ยิน "บิ๊กป้อม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เปล่งสีหนาทผงาดโลกบ่อยเหลือเกินว่า...เอาอยู่
    แต่ห่วง "สมอลตู่"!
    เพราะเป็นผู้นำยึดอำนาจประเทศ เป็นผู้ให้คำมั่นสัญญาประชาชน "ไม่ปรองดองกับโจร" และมุ่งปราบพวกกินบ้าน-โกงเมืองทุกรูปแบบ
    ประชาชน "ยอมทน" ทุกอย่างถึงวันนี้............
    เพราะรักนายกฯ ลุงตู่ ไว้ใจและเป็นกำลังใจให้นายกฯ ลุงตู่
    แต่ถ้า....เหล่าคนที่ท่าน "ตั้งมากับมือ".........
    ทำเหมือน "เอาเท้าลบ" คำมั่นสัญญาของท่านต่อประชาชน
    จะเหลือคน "ทนเพื่อท่าน" ซักเท่าไหร่
    ........ใจผมก็ยากคำนวณจริงๆ.

ไม่มีความคิดเห็น: