PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สถานการณ์ข่าว10ก.พ.58

ความมั่นคง

ประชุม ครม. วันนี้ พล.อ.ประวิตร นั่งหัวโต๊ะ ขณะ นายกฯ มีกำหนดกลับถึงไทยช่วงค่ำวันนี้ 

ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ ในเวลาประมาณ 09.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ยังคงอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.นี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดการเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันนี้  

ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นที่น่าสนใจนั้น ในเวลาประมาณ 14.30 น. นายมาร์ค แอนดรูว์ เจฟฟรีย์ เคนต์ (H.E. Mr. Mark Andrew Geoffrey Kent) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เข้า
เยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1
-------------
ทนายความ นปช. เตรียมยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง-ขอปล่อยตัวชั่วคราว "กฤษณ์" ต่อศาลทหาร

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ มีความเเน่นอนแล้วว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จะนำตัว นายกฤษณ์ บุดดีจีน ผู้เผยแพร่แถลงการณ์ปลอม มาขออำนาจศาลทหารฝากขัง จากข้อกล่าวหาตาม มาตรา 112 เเละ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2) (4) (5) โดยวันนี้ทนายความจะยื่นคำร้องขอคัดค้านการฝากขัง พร้อมคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่หากศาลไม่อนุมัติจะทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศาล เพราะจากการสอบถาม นายกฤษณ์ พบว่าไม่มีเจตนาอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน เป็นเพียงการแชร์ข้อมูลทั่วไป แต่เมื่อไม่มีประกาศออกมาเป็นทางการ จึงลบข้อความออกจากโซเชียลมีเดีย สำหรับช่วงเวลาที่ นายกฤษณ์ ถูกควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก ได้รับการดูแลจากทหารภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เป็นอย่างดี
---------------
เครือข่าย ปชช. ปกป้องประเทศ-สภาปฏิรูปพลังงานไทย ยื่น ป.ป.ช. สอบ "ณรงค์ชัย-คกก.ปิโตรเลียม-อารีพงศ์-คุรุจิต-พวงทิพย์"

บรรยากาศที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในช่วงเช้าวันนี้ กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมาภิบาล สภาปฏิรูปพลังงานไทย นำโดย น.ส.สมนึก คำผ่อง เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, คณะกรรมการปิโตรเลียม, นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน, นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน และ นางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิง ว่า เข้าข่ายมีความผิดทุจริตต่อการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในพฤติการณ์ที่ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากกรณีที่สนับสนุนให้เปิดสัมปทานปิโตรเลียม ครั้งที่ 21 หรือไม่

ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯ ได้บอกว่าถึงแนวทางการเคลื่อนไหวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้มวลชนออกมาแสดงพลังครั้งใหญ่ใน 16 ก.พ. 58 ที่ทำเนียบรัฐบาล และยืนยันจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ จนกว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ
---------------------
ทูตสหราชอาณาจักรเผยอังกฤษยังเป็นมิตรกับไทยทุกด้าน พร้อมร่วมมือเขียน รธน. หากเป็นประโยชน์ 

นายมาร์ค แอนดรูว์ เจฟฟรีย์ เคนต์ (H.E. Mr. Mark Andrew Geoffrey Kent) เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการเข้าพบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่
ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ว่า ความสัมพันธ์และท่าทีของประเทศอังกฤษยังคงเป็นมิตรกับประเทศไทยในทุกด้าน

นอกจากนี้ การเขียนกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญที่อังกฤษยินดีร่วมมือกับไทย หากเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เพราะไทยเป็นประเทศต้องเดินหน้าพัฒนาต่อไป อย่างไรก็ตาม การปกครองเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและประชาชนไทย ซึ่งหากประเทศอังกฤษมีความเป็นห่วงสิ่งใดจะส่งข้อความมายังรัฐบาลไทยให้รับทราบต่อไป
-------------------------
โฆษก สตช. เผย คืบหน้าคดีความมั่นคง ทั้ง ระเบิดพารากอน แถลงการณ์ปลอม ไฟไหม้ไทยพาณิชย์ ไม่โยงกลุ่มเดียวกัน ยันคดีคืบหน้าทุกคดี

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะ โฆษก สตช. เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตามที่เกิดคดีที่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เกี่ยวเนื่องกับความมั่นคง ทั้งคดีวางระเบิดทางเชื่อมสยามพารากอน คดีแถลงการณ์ปลอม หรือ คดีเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ยืนยันว่า ทั้ง 3 คดี ไม่เกี่ยวข้องกันเลย เป็นคนละกลุ่มที่ก่อเหตุ คดีเพลิงไหม้ไทยพาณิชย์ ก็เช่นกัน ยังชี้ชัดว่าจากอุบัติเหตุ หรือลอบวางเพลิง

โฆษก สตช.กล่าวอีกว่า คดีระเบิดพารากอน นั้น มีความคืบหน้ามากแล้ว เพียงแต่ไม่ทราบว่า ผู้ก่อเหตุ 2 คน ที่ออกหมายจับไปแล้วคือใคร และไม่ชัดเจนว่ายังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ แต่ ตร.ก็พยายามที่จะหาตัวมาให้ได้ เพื่อคลี่คลายคดีถึงคนบงการ ส่วนคดีแถลงการณ์ปลอมนั้น หลังจากจับตัวการระดับหัวได้ 1 คน ก็เริ่มจะเข้าใกล้คนบงการตัวจริงเช่นกัน ส่วนคดีเพลิงไหม้ ธ.ไทยพาณิชย์ นั้น ไม่ใช่เรื่องการสร้างสถานการณ์แน่ แต่จะเป็นอุบัติเหตุ ความประมาท หรือวางเพลิงนั้น ต้องรอผลพิสูจน์ของ พฐ. อีกครั้งหนึ่งก่อน
--------------------
ผกก.อีโอดี เผย ผบ.ตร. กำชับเฝ้าระวังดูแลจุดเสี่ยง กทม. ป้องเหตุป่วนเมือง ไม่ได้เข้าตรวจเหตุระเบิดที่สรรพาวุธ 

พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี กองบังคับการสายตรวจ ปฏิบัติการพิเศษ บช.น. เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตามที่ทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับกำลังพลในสังกัดวานนี้นั้น ได้กำชับให้ ทาง อีโอดี ดูแลเฝ้าระวังตรวจตราวัตถุต้องสงสัย ในจุดเสี่ยงใน กทม. ให้เข้มข้นมากขึ้น และได้ชมเชยหน่วยงานอีโอดี ว่า เป็นหน่วยงานของตำรวจที่ประชาชนรักไว้ใจ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งกำลังพล เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชม. อยู่แล้ว

นอกจากนี้ กรณีเหตุระเบิดที่กรมสรรพาวุธทหารบก วานนี้นั้น ทางทหารไม่ได้ประสานอีโอดี เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุแต่อย่างใด เพราะทางทหารมีหน่วยงานอีโอดีอยู่แล้ว จะมีเพียง ตร.ท้องที่ ที่เขาไปเก็บรายละเอียดในการลงบันทึกประจำวันเท่านั้น
----------------------
โฆษก สตช. เผย ยังไม่นำตัว "หัสดิน" มาแถลงข่าววันนี้ ระบุ ทหารควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก 7 วัน ก่อนส่งตัวให้ ตร.ดำเนินการต่อ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช. เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตามที่ ทาง ตร.ปอท. และทหาร ได้เข้าจับกุมตัว นายหัสดิน อุไรไพรวัน นามแฝง "บรรพต" Banpodj ผู้ที่เป็นหัวหน้าขบวนการและผลิตคลิปเสียงหมิ่นสถาบัน โดยจับกุมได้ที่ห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยศูนย์วิจัย ค่ำคืนวานนี้นั้น ตร. จะยังไม่นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวในวันนี้แต่อย่างใด เนื่องจากทหารได้ควบคุมตัวไปสอบสวนตามกฎอัยการศึก เป็นเวลา 7 วันก่อน จึงจะนำตัวมาให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อ ดังนั้น จึงยังไม่สามารถเปิดเผยถึงการขยายผลสอบสวนในคดีนี้ ว่า ผู้บงการคือใครกันแน่
------------------------
ทนาย นปช. เตรียมยื่นคัดค้านฝากขังพร้อมขอปล่อยตัวชั่วคราวมือเผยแพร่แถลงการณ์ปลอม ด้านอดีตผู้ดูแลเว็บ ASTV รับทราบข้อกล่าวหาที่ ปอท.แทน

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่ม นปช. เปิดเผยว่า ในวันนี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. จะนำตัว นายกฤษณ์ บุดดีจีน ผู้เผยเเพร่แถลงการณ์ปลอม มาขออำนาจศาลทหารฝากขัง จากข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) (4) (5)

ทั้งนี้ นายวิญญัติ บอกว่าจะยื่นคำร้องขอคัดค้านการฝากขัง พร้อมคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว แต่หากศาลไม่อนุมัติจะทำหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศาล เพราะจากการสอบถาม นายกฤษณ์ พบว่า ไม่มีเจตนาอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน เป็นเพียงการแชร์ข้อมูลทั่วไป แต่เมื่อไม่มีประกาศออกมาเป็นทางการ จึงลบข้อความออกจากโซเชียลมีเดีย สำหรับช่วงเวลาที่ นายกฤษณ์ ถูกควบคุมตัว
ตามกฎอัยการศึก ได้รับการดูแลจากทหารภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เป็นอย่างดี

ขณะที่วันนี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของ นายนิรันดร์ เยาวภา อดีตผู้ดูแลเว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการ ผู้ต้องหาเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เปิดเผย
ว่า วันนี้จะได้พาผู้ต้องหามาขึ้นศาลทหาร เพื่อเข้าสู่กระบวนการไต่สวน และจะมีการยืนรับคำร้องต่อศาล กรณีขอเพิกถอนหมายจับ ล่าสุด มีรายงานว่า ทางศาลทหาร  กรุงเทพฯ ไม่อนุญาตในการเพิกถอนหมาย จึงจะนำตัว นายนิรันดร์ ไปรับทราบข้อกล่าวหากับตำรวจที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. แทน
----------------------------
โฆษก สตช. เผย หัสดิน ยอมรับว่าเป็น บรรพต หมิ่นเบื้องสูง ประสาน ปปง. สอบเส้นทางการเงินขบวนการนี้

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีจับกุมตัว นายหัสดิน อุไรไพรวัน เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าที่ทหารเข้าควบคุมตัว นายหัสดิน ภายในม่านรูดแห่งหนึ่ง ย่านมักกะสัน โดยขณะนี้มีการควบคุมตัวไว้ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยใช้อำนาจตามประกาศกฎอัยการศึก เพื่อทำการสอบปากคำหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่า นายหัสดิน เป็นหัวหน้าขบวนการที่ใหญ่ที่สุดในเครือข่าย บรรพต ยืนยันว่า นายหัสดิน เป็นผู้ใช้นามแฝง "บรรพต" Banpodj ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการผลิตคลิปเสียงหมิ่นสถาบัน

และก่อนหน้านี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกับเครือข่ายบรรพตไปแล้วจำนวน 6 คน ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายหัสดิน เป็นระดับผู้สั่งการ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบการกระทำผิดที่เชื่อมโยงกับกลุ่มใด

อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานไปยัง ปปง. เพื่อให้ทำการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของเครือข่ายดังกล่าว พร้อมทั้งติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป
------------------------
เว็บมาสเตอร์เอเอสทีวี เตรียมเดินทางมอบตัวกับ ตร.ปอท. คดีเผยแพร่แถลงการณ์ปลอม จ่อยื่นประกันตัวต่อศาล

นายนิรันดร์ เยาวภา เว็บมาสเตอร์เอเอสทีวีผู้จัดการ พร้อม นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ เตรียมเดินทางเข้ามอบตัวตามหมายจับในคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้ฟ้องข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีโพสต์แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ปลอม โดย นายสุวัตร ได้ยืนขอต่อศาลเพื่อขอยกเลิกหมายจับ แต่ทางศาลได้ปฏิเสธการยกเลิกขอหมายจับตามที่ทนายยื่นคำร้อง จึงได้นำตัว นายนิรันดร์ ไปที่ ปอท. เพื่อมอบตัวและสอบปากคำ และคาดว่าในช่วงบ่ายของวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ปอท. จะพาตัว นายนิรัดร์ กลับมายังศาลทหารเพื่อยืนขอการประกันตัวต่อไป
--------------------------
ทนายความ พร้อม บก.เว็บไซต์ เอเอสทีวี มอบตัวต่อ ตร.ปอท.แล้ว คดีแถลงการณ์ปลอม เตรียมฝากขังศาลทหารต่อไป

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ขณะนี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความ พร้อม นายนิรันดร์ เยาวภา อดีตผู้ดูแลเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ ผู้ต้องหาหมิ่นสถาบัน ได้เข้ามามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พร้อมรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้ขอศาลออกหมายจับในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีที่ นายนิรันดร์ ได้โพสต์แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 13 ปลอม เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา

และคาดว่า หลังจากการสอบปากคำแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมทนายความมายังศาลทหาร กรุงเทพฯเพื่อยืนขอประกันตัวต่อไป ซึ่งจะอนุมติหรือไม่ อย่างไรนั้น อยู่ที่ดุลพินิจของศาล
----------------------
ทนายความ หนุ่มเพชรบูรณ์ คดีแถลงการณ์ปลอม เตรียมหลักทรัพย์ 2 ล้าน เพื่อขอยื่นประกันตัว ต่อศาลทหาร

นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน หรือ กนส. เปิดเผยถึง กรณีเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ

ปอท. จะนำตัว นายกฤษณ์ บุดดีจีน ผู้ต้องหาเผยเเพร่แถลงการณ์ปลอม มาขออำนาจศาลทหารฝากขัง ในข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ว่า

ในวันนี้จะได้มีการยื่นคำร้องขอคัดค้านการฝากขัง พร้อมคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมเตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่า 2 ล้านบาท เพื่อยื่นขอประกันตัว

โดยจากการสอบถาม นายกฤษณ์ ให้การภาคเสธ แต่ยืนยันว่า ได้โพสต์แถลงการณ์ดังกล่าวจริง เนื่องจากเอกสารดังกล่าวผิด แต่เมื่อทราบว่าเป็นแถลงการณ์ปลอม ไม่ถึง 30 นาที นายกฤษณ์ ก็ได้ลบ

ข้อมูลทิ้ง แต่ข้อมูลลิงค์ที่จากแหล่งที่มายังค้างในแอพพลิเคชั่น ทำให้เจ้าหน้าที่ออกหมายจับตามมา

โดย นายวิญญัติ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะได้มีการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงาน เพราะเห็นว่าการปฏิบัติดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องหา ทั้งการเข้าจับกุมโดยไม่มีหมายจับ ไม่ว่า

จะบอกว่าทำตามกฎอัยการศึก ก็ตาม ถึงอย่างไรก็ต้องมีขอบเขตของกฎหมายบ้าง รวมทั้งการใส่กุญแจทั้งๆ ที่ยังไม่มีการแจ้งกล่าวหา ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับกรณีของ นายนิรันดร์ เยาวภา อดีต
ผู้ดูแลเว็บไซต์เมเนเจอร์ แล้วมีความต่างกันมาก รวมทั้งการเอาผิดกับคนที่แชร์นั้น ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะอาจจะแชร์ไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการ ซึ่งทาง ปอท. ควรจะมีการตรวจสอบผู้ที่จัดทำให้ได้แน่

ชัดก่อน หรือมีการส่งหมายเรียกมาสอบปากคำ หรือเรียกปรับทัศนคติก่อนการแจ้งข้อหาด้วย
/////////////
ปปช./ยิ่งลักษณ์

ประธาน ป.ป.ช. เผย ส่งหนังสือเรียกตัว "ยิ่งลักษณ์" รายงานตัวกับ อสส. แล้ว

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในกระบวนการดำเนินคดีอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายก

รัฐมนตรี ที่ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ว่า ในวันนี้ เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือเรียกตัวให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อแจ้งให้ไปรายงานตัวต่อ

อัยการสูงสุด ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 10.00 น. เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ส่วนความคืบหน้า ในการส่งสำนวนคดีอาญา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับพวก ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)

โดยมิชอบ ให้แก่ อสส. ว่า ขณะนี้ กรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงลายชื่อในสำนวนเสร็จหมดแล้ว ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่รีบประสานกับฝ่าย อสส. อยู่ เนื่องจากต้องส่งสำนวนหลังวันที่ประชุม มีมติ

รับรองภายใน 14 วัน คาดว่าจะส่งสำนวนให้ อสส. ได้ภายในสัปดาห์หน้า
-----------------------
เลขา ป.ป.ช. เเถลงสำนวนกล่าวหา อภิสิทธิ์-พระสุเทพ สลายการชุมนุม ปี 53 ยังไม่สมบูรณ์ นำกลับพิจารณาส่งพิจารณาอีกครั้งใน 2 สัปดาห์

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการพิจารณาสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงข้อ

กล่าวหา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี สั่งให้สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อเดือนเมษายนถึง

พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ว่า คณะกรรมการเห็นว่าข้อเท็จจริงในสำนวนยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ และยังมีประเด็นข้อกฎหมายตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่

ต้องพิจารณา จึงให้คณะกรรมการไต่สวนฯ กลับไปพิจารณาอีกครั้ง และนำมาเสนอต่อที่ประชุมคฯะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในเวลา 2 สัปดาห์
--------------------
แม่ทัพภาค 3 ยัน ไม่ได้ค้นรถ ยิ่งลักษณ์ เเค่ตั้งจุดตรวจดูความมั่นคง ป้องกันหากมีคนร้ายขนยาเสพติดเท่านั้น

พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าทหารตรวจค้นรถ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ขอยืนยันว่าทหารไม่ได้ตรวจค้นรถของอดีตนายกรัฐมนตรี

แต่อย่างใด แต่ทางทหารของมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัดดูแลความมั่นคงเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ธนา จารุวัต เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า เป็นการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด หรือด่านตรวจความมั่นคงตามปกติ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะ

ตั้งด่านตั้งแต่เวลา 22.00-12.00 น. ของอีกวัน เพื่อรักษาความปลอดภัย ประกอบกับมีกระแสข่าวเรื่องยาเสพติดและความเคลื่อนไหวที่จะก่อความวุ่นวาย จึงต้องมีความเข้มงวดกวดขัน โดยไม่ได้

เป็นการเจาะจงบุคคลแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับ พล.ต.ศรายุทธ รังษี มณฑลทหารบกที่ 33 ยืนยันทหารไม่ได้ตรวจค้นรถของอดีตนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นการให้เกียรติดูแลรักษาความปลอดภัยเมื่อเข้ามาในพื้นที่ แต่ยอมรับว่ามีการ

ตรวจค้นรถในขบวน แต่ไม่ได้แตะต้องรถอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมปฏิเสธข่าวที่ว่ามีการตามประกบรถ เป็นเพียงแค่ดูแลรักษาความปลอดภัยเท่านั้น
---------------------------
พล.อ.ประวิตร ยัน คสช.ไม่ได้สั่งค้นรถยิ่งลักษณ์ ไม่ได้สั่งตามประกบกันหลบหนีออกนอกประเทศ เชื่อเจ้าหน้าที่ตรวจปกติรักษาความปลอดภัย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (

คสช.) ถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ทหารของกองทัพภาคที่ 3 เข้าตรวจค้นรถยนต์ของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยยืนยันว่าทาง คสช.ไม่ได้มีการสั่งการ แต่เป็นการดำเนินการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตามปกติเมื่อมีบุคคลสำคัญเดินทางเข้าไปในพื้นที่ เพื่อป้องกันการก่อกวนจากมือที่ 3 พร้อม

ยืนยันไม่มีการสั่งให้ติดตามประกบเพื่อป้องกันว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะเชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีความเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะต่อสู้คดีความ

ขณะที่ในที่ประชุมได้มีการแสดงความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งก็ได้มีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งหาวิธีการดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
--------------------
(ข่าวด่วน) ระทึกเจอระเบิดลูกเกลี้ยง ในโรงงานหลอมเหล็กย่านเพชรเกษม คาดคนขายของเก่ามาขาย แจ้ง อีโอดี มาเก็บกู้แล้ว

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่า พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ในโรงงานหลอมเหล็ก เบื้องต้น พบเป็นระเบิดลูกเกลี้ยง จำนวน 1 ลูก ห่อด้วยผ้าขนหนู ในโรงงานหลอมเหล็กไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 51 โดยเบื้องต้น จนท.ตร.ของ
สน.ภาษีเจริญ ได้มาถึงที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่าน่าจะมาจากคนที่ขายของเก่านำมาขายให้ ซึ่งล่าสุดกำลังรอให้ จนท.อีโอดี มา
ตรวจสอบและทำการเก็บกู้ต่อไป
--------------------
ผบช.น. ชี้ การสอบสวนคดีวางระเบิดพารากอนคืบไปกว่า 70% ลั่น ขออนุมัติหมายศาลจับเพิ่มอีก 1 คน

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยภายหลังการประชุมความคืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ว่า ขณะนี้การสืบสวนทางคดีมี

ความคืบหน้าไปมากกว่า 70% แล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่สามารถเห็นรูปพรรณ ใบหน้าของผู้ต้องหาชัดเจน เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานในการ

วินิจฉัยส่งฟ้องต่อศาลได้

ขณะเดียวกัน ได้ขออนุมัติศาลอาญารัชดา ออกหมายจับ 2 ผู้ต้องสงสัยตามการซัดทอด ซึ่งเป็นระดับปฎิบัติการและเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์จับกุมระเบิดไปป์บอม จำนวน 23 ลูก ในพื้นที่ สน.บางเขน

เมื่อปี 57 ซึ่งศาลได้อนุมัติหมายจับไปแล้ว จำนวน 1 คน แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คนนี้ไม่ใช่บุคคลที่เจ้าหน้าที่เคยควบคุมตัวมาสอบสวน

ส่วน 2 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับตามภาพไปก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้

เร่งรัดจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุดเพื่อความสงบสุขและความปลอดภัยของประชาชน

/////////////
สปช.

"พีระศักดิ์" ระบุ สนช. ติดตาม คืบหน้า ยกร่าง รธน. ต่อเนื่อง ประชุมวิป วันนี้ หารือ เกี่ยวกับการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ครั้งต่อไป

นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 เปิดเผยกับ สำนักข่าว INN ว่า ในส่วนของ สนช. ได้มีการขอความคืบหน้า ในการยกร่างรัฐธรรมนูญ ต่อ กรรมาธิการยกร่าง

รัฐธรรมนูญ อย่างต่อเนื่อง และมีการเสนอความเห็นกลับไป เป็นระยะๆ เพื่อความรัดกุม ในการดำเนินการ ส่วนการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นครั้งต่อไปในช่วงต้นเดือนหน้า จะไปยังจังหวัดภาคใต้

หลังจากนั้นก็จะเป็นจังหวัดทางภาคกลาง และภาคเหนือ ต่อไป

ส่วนการประชุมกรรมาธิการกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) ในวันนี้จะมีการหารือเกี่ยวกับการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ครั้งต่อไป รวมถึง การบริหารการประชุมจัดวาระการประชุม แต่ยังไม่

แน่ใจ จะมีการนำเรื่องประเด็นการถอดถอน 38 อดีต ส.ว. หารือด้วยหรือไม่ แต่เบื้องต้น ได้มีการกำหนดวันแถลงเปิดคดีชัดเจนแล้ว
--------------
อนุ กมธ.ปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองและองค์กรอิสระ เชิญ ปธ. กสม.หารือ ปม ควบรวม กับผู้ตรวจการแผ่นดิน 

บรรยากาศความเคลื่อนไหวล่าสุดที่รัฐสภา คณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองและองค์กรอิสระ ในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง นัดสมาชิกประชุม โดยมีวาระการประชุมเพื่อ

พิจารณาโครงสร้างขององค์กรอิสระ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองและองค์กรอิสระ จึงได้เชิญ ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ

เลขาฯ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวเข้ามาร่วมหารือ เนื่องจากมีหลายกลุ่มออกมาคัดค้านการควบรวมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
และผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าด้วยกัน อีกทั้ง ยังเป็นแนวทางที่คณะกรรมธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องการฟังความเห็นเพิ่มเติมในขั้นกรรมาธิการ
--------------------
อนุ กมธ.ปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง-องค์กรอิสระ ไม่เห็นด้วย ควบ กสม.กับผู้ตรวจฯ เตรียมเชิญองค์กรอิสระอื่นๆ หารือ

นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมืองและองค์กรอิสระ ในคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ได้เชิญ ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์

ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และเลขากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวเข้ามาร่วมหารือ จากกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีข้อเสนอให้มี

การควบรวบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าด้วยกัน ว่า กสม. ได้ให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามอย่างละเอียด โดยเห็นว่า ไม่ควรควบรวม และให้เป็น กสม.

เหมือนเดิม ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการจะเก็บข้อเสนอของ กสม. มาเป็นข้อมูลในการพิจารณาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะส่งความเห็นดังกล่าวให้แก่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ นี้ และนอกจากนี้ ทาง คณะอนุกรรมาธิการฯ จะเชิญองค์กรอิสระต่างๆ รวมถึงผู้

ตรวจการแผ่นดิน เข้ามาหารือร่วมกัน ทั้งนี้ นายดิเรก ยืนยันว่า พร้อมรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย ไม่ได้ทำงานแบบคิดเอง และเชื่อว่าข้อเสนอต่างๆ จะไม่ขัดแย้งกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
---------------------------
ผบ.ตร. เผย การปฏิรูป ตร. ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในองค์กรมากขึ้น

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวเปิดงานสัมมมาปฎิรูปตำรวจ ว่า มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธาน พิธีเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบงาน

ตํารวจ ซึ่งเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์และมีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง ในวันนี้เราปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสการปฏิรูปโครงสร้างและองค์กรต่างๆ ของประเทศเป็น

กระแสหลักอยู่ในสังคมไทยในขณะนี้ เนื่องจากเป็นความคาดหวังของประชาชนทั่วประเทศที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ตนเคยกล่าวไว้

เสมอว่า การปฏิรูปประชาชน ต้องได้รับประโยชน์และในการปฏิรูปขอให้ตํารวจเข้าไปมีส่วนรับรู้และแสดงความคิดเห็นด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าไม่มีใครรู้จักตํารวจดีเท่าตํารวจด้วยกันเอง

ขณะเดียวกันในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบงานตํารวจในวันนี้ เป็นการจัดกิจกรรมทางวิชาการที่สอดรับกับแนวความคิดการจัดทําแนวทางปฏิรูปของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เป็น

อย่างดี และจะสามารถนําผลการสัมมนาซึ่งได้จากความคิดเห็นของข้าราชการตํารวจซึ่งเป็นตัวแทนจากทุกหน่วยงานในสํานักงานตํารวจแห่งชาติ รวมถึงนักวิชาการที่มีชื่อเสียง และตัวแทนสื่อ

มวลชนไปใช้ประโยชน์ในคณะทํางานกําหนดแนวทางปฏิรูป สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ในการสัมมนาฝากให้ทุกคนได้ถกแถลงและพิจารณาให้ครบถ้วนในทุกมิติ

และทุกองค์ประกอบ ตามทฤษฏีการบริหารงานบุคคลและองค์กรเพื่อจะได้สะท้อนให้เห็นสภาพปัญหา ที่แท้จริงและนําไปสู่การกําหนดแนวทางการพัฒนา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้อย่างครบถ้วน
สมบูรณ์
----------------------
ผบ.ตร. เปิดสัมมนา การพัฒนาวงการตรำวจ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิรูปต่อไป แนะช่องทางในการร่วมปฏิรูป

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาระบบงานตำรวจ ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดย ผบ.ตร. กล่าวว่า งาน

สัมมนาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำข้อมูลที่ได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ เสนอแนะแนวทางการปฏิรูประบบงานตำรวจและกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเพื่อ

ระดมความคิดเห็นใน 4 ประเด็นสำคัญ คือ การจัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง แนวทางการกระจายอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การให้ประชาชนมี

ส่วนร่วม ในกิจการตำรวจ และการถ่ายโอนภารกิจและงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปให้หน่วยงานอื่นของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อสรุปและนำเสนอผลการสัมมนาต่อที่

ประชุมในวันที่ 11 ก.พ. 2558 ต่อไป

ขณะเดียวกัน ผบ.ตร. กล่าวว่า การปฏิรูปนี้ประชาชนต้องได้รับประโยชน์และในการปฏิรูปขอให้ตํารวจเข้าไปมีส่วนรับรู้และแสดงความคิดเห็นด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าไม่มีใครรู้จักตํารวจดีเท่าตํารวจ

ด้วยกันเอง พร้อมขอเชิญชวนประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แสดงความคิดเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ผ่านช่องทางต่อไปนี้ website : http://reform.police.go.th E-Mail: policereform@police.go.th เฟซบุ๊ก

https://www.facebook.com/thaipolicereform หรือ Twitter: https://twitter.com/thpolicereform
////////////
นายกฯ

นายกฯ พร้อมคณะเดินทางดูงานสถานีรถไฟโตเกียว ชื่นชมความทันสมัยของเทคโนโลยี ยืนยัน อยากให้มี ชินคันเซ็น

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปยังอาคาร Sapia Tower สถานีรถไฟโตเกียว เพื่อรับฟัง
บรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานีรถไฟโตเกียว รถไฟสายต่าง ๆ และการพัฒนาด้านระบบรางของญี่ปุ่น โดยมี Mr.Hiroshi Muto
รองปลัดด้าน Transport, Tourism and International Affairs, Ministry of Land, Infrastructure, Transport
and Tourism (MLIT) รอให้การต้อนรับ

โดย Mr.Hiroshi Muto แสดงความยินดีที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรี ในวันนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้บรรยายสรุปให้แก่นายกรัฐมนตรี
และคณะ พร้อมยืนยันว่า ประสบการณ์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น สามารถนำมาพัฒนาแผนระบบรางของไทยได้

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความทันสมัยของเทคโนโลยีญี่ปุ่น และกล่าวว่า ประเทศไทย มีแผนในการพัฒนาเส้นทางรถไฟ โดย
เริ่มจากพัฒนารางรถไฟขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร ซึ่ง ประเทศไทย ก็อยากให้มีชินคันเซ็น เช่นกัน อย่างไรก็ดี ต้องขึ้นกับการ
ให้ความสนับสนุนของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ ภายหลังการบรรยายเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี และคณะ เยี่ยมชมศูนย์ควบคุมรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น ณ ชั้น 10 สถานี
รถไฟโตเกียว ก่อนทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น จากสถานีโตเกียว ไปยังนครโอซากา
-------------------
การประชุม ครม.เริ่มแล้ว พล.อ.ประวิตร ทำหน้าที่ประธาน แทน นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น 

ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล ล่าสุด ในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุมคณะรัฐมนตรี แทน พล.อ.

ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ยังคงอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ. โดยมี คณะ

รัฐมนตรี รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ มีวาระการประชุมที่น่าสนใจ อาทิ ทาง กระทรวงแรงงาน เสนอการจัดระบบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม กระทรวงยุติธรรม เสนอร่าง

พ.ร.บ.ล้มละลาย (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ขณะที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอร่าง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และเสนอการดำเนินงานตามโรดแมปการจัดการขยะ

มูลฝอยและของเสียอันตราย

ส่วนทางด้าน กระทรวงมหาดไทย เสนอขอความเห็นชอบการปรับปรุงสวัสดิการด้านค่ารักษาพยาบาลของการประปานครหลวง (กปน.) และขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย

ประจำปีงบประมาณ 2557
-------------------------
เครือข่ายสลัม 4 ภาค ยื่นหนังสือถึง นายกฯ เรียกร้องแก้ปัญหาชุมชนแออัดถูกกลุ่มนายทุน-หน่วยงานรัฐรุกที่ดิน

เครือข่ายสลัม 4 ภาค นำโดย นายจำนง หนูพันธ์ ประธานเครือข่ายฯ พร้อมด้วย ชาวชนตลาดบ่อบัว จ.ฉะเชิงเทรา และชุมชนโรงหวาย เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ว่า 30 คน มายื่นหนังสือแถลงการณ์

คืนความสุขให้แบบไหนคนไทยยังมีไล่ที่ ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมี นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการส่วนประสาน

มวลชน เป็นผู้มารับหนังสือ

ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าว มีการเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาสลัม หรือชุมชนแออัดถูกกลุ่มนายทุน หรือหน่วยงานรัฐรุกที่ดิน ส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องขับไล่คนในพื้นที่ จนทำให้ถูกดำเนินคดี หรือเกิด

ความรุนแรงจนเกิดการปะทะกันขึ้น

นอกจากนี้ ทางชุมชนยังได้ประสานงานกับ กระทรวงคมนาคม ให้ชะลอการบังคับคดี และให้เปิดประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาโดยการแบ่งปันที่ดินเพื่อให้ชาวบ้านได้อยู่ในพื้นที่เดิม และ

ทางบริษัทฯ สามารถดำเนินการพัฒนาที่ดินได้
---------------------------
นายกฯ พอใจเยือนญี่ปุ่น เสนอแนวทางร่วมทุนพัฒนาระบบราง เชื่อหากไทยมีรถไฟความเร็วสูง ช่วยส่งเสริมการค้าช่วยผู้มีรายได้น้อยยั่งยืน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทย ระหว่างการเยือนญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ว่า พอใจการเดินทางเยือนครั้งนี้

เพราะญี่ปุ่น ให้เกียรติไทยอย่างเต็มที่ และได้มีการพูดคุยกันในหลายมิติ ขณะที่เรื่องการพัฒนาระบบรางของไทย ได้นำเสนอแนวทางการร่วมทุน โดยเชื่อว่าหากไทยมีรถไฟความเร็วสูง จะทำให้ได้

รับประโยชน์ในด้านการค้าขาย ที่จะส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยได้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เนื่องจากตลอดเส้นทางการเดินรถไฟ และสถานีจะสามารถทำการค้าขายได้

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ในส่วนของสถานการณ์การเมืองของไทยนั้น ญี่ปุ่น เข้าใจและเชื่อมั่นด้วยดี โดยได้ชี้แจงว่า ไทยเดินหน้าสู่ระบอบประชาธิปไตยตามแผนโรดแมปที่วางไว้

โดยการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ที่จะใช้เวลาอีกไม่นาน และคาดว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งได้ ในช่วงต้นปี 2559 พร้อมยืนยันว่า ตนเองเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งให้ประเทศไทย เดินไป

ข้างหน้ามีประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืน
///////////
คดีอญก./ตำรวจ

ผบก.น.2 เผยคืบเหตุเพลิงไหม้ไทยพาณิชย์ ตร. เชิญคนฉีดยากันยุงให้ปากคำ 4 คน ไม่พบพิรุธ วสท.เข้าตรวจสอบอีกครั้งวันนี้

พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงษ์สุเมธ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ หรือ SCB Park ว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.

พหลโยธิน ได้เชิญเจ้าหน้าที่ฉีดพ่นยากันยุง มาสอบปากคำจำนวน 4 คน ว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุเพลิงไหม้หรือไม่ แต่ในเบื้องต้น จากการสอบปากคำยังไม่พบพิรุธและยังไม่พบความผิดปกติ และ

ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 50 ปาก แต่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เวลาประมาณ 12.30 น. ศ.ดร.สุชีชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. พร้อมเจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าตรวจสอบโครง

สร้างของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่ชั้น 10 และชั้น 11 ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้
-----------------------
 โรคจิตวางขวดน้ำกรดป้ายรถเมล์ถนนเพชเกษม รถเมล์เหยียบแตกกระจายใส่ชาวบ้านบาดเจ็บหลายราย เร่งนำส่ง ร.พ.

เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่ามีคนนำเอาขวดน้ำกรดร้ายแรงไปวางไว้ที่ป้ายรถเมล์ และมีรถเมล์เหยียบแตกกระจายใส่ประชาชนที่กำลังรอรถเมล์จนได้รับบาดเจ็บหลายราย โดยจุดเกิดเหตุนั้นเป็น

ป้ายรถเมล์ถนนเพชรเกษมในท้องที่ของ สน.ภาษีเจริญ จากการสอบถามผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ขณะที่กำลังรอรถเมล์ในป้ายดังกล่าว โดยมีทั้งประชาชน เด็ก นักเรียนนับสิบคน รออยู่ด้วย รถเมล์วิ่งเข้า

ป้าย และเหยียบขวดน้ำกรดแตกกระจายใส่คนที่รออยู่ ได้รับบาดเจ็บนับสิบราย บางรายเจ็บหนัก แผลพุพองตามแขนขา เบื้องต้นนำส่ง ร.พ.บางไผ่ แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบว่าใครเป็น
ผู้นำมาวางต่อไป
---------------------------
รรท.ผบก.ป. เผย คืบคดีสาวราชบุรีร้องกล่าวโทษ อภิรุจ วันทนีย์ สอบเพิ่มอีก 1 ปาก พรุ่งนี้สอบลุงอีกครั้ง

พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการผู้บังคับการปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้า นางสวิตา มณีจันทร์ อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษว่า นายอภิรุจ และ นางวันทนีย์ สุวะดี บิดาและ

มารดาของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ใช้อิทธิพลกลั่นแกล้ง จนได้รับโทษทางอาญาติดคุก 1 ปี 6 เดือน ว่า หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา ผู้ถูกกล่าวหาเดินทางมาให้ข้อมูลแล้ว พร้อมกับให้การปฏิเสธ พนักงาน

สอบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ในความผิดฐานตาม ม.112, ใช้เจ้าพนักงานแจ้งความเท็จ และ เป็นผู้ใช้ผู้อื่นกระทำความผิด เพื่อกลั่นแกล้งให้บุคคลอื่นได้รับโทษ ก่อนจะปล่อยตัวไป เพราะ

เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน โดยที่ยังไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด

ส่วนการสอบปากคำพยานในคดีนี้ พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำพยานไปจำนวน 3 ปาก วันนี้ ได้สอบข้าราชการตำรวจเพิ่มอีก 1 ปาก และในวันพรุ่งนี้ ตำรวจกองปราบปราม จะเดินทางเข้า

สอบปากคำ ด.ต.สุรินทร์ ศุขกมลนัส ลุงของผู้เสียหาย ที่ จ.ราชบุรี
-------------------------------
รรท.ผบก.ป. เผย คืบคดียักยอกเงิน สจล. อธิการบดี นำเอกสารเพิ่มเต้มมาให้ รอผล พฐ.ตรวจลายเซ็น

พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการผู้บังคับการปราบปราม กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการยักยอกเงินจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือ สจล. ว่า เมื่อวานที่ผ่านมา

ศาสตราจารย์ ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการอธิการบดี สจล. ได้เดินทางให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มามอบให้พนักงานสอบสวน และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เรียกประชุม

คณะพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว และมีการนำสำนวน บางส่วนมาตรวจสอบ ทั้งเอกสารจากธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ที่ส่งมาให้อีก 3-4 รายการ เกี่ยวกับเส้น

ทางการเงิน ในส่วนของลานมือชื่อในคำขอเปิดบัญชี ขณะนี้ได้มาครบทุกคนแล้ว อยู่ระหว่างส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบลายเซ็นดังกล่าว

สำหรับเหตุเพลิงไหม้ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ นั้น ยังไม่ได้รับรายงานว่า มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีของ สจล. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และประสานข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์

หลักฐานและเจ้าของคดีอย่าง สน.พหลโยธิน
----------------------
นายกวิศวกรรมสถาน ตรวจสอบเหตุไฟไหม้ไทยพาณิชย์ แสกนโครงสร้างแข็งแรงพอหรือไม่ อีก 3-4 วันรู้ผล

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ (วสท.) พร้อมทีมงานวิศวกร เดินทางเข้าสำรวจ ชั้น 9-11 โซน A ของอาคารธนาคารไทยพาณิชย์

สำนักงานใหญ่ หรือ SCB Park หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา

โดย นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า วสท. ได้รับการประสานจากธนาคารไทยพาณิชย์ให้เข้าตรวจสอบโครงสร้างของอาคาร ในเบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงได้ไหม้พื้นชั้น 10 และชั้น 11 ซึ่งทาง

วิศวกรได้สั่งปิดพื้นที่ตั้งแต่ชั้น 9 จนถึงชั้น 11 เพื่อใช้เครื่องมืออัลต้าโซนิคสแกนพื้นคอนกรีท ที่เกิดเพลิงไหม้ นอกจากนี้ ยังต้องใช้เครื่องมือดังกล่าวตรวจสอบโครงเหล็กแกนกลางของเสา 2 ต้น

ภายในอาคารที่ได้รับความเสียหายอยากหนัก เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้เป็นเวลานาน ว่า ยังมีความแข็งแรงอยู่หรือไม่ เพราะต้องแบกรับน้ำหนักอีก 20 ชั้น เพราะมีความกังวลเรื่องการรับน้ำหนักดัง

กล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบโครงสร้างดังกล่าว จะใช้เวลาตรวจสอบ 3-4 วัน และจะรายงานผลให้กับทางธานาคารฯ ทราบภายในสัปดาห์หน้า
------------------
ผกก.1 บก.ปอศ. นำกำลังเข้าตรวจสอบบริษัทรถหรู ของ บอย ยูนิตี้ พร้อมประสานกรมทางบกตรวจสอบรถ



พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กัลยาวัฒนเจริญ ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
หรือ ปอศ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอศ. เข้าตรวจสอบรถหรู ภายใน บ.ยูนิตี้ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ปากซอยรัชดาภิเษก 16 หลังได้
รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ว่า ซื้อรถยนต์ปอร์เช่ รุ่น 911 มาในราคาประมาณ 10 ล้านบาท แต่ไม่สามารถนำไปจดทะเบียนได้ เนื่อง
จากรถยังไม่ได้เสียภาษีนำเข้าอย่างถูกต้อง

โดย พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับร้องเรียนแล้ว ปอศ.ได้ทำการตรวจสอบขยายผล จนกระทั่งวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจค้น
พร้อมกัน 4 จุด คือ ที่ ซ.รัชดาภิเษก 16 โชว์รูมรถยนต์ ที่ สุขุมวิท 26 ที่บ้านพักย่านรามคำแหง และ ใกล้กับ ซีดีซี เลียบทางด่วนราม
อินทรา

จากการตรวจสอบ ที่ บ.ยูนิตี้ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด เป็นของ บอย ยูนิตี้ ไฮโซชื่อดัง เมื่อก่อนเปิดเป็นโชว์รูมหรู แต่ปัจจุบันเปิดเป็นอู่
ซ่อมรถ ซึ่งจากการตรวจสอบพบรถยนต์หรู กว่า 10 คัน ที่ลูกค้านำมาจอดไว้เพื่อรอการซ่อมบำรุง บางคันมีเอกสารแสดงถูกต้อง
แต่มีรถลัมโบร์กีนี 2 คัน ที่ยังไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องอายัดไว้เพื่อทำการตรวจสอบที่มาของรถคันดังกล่าว

พร้อมกันนี้ ปอศ.จะประสานข้อมูล กับ กรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบรถยนต์ที่อายัดไว้ว่ามีการนำเข้าและจดทะเบียนอย่างถูก
ต้องหรือไม่
----------------
นายกสมาคม วสท. ชี้ อาคาร SCB หลังเกิดไฟไหม้เสียหายเพียงชั้นที่ 9-11 เท่านั้น ลั่นขอปิดชั้น 1-11 ก่อนเพื่อตรวจสอบ

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ (วสท.) เผยเปิดภายหลังนำทีมงาน
วิศวกรเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารของธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่าน ว่า ชั้น
10 ของอาคารต้นเพลิง พบว่าได้ติดตั้งระบบแก๊สไพโรเจน ซึ่งติดอยู่ด้านบนเพดานเมื่อเกิดเพลิงไหม้ แก๊สไพโรเจนที่ติดอยู่จะ
แตกตัวออกมาดับไฟทันที ซึ่งหากใช้ระบบสปิงเกอร์ที่ใช้น้ำดับไฟ อาจทำให้เกิดไฟช็อตและชั้นดังกล่าวเป็นที่เก็บเอกสารซึ่งหากใช้
ระบบน้ำเกรงว่าเอกสารจะได้รับความเสียหาย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า แก๊สไพโรเจนจะทำปฏิกิริยากับยาฉีดยุงจนเกิด
เพลิงลุกไหม้หรือไม่

ส่วนโครงสร้างตัวอาคารพบว่ามีความแข็งแรงคงทน ซึ่งมีเพียงชั้น 9-11 ที่ได้รับความเสียหาย เช่น พื้น เพดาน และเสา หลังจากนี้
ได้สั่งปิดชั้น 1-11 ก่อนเพื่อตรวจสอบหาความยืดหยุ่นอีกครั้ง

นายก วสท. ยังกล่าวอีกว่า การตรวจสอบชั้น 10 พบว่า มี 1 ใน 3 เสา เสียหายมากที่สุด ทางวิศวกรจะนำวิธีทางวิทยาศาสตร์ เข้า
ตรวจสอบ โดยใช้ค้อนเคาะตามเสา เพื่อดูแรงดันว่ามีความหนาแน่นอยู่หรือไม่

นอกจากนี้ ทางวิศวกรจะใช้เครื่องมืออัลต้าโซนิคยิงเอ็กซเรย์ตามเสาทุกจุดที่ได้รับความเสียหาย เพื่อดูความหักเหของเสียง และนำ
ไปวิเคราะห์อีกครั้ง

ด้าน นายการุณ จันทรศุ วิศวกรผู้ออกเเเบบโครงสร้างธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเสริมว่า อาคาร SCB Park เป็นอาคารคอนกรีตที่
เสริมด้วยเหล็ก สร้างมาประมาณ 20 ปี ซึ่งอาคารมีความทันสมัยและแข็งแรงมาก และโครงสร้างอาคารได้ออกแบบให้ทนความร้อน
แม้จะเกิดเพลิงไหม้ 3 ชั่วโมง ซึ่งในส่วนการแก้ไขหลังจากนี้มีเพียงเสา เหล็ก เพดาน ที่เสียหายเล็กน้อย ซึ่งสามารถซ่อมแซมได้

ไม่มีความคิดเห็น: