PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ล่า"บรรพต" นปช.ตัวการหมิ่นเบื้องสูงผ่านเว็บฯ ตั้งค่าหัว 2 แสน Cr:ผู้จัดการ

ล่า"บรรพต" นปช.ตัวการหมิ่นเบื้องสูงผ่านเว็บฯ ตั้งค่าหัว 2 แสน
Cr:ผู้จัดการ
ASTVผู้จัดการ - ตร.ขออนุมัติหมายจับผู้ที่ใช้นามแฝง "บรรพต" หัสดิน อุไรไพรวัน หัวหน้าเครือข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูงรายใหญ่ เผยยังอยู่ในประเทศ ตั้งรางวัลนำจับ 2 แสน หลังบุกค้นบ้านย่านสุขุมวิทพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตสื่อผ่านเว็บไซด์ เพื่อจำหน่ายให้กับเครือข่าย เพื่อเป็นทุนในการเคลื่อนไหวกลุ่มนปช.
วันนี้ (9 ก.พ.)เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ร่วมกันแถลงความคืบการสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่าย "บรรพต" ขบวนการหมิ่นสถาบันเบื้องสูงรายสำคัญ โดยระบุว่า ล่าสุดศาลทหารกรุงเทพ ได้อนุมัติหมายจับผู้ที่ใช้นามแฝง "บรรพต" คือ นายหัสดิน อุไรไพรวัน อยู่บ้านเลขที่ 167 ถ.วิสุทธิ์กษัตริย์ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม. ในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พล.ต.ต.ศิริพงษ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปอท.ได้มีการสนธิกำลังกันระหว่างเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง และทหาร เข้าตรวจค้นบ้านพัก นายหัสดิน ภายในซอยสุขุมวิท 101ตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตสื่อ อาทิ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค อุปกรณ์บันทึกเสียง เอกสารร่างเพื่อใช้ในการบันทึกเสียง เอกสารทางการเงิน จากการตรวจสอบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารแต่ละเดือนเป็นหลักแสนบาท ซึ่งคาดว่ามาจากรายได้การจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มผู้สนับสนุน โดยหลังจากนี้จะมีการส่งข้อมูลเหล่านี้ให้ทางป.ป.ง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย ขณะเดียวกันได้มีการตรวจยึดแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก ที่นายหัสดินใช้ในการทำสำเนาจำหน่ายให้กับกุล่มเครือข่าย เพื่อเป็นทุนในการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ นายหัสดิน เคยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แต่จากการสืบสวนไม่พบว่ากลุ่ม นปช.มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว เพียงแต่พบว่ามีสมาชิกในเครือข่ายนี้ที่ได้ไปร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่ม นปช.เท่านั้น
"สำหรับ นายหัสดิน ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่อาศัยเป็นผู้ที่ติดตามข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา จึงนำข้อมูลต่างๆ มาเรียบเรียง และแต่งเรื่องเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการร์ทางการเมือง เพื่อให้มีเนื้อหาดึงดูดความสนใจ แล้วชี้นำปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังต่อสถาบันฯ สำหรับวิธีการทำคลิปก็ไม่มีขั้นตอนซับซ้อนไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากนัก เพียงแต่ใช้โปแกรมแปลงเสียงก่อนที่จะมีการอัพโหลดไฟล์ลงเว็บไซต์รับฝากไฟล์ต่างๆ โดยมีการอัพโหลดไฟล์ในประเทศ ขณะที่ผู้ที่ติดตามหรือผู้ที่จะนำไฟล์ไปแชร์ต่อ ก็จะเข้าไปดาวน์โหลดคลิปเสียงดังกล่าว ก่อนนำไปแชร์ต่อ" ผบก.ปอท. กล่าว
พล.ต.ต.ศิริพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นได้การมีจับกุมสมาชิกระดับปฏิบัติการเพิ่มอีก 2 ราย คือ น.ส.สายฝน อินทสร อายุ 48 ปี ภรรยานายหัสดิน ได้ที่บ้านพักย่านพระโขนง และสามารถจับกุม นายนที ผสมทรัพย์ อายุ 54 ปี ได้ขณะมาทำธุระย่านฝั่งธนบุรี โดย น.ส.สายฝน เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคาร เพื่อให้ผู้อื่นโอนเงินมาช่วยเหลือการกระทำผิด เป็นการสนับสนุนให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิดในการโพสต์คลิปเสียงชื่อ "บรรพต" ทางเฟซบุ๊ก ซึ่งมีเนื้อหาหมิ่นสถาบันฯ นอกจากนี้ยังได้มีการอัพโหลดคลิปเสียงและโพสต์ต่อกันไปอีกหลายทอดในลักษณะเครือข่ายกระจายกันออกไปทางสื่อสังคมออนไลน์ ถือเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ส่วนนายนที เป็นผู้ส่งสินค้า และซีดีคลืปเสียงบรรพต โดยได้รับค่าจ้าง ถือเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำผิด เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาฐานสนับสนุนผู้กระทำผิดฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ขณะที่เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไปยื่นคำร้องเพื่อขออำนาจศาลฝากขังต่อศาลทหาร
พล.ต.ต.ศิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการติดตามตัว นายหัสดิน ขณะนี้ทางปอท.ได้มีการส่งประกาศสืบจับนายหัสดินไปยังสถานีตำรวจ และด่านตรวจคนเช้าเมืองทั่วประเทศ โดยจากข้อมูลล่าสุดทราบว่านายหัสดินยังอยู่ในประเทศและยังหลบหนีอยู่ในกทม. ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตัว โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งรางวัลนำจับแก่ผู้ที่สามารถแจ้งเบาะแสแล้วนำไปสู่การจับกุมตัวได้ เป็นเงินจำนวน 2 แสนบาท ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปยังประชาชน ว่า นายหัสดิน เป็นผุคคลที่เป็นภัยอันตรายอย่างยิ่ง อย่าให้การช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน เครือข่ายดังกล่าว ทั้งการบริจาคเงินซื้อสินค้า หรือ โพสต์ข้อความคิดเห็นสนับสนุน หรือนำเอาข้อความ รูปภาพ คลิปเสียงไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งจะถือว่ามีความผิดในฐานะผู้ร่วมเครือข่ายบรรพตด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากแนวทางการสืบสวนมีผู้ที่บงการที่อยู่เหนือกว่านายหัสดิน หรือไม่ พล.ต.ต.ศิริพงษ์ กล่าวว่า จากสมมติฐานของตำรวจเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น โดยนายหัสดิน เป็นเพียงผู้ผลิตสื่อเพื่อเผยแพร่ออกไปน่าจะมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังหรือระดับผู้บงการที่สูงกว่านี้ แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ซึ่งอาจเป็นลักษณะของการสนับสนุนทางการเงิน ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากได้ตัว นายหัสดิน มา ประเด็นนี้ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น ขณะเดียวกันตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับสมาชิกของเครือข่ายนี้เพิ่มเติมอีกในเร็วๆ นี้


ไม่มีความคิดเห็น: