คสช.เตรียมเชิญ สื่อ วิทยุ -ทีวี. พบครั้งใหญ่ ขอความร่วมมือ การเสนอข่าว และรายการต่างๆ

คสช.เตรียมเชิญ สื่อ วิทยุ -ทีวี. พบครั้งใหญ่ ขอความร่วมมือ การเสนอข่าว และรายการต่างๆ ยันไม่มีOrder สั่งเรียกสื่อ แค่กระชับความเข้าใจ ความสัมพันธ์ /"พลโท สุชาติ ผ่องพุฒิ" เผย "พลเอก ประยุทธ์" ให้ความสำคัญสื่อ อ่านข่าวยิบ อ่านทุกฉบับ ทุกคอลัมน์ มีคอมเม้นท์ เผยปรานี ทีวี. หากมีปัญหา ผิด ข้อตกลง MOU กับคสช.ให้ปิดเป็นรายการๆ ไป ไม่ปิดทั้งสถานี ย้ำสื่อ อย่าถาม เสี้ยม ถามย้ำ ทำขัดแย้ง หรือ ทำผู้ใหญ่อารมณ์เสีย/ ตัวแทนสื่อ แจง สื่ออยากเห็นบ้านเมืองสงบ เผยสื่อ ช่วยสะกิด เตือนนายกฯ ผ่อนคลายอารมณ์ด้วยซ้ำไป ติง อย่าใช้วิธี โทรหา บรรณาธิการ เลย ให้คุยกับนักข่าวภาคสนาม เป็นขั้นตอนก่อน ฝากถึง บิ๊กตู่ บิ๊กปัอม คุมอารมณ์ พูดให้น้อยลง พูดเยอะ ปัญหาตามมาเพราะคำพูด แยะ

ที่กรมการทหารสื่อสาร พลโท สุชาติ ผ่องพุฒิ เจ้ากรมการทหารสื่อสาร ในฐานะเลขาธิการคณะติดตามการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของคสช.(คตข.) ได้เชิญสื่อสิ่งพิมพ์ อีกชุดหนึ่ง ที่ไม่ได้มาร่วมประชุม ในครั้งก่อน มาพบ เพื่อขอความร่วมมือ ในการเสนอข่าว ด้วยข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือน ไม่ดึงบุคคลอื่นมาทำให้เกิดการเสียดสี ขัดแย้งกัน

พลโท สุชาติ เผยว่า คณะทำงาน คตข.จะเสนอ ข่าว และบทความต่างๆ รายวัน ถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้า คสช. ในเริ่องสื่อทั้ง 5 ด้าน คือ วิทยุ ทีวี สิ่งพิมพ์ Social media และ สำนักข่าวต่างประเทศ โดยตนเป็นคนตรวจและลงนามเองโดยพบว่า พลเอก ประยุทธ์ อ่านทุกหน้า ทุกอัน ทุกเรื่อง ทุกคอลัมน์ ทุกฉบับ เพราะมีการ ตื๊กๆ มา พร้อม คอมเม้นท์ ทั้ง บวกและลบ ทั้งชม และติติง มา จากนั้น ตนเองและคณะทำงาน ก็ต้องแก้ไขคามนั้น สิ่อไหน เสนอข่าวดี ครบถ้วน ถูกต้อง ก็ชมเชยไป ส่วนที่ติติงมา เราก็ แจ้งไปยังสื่อนั้นๆ

"ผมเชิญพวกท่านมาพบ นี่ ไม่ได้มี order ใดๆ จาก นาย หรือผู้ใหญ่ ท่านใด แต่เป็นหน้าที่ของผม ที่ต้องคอยทำความเข้าใจสื่อ และสร้างความสัมพันธ์"

ดังนั้น สื่ออย่า บอกว่า มี ออเดอร์ หรือบางสื่อ ไม่ได้รับเชิญ ก็อย่าน้อยใจ ว่า ไม่เชิญมา เพราะเชิญทุกสื่อ ทุกแขนง แต่ อาจมีตกหล่นบ้าง หรือ อาจว่างไม่ตรงกัน เลยมีการพบกัน สำหรับฉบับที่ตกหล่น และอาจมีการพบปะ ในรูปแบบอื่น เช่น เล่นกีฬา ทานอาหาร ร่วมกัน โดยเราจะไม่เขิญบ่อย อาจสัก2-3เดือน ครั้ง
เชิญมาพูดคุยกัน ไม่มีนัยยะ ใดๆ เพราะจากการติดตาม ไม่อยากให้เกิดขึ่นอีก พบกีนเรื่อยๆ เมื่อว่าง เพื่อการทำงานร่วมกันราบรื่น เพราะสื่อมีผลต่อความมั่นคงของชาติ

โดยในสัปดาห์หน้า เรา จะเชิญ สื่อวิทยุ และ ทีวี. ราว 200 คน มาพบปะทำตวามเข้าใจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมืออีกครั้ง

พลโท สุขาติ ระบุว่า ผมเข้าใจสื่อ ว่า ในการเสนอข่าว ตีแผ่ นั้น มีจรรยาบรรณ ขอแค่ว่า ช่วยกลั่นกรองความถูกต้อง อย่างแท้จริง อย่าตั้ง สมมติฐาน ด้วยตัวเองว่า จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทำให้ประชาชน มานั่งวิเคราะห์ จริงมั้ย หรืออาจไม่ใช่ อย่าวิเคราะห์เองเพราะอาจไม่ถูกต้อง เรา ห่วง และขอความร่วมมือ

หากมีอะไรสงสัย ให้ติดต่อเราได้โดยตรง ทั้ง สตช. หรือ ทบ. ถาม ทีมโฆษก ได้ ตลอดเวลา ก่อนที่จะเสนอข่าว ผิดๆออกไป เพราะความที่ต้องรวดเร็ว

พลโท สุชาติ ติง นักข่าวภาคสนาม ในเวลาตั้งคำถาม อาจจะไฟแรง หรือ การใช้คำถาม รุนแรง หรือ ทำให้เกิดความขัดแย้ง บางคนจบมาใหม่ๆ อาจมีบ้างที่ ตั้งคำถามเสี้ยม ให้ชนกัน นั่นผม ไม่อยากให้เกิดขึ้น

โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่ อาจมี อารมณ์ เกิดขึ้น จากคำถามของนักข่าวภาคสนามทำให้ภาพออกไปไม่เหมาะสม ขอเป็นคำถามสร้างสรรค์ อย่าเสี้ยม เช่น ทำให้ตำรวจ ทหารเข้าใจผิดกัน ปลุกกระแส หรือทำให้เกิดความเคลือบแคลง และบ่อยครั้งที่ถาม คำถามซ้ำๆกัน

"บางครั้ง ผมก็เสนอผู้ใหญ่ ท่านไป ว่า ท่านไม่ตอบ บ้างก็ได้ ยิ้ม ไปบ้าง แต่บางทีถามซ้ำแล้วซ้ำอีก ท่านก็อาจมีอารมณ์บ้าง ไม่อยากให้มีภาพแบบนั้น โปรดเข้าใจ"

พลโท สุชาติ กล่าวว่า เวลา นายกฯ มี คอมเม้นท์ มา เรื่องสื่อด้านต่างๆ ผมก็โทร หา บรรณาธิการ พูดด้วยดี เพราะอาจไม่ได้ดูแลใกล้ขิด ก็ต้องขอกัน

"บ่อยครั้งที่ ผมขี้แจงให้ว่า สื่อไม่มีเเจตนา เข่น บางฉบับ ลงภาพ ท่านนายกฯ ไม่เหมาะสม หรือเรื่องคำถาม" พลโท สุชาติ กล่าว

"ที่สำคัญ ที่สุด พลเอก ประยุทธ์ ท่านย้ำเสมอว่า อย่าไปปิด นะ ให้เสรี เขา ถ้าใครทำไม่ดี ก็ให้พิจารณาเป็นรายการๆไป ไม่ใช่ปิดทั้งสถานี

พลโท สุชาติ กล่าวว่า แต่สื่อ ทีวี. ที่ทำผิด เอ็มโอยู. ทึ่ลงนามไว้กับ คสช. นั้น บางครั้ง ผม ก็ช่วยไม่ได้ ก็ต้องปฏิบัติตามกฏ

"ผมรายงาน พลเอก ประยุทธ์ ทุกสื่อ ทีวี ก็ทุกช่อง ทุกสี จะเหลือง แดง เขียว น้ำเงิน ถ้าเสนอข่าวกระทบ สถาบัน กระทบความมั่นคง เรารายงานหมด"

พลโท สุชาติ ยอมรับว่า ในการดูแลสื่อ 5 ด้าน คือ วิทยุ ทีวี สิ่งพิมพ์ Social media และ สำนักข่าวต่างประเทศ นั้น มีหน่วยรับผิดชอบโดยตรง เข่น กสทช. สตช. IC และกระทรวงต่างประเทศ ตามลำดับ เราคุม Gateway และประสาน กรม ประขาสัมพันธ์ ด้วย

พลตำรวจตรี ศรายุทธ พูลธัญญะ รอง ผบ.ตำรวจ สันติบาล กล่าวว่า ขอสื่อให้ความสำคัญกีบการตรวจสอบข่าวให้ถูกต้อง มากกว่าการเสนอข่าวแบบรวดเร็ว งดการถามซ้ำ ขอคพถามสร้างสรรค์ อย่าให้เกิดความขัดแย้ง แต่ยอมรับว่า ไม่เยอะนัก แต่บางครั้งฐานข้อมูลข่าว ไม่ตรง จึงฝากบก. ไปดูแล นักข่าวภาคสนาม ด้วย เพราะบางสื่อ เราติงไปว่า ขัดต่อคำสั่ง คสช.97 และ 103 บางส่วนมีปัญหานิดหน่อย แต่เมื่อแจ้งไปแล้ว ก็แก้ไขดีขึ้น

ทั้งนี้ ในเวทีนี้ ฝ่ายบรรณาธิการ และตัวแทนสื่อ ได้มีการชี้แจง แสดงความเห็น ต่อข้อติติง ของ คตข. เช่น เรื่องการวิเคราะห์ คาดการณ์ มักจะอยู่ในส่วนของบทความ ไม่ใช่ข่าว ดังนั้น คตข. ต้องแยกให้ถูกว่า อันไหนเป็น บทความ และ ส่วนไหน เป็นข่าว

นอกจากนี้ สื่อยัง ชี้แจงว่า นักข่าวภาคสนาม จำเป็นต้องถาม ในประเด็นความขัดแย้ง เพื้อที่จะได้ทราบ แนวคิด หรือแนวทาง ของ นายกฯ หรือผู้นำทหาร ต่อเรื่องนั้นๆ เพื่อจะได้รูัแนวทางการแก้ปัญหา แต่ไม่ใช่ขยายความขัดแย้ง

อีกทั้งเชื่อว่า ไม่มีนักข่าวคนไหน อยากถามให้ทะเลาะกัน หรือ ทำให้ นายกฯ หรือ บิ๊กทหาร อารมณ์เสีย แต่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ของ นักข่าว แต่ละคน ในการเลือกใช้คำถาม คำพูด น้ำเสียง แต่ บางครั้ง คสช. ไม่ต้องถึงขั้นสายตรง ถึง บรรณาธิการ เพราะจะถูกมองว่า แทรกแซงสื่อ ควรทำความเข้าใจกับ สื่อภาคสนามก่อน เป็นขั้นตอนแรก แต่ นายกรัฐมนตรี และ บิ๊กๆทหาร ก็ต้องควบคุมอารมณ์ คำพูดตนเองด้วย เพราะพลเอก ประยุทธ์ ก็ทำได้ดีขึ้น ในเรื่องการคุมอารมณ์

สื่อยังขี้แจง ด้วยว่า ยิ่งกับ พลเอก ประยุทธ์ นักข่าว จะช่วยลดอารมณ์ท่าน ด้วยการเตือน สะกิดตรงๆ ว่า ใจเย็นๆ หรือเปลี่ยนคำถาม เปลี่ยนเรื่องถาม บางทีก็หยอกล้อ ให้ นายกฯผ่อนคลาย ไม่มีใคร จะจงใจถามจี้ให้ นายกฯอารมณ์เสีย

ในการนี้ ตัวแทนสื่อ ยังเสนอให้ พลเอก ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ หรือพูดให้น้อยลง เพราะยิ่งพูดมาก ยิ่งเกิดปัญหา ให้ตามแก้ไข ดังนั้นควรพูดแต่พอสมควร

ท้ายที่สุด สื่อส่วนใหญ่ พูดตรงกัน ว่า สื่อก็ต้องการช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง และ ขอมีทัศนคติที่ดีต่อสื่อบ้าง อย่าคิดว่า สร้างความขัดแย้ง เพื่อที่จะขายข่าว ตอนนี้ถือว่า ทุกคนให้โอกาส พลเอก ประยุทธ์ ในการแก้ปีญหาประเทศ สื่อก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด