โดดเดี่ยว ผู้ทระนง แต่ยังคงไม่สะดุ้งกลัว แม้จะรู้ว่าถูกลอยแพ
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘
ได้ยิน ได้ฟัง บรรดาท่านผู้นำในฟากฝั่งรัฐบาลออกมาพูดว่า เรื่องของพระก็ให้พระจัดการกันเอง
ฉันใจหายแว๊บ รู้สึกค้านอยู่ในใจว่า ก็เพราะพระจัดการไม่ได้หรือไม่จัดการ หากพยายามจะจัดการ ก็กลายเป็นการจัดการด้วยอคติ ไม่ตรงต่อหลักการของพระธรรมวินัย กลายเป็นความเสียหายแก่พระธรรมวินัย และจะเป็นบรรทัดฐานที่เลวร้ายในปัจจุบัน เกือบทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะในอดีตและปัจจุบัน ล้วนต้องอาศัยกำลังขับเคลื่อนผลักดันของประชาชนและสื่อมวลชน คดีทางพระพุทธศาสนาจึงจะได้รับการคลี่คลาย
หากวันนี้รัฐบาลเขี่ยลูกส่งคืน มหาเถรสมาคม ผู้ปกครองสูงสุดของสงฆ์ เอากลับไปจัดการกันเอง ฉันก็เห็นแววว่า งานนี้เราต้องสู้คนเดียวจริงๆ แล้ว
แต่พอได้ฟังประโยคต่อไป ที่ท่านผู้นำพูดว่า เรื่องของอาณาจักร ฆราวาสจัดการกันเอง แต่ถ้าพระมีคดีความพัวพันกับอาณาจักร เช่นนี้ อาณาจักรจึงจะเข้าไปจัดการได้
ฟังแล้วค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย ว่ารัฐบาลก็มิได้ปฏิเสธเสียทีเดียว แต่ส่งสัญญาณให้รู้ว่า เรื่องใดที่เกี่ยวกับหลักธรรมวินัย ก็ให้พระไปว่ากันเอาเอง ฆราวาสคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะไม่มีความรู้ความเข้าใจในพระธรรมวินัยและธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนจักร ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
แต่ถ้าคดีของพระมาพัวพันกับทางอาณาจักร เช่น คดีรถหรู คดีเงินบริจาคของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน หากทำตรงไปตรงมา ๒ คดีนี้ ก็ทำให้สมีแทบกระอักได้เหมือนกัน
ฉันก็ได้แต่ฝันและหวังว่าเหตุการณ์มันจะเป็นดังที่มโนเอาไว้ แต่ถึงยังไงเราก็ต้องพึ่งพาอาศัยตัวเอง เพื่อรักษาพระธรรมวินัยอันบริสุทธิ์ บริบูรณ์ ให้ดำรงอยู่คู่แผ่นดินไทย ถามว่า แล้วจะทำอย่างไร พวกเราต้องช่วยกันมอง ช่วยกันดู สอดส่องพฤติกรรมของมหาเถรสมาคมอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วช่วยกันตั้งคำถาม เขียนคำถาม เจอที่ไหนก็ช่วยกันถาม ว่าใครโกหกกันแน่ จะรักษาธรรมกายหรือจะรักษาพระธรรมวินัย แล้วจะใช้เวลาอีกเท่าไร ผ่านมา ๑๕ - ๑๖ ปีแล้วที่พระธรรมวินัยโดนย่ำยี จะย่ำยีไปเช่นนี้อีกนานไหม
คำถามเหล่านี้ พวกเราชาวพุทธ ผู้รักและศรัทธาในพระธรรมวินัยต้องช่วยกันตั้งคำถาม เพราะพวกเรากำลังทวงถามถึงพระศาสดาที่มหาเถรหลงลืมไป
ด้วยคำสั่งที่องค์พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแก่พระอานนท์และภิกษุทั้งหลายในคืนวันปรินิพพานว่า อานนท์ เธอจงอย่าเสียใจไปเลย เมื่อเราตถาคตนิพพานไปแล้ว พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาสอนเธอ
เช่นนี้ การมอง การเฝ้าดู เฝ้าสังเกต การตั้งคำถามแก่มหาเถรสมาคมของประชาชนคนรักพระธรรมวินัย ถือว่าเป็นการปกป้องพระบรมศาสดา พระพุทธศาสนา
(ข้อสังเกตุ การร้อนรนออกมาปฏิเสธว่าไม่มีมติของมหาเถรสมาคมครั้งนี้ คงจะรู้ว่าฉันกำลังจะหาหลักฐานรายชื่อพระเถระ ที่เข้าประชุมในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่าครบองค์ประชุม ๓ ใน ๔ ของการลงมติได้หรือไม่ จะมีการเสียบบัตรแทนกัน เหมือนพวกนักการเมืองในสภา ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลว่า ทุจริต ประพฤติมิชอบ ใช้สิทธิแทนกัน หรือมหาเถรจะรู้แกวเลยใช้แผนยอมเจ็บ แต่ไม่ยอมตาย)
วันพรุ่งนี้ ฉันจะเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภา และไปกองกำกับการ กองปราบปรามเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ขอวิงวอนพี่น้อง ไม่ต้องตามฉันไป เดี๋ยวจะทำให้ คสช. เขาลำบากใจ
พุทธะอิสระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น