"อมรินทร์"กระอัก! ขาดทุนไตรมาสแรก 117 ล้าน คิดเป็น 2,902% เหตุทีวีดิจิตอลถ่วง "โมโน"กอดคอ ติดลบ257%
นางระริน อุทกะพันธ์ ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พลับลิซซิ่ง จำกัด (มหาชน) ทำหนังสือชี้แจงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1/2558 ต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า ไตรมาสที่ 1/2557 บริษัทขาดทุนสุทธิ 117.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 121.22 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 2,902.19% เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายธุรกิจทีวีดิจิตอลของบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้น จากการเริ่มดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2557 ในขณะที่ไตรมาสที่ 1/2557 ไม่มีการดำเนินการในส่วนของธุรกิจทีวีดิจิตอลของบริษัทย่อย จึงทำให้งบการเงินบริษัทมีผลขาดทุน
นอกจากนี้ บริษัทมีต้นทุนการขายและบริการเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 155.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 53.78% และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 20.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.79% มาจากดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายในธุรกิจทีวีในระบบดิจิตอลที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 1/2558 บริษัทมีรายได้รวม 402.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.39% จากงานรายได้รับจ้างพิมพ์เพิ่มขึ้น 14.27% รายได้จากการรับจ้างทำเว็บไซต์ลดลง 60.09%ดอกเบี้ยรับลดลง 39.91% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ด้านนายซัง โด ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) แจ้งผลการดำเนินงานต่อกรรมการและผุ้จัดการ ตลท. ว่า ในไตรมาสที่ 1/2558 บริษัทขาดทุนสุทธิ 68.05 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 1/2557 มีกำไร 43.19 ล้านบาท หรือมีกำไรลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 111.24 ล้านบาท คิดเป็น 257.56% ซึ่งมีสาเหตุจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และค่าใช้จ่ายในการซื้อเนื้อหาเพิ่มขึ้นจากการลงทุนและขยายตัวของธุรกิจทีวีดิจิตอล ซึ่งในไตรมาสที่ 1/2557 บริษัทยังไม่ได้ประกอบธุรกิจดังกล่าว
ทั้งนี้ รายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณาในไตรมาสที่ 1/2558 ทำได้ 147.87 ล้านบาทเมื่อเทียบกับรายได้จากการให้บริการสื่อโฆษณาในไตรมาสที่ 1/2557 ที่มีรายได้เพียง 36.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 111.78 ล้านบาท คิดเป็น 309.73 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 4/2557 22.90 ล้านบาท คิดเป็น 18.32% เนื่องจากการเติบโจของธุรกิจทีวีดิจิตอลของสถานีโทรทัศน์ช่อง Mono 29 เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมากขึ้น
ด้านนายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินกำไรของกลุ่มสื่อธุรกิจทีวีดิจิตอล แต่ภาพรวมมองว่าในไตรมาสที่ 1/2558 กำไรสุทธิของกลุ่มจะออกมาไม่ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพราะเม็ดเงินโฆษณายังลดลงต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ผู้ประกอบการจะดึงเม็ดเงินโฆษณาเข้าช่องได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าพบผู้บริหารทราบว่าทุกรายประเมินว่าในปี 2558 จะเริ่มมีกำไรบนพื้นฐานว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง และต้องติดตามการเลื่อนจ่ายค่าประมูลทีวีดิจิตอล หากเลื่อนออกไปจะทำให้ทุกบริษัทมีกระแสเงินสดเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้หน่วยงานรัฐอาจไม่คุ้มค่า
สำหรับหุ้นกลุ่มสื่อสารที่เด่นที่สุดยังแนะนำบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แม้ว่าในไตรมาสที่ 1 คาดว่าอาจทำกำไรเพียง 8.20 ล้านบาท ดีกว่าไตรมาสที่ 1/2557 ที่ขาดทุน1 ล้านบาท และไตรมาสที่ 4/2557 ที่ขาดทุน 17.70 ล้านบาท
แต่เพราะเรทติ้งที่ดีแซงช่อง 5 และ9 รวมทั้งปรับขึ้นอัตราโฆษณาจาก1.3 หมื่นบาทต่อนาที เป็นกว่า 3 หมื่นบาทต่อนาที จึงคาดว่าในไตรมาสที่ 2/2558 กำไรจะกลับมาโตก้าวกระโดดส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีหลัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น