PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เสี่ยงหนัก ต้นปีหน้า คนภาคเหนิอ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ จะไม่มีน้ำกิน คำเตือนจาก ดร.เสรี ศุภราทิตย์ กูรูน้ำ

เสี่ยงหนัก ต้นปีหน้า คนภาคเหนิอ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ จะไม่มีน้ำกิน คำเตือนจาก ดร.เสรี ศุภราทิตย์ กูรูน้ำ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ชี้ให้เห็นว่า ตัวเลขปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนใหญ่ ของลุ่มเจ้าพระยา และภาคเหนือที่ประกอบไปด้วย เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วันนี้ มีปริมาณน้ำรวมกันอยู่ที่ 1,200 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 9% ของความจุเขื่อนทั้ง 4 แห่ง โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำต่ำสุดในรอบ 51 ปี หรือต่ำสุด ตั้งแต่มีการกักเก็บน้ำมา ขณะที่ปริมาณฝนภาคเหนือ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 45% ส่วนภาคกลาง ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึง 69% ถือว่าวิกฤติรุนแรง การประปานครหลวง ออกโรงประกาศ ให้ประชาชนภาคกลาง เริ่มสำรองน้ำกินน้ำใช้ ครัวเรือนละ 60 ลิตร และให้โรงงานอุตสาหกรรม สำรองน้ำเพื่อการผลิต เพราะปริมาณน้ำในระบบลดลง
ปัญหาคือ ปี 2559 เริ่มต้นตั้งแต่เดือน พ.ย. 58-เม.ย. 59 รวมเวลา 6 เดือน หากปริมาณน้ำในเขื่อน มีรวมกันไม่ถึง 1,200 ล้าน ลบ.ม. จากตัวเลขกรมชลประทานคำนวณ ต้องการใช้น้ำมากถึง 11,500 ล้าน ลบ.ม. ยังขาดน้ำอยู่ถึง 10,300 ล้าน ลบ.ม.
ปัญหาใหญ่ คือความผิดพลาด ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2555 ในเวลานั้นมีน้ำเต็มปริ่มแทบทุกเขื่อน แต่กลับไม่มีการกักเก็บ หรือระบายน้ำ ตามหลักวิชาการ “ฝ่ายการเมืองสั่งการให้ลดปริมาณน้ำ ในเขื่อนทุกเขื่อนให้เหลือเพียง 45% ของความจุ รวมแล้วมีการระบายน้ำออกไปถึง 14,000 ล้าน ลบ.ม. ถือเป็นการระบายน้ำที่มากที่สุด ในรอบ 15 ปี ใฝีมือปลอดประสพ เจ้าเก่า แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ เตือนล่วงหน้าแล้ว ทำให้ปริมาณ “น้ำต้นทุน” ของประเทศไทย ไม่เคยเพิ่มขึ้นอีกเลยติดต่อกัน เป็นเวลาถึง 3 ปี
รัฐต้องงดการปลูกข้าวนาปี จำนวน 4 ล้านไร่ทันที ไม่ใช่แค่เลื่อนปลูกออกไปเท่านั้น !!
CR ไทยรัฐ


ไม่มีความคิดเห็น: