PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

คำเตือนจากคนกันเองถึง สปช.

15062558 สถาบันพัฒนาการเมืองและคุณภาพคน และ อาจารย์เจิมศักดิ์ ให้ความเห็นต่อสปช.อย่างตรงไปตรงมา

@ ผมเคยให้ความเห็นตั้งแต่แรก แต่ไม่มีใครฟัง
1.ประเทศ ที่มีการปฏิรูปสำเร็จ ก้าวไปสู่ประชาธิปไตยได้จริง ประชาชนมีความเข้มแข็ง มีสุขในการปฏิรูป เขาจะเอาคนไม่มาก เน้นประเด็นหลักๆที่เป็นปัญหาของการเมืองสังคมแล้วมุ่งหน้าไปตรงนั้น
2.สปช.แต่ละคน ต้องจับประเด็นหลักที่ตนสันทัดมีประสบการณ์ จริงแล้วทำให้ได้ผลดีที่สุด นำเอามาปฏิบัติได้จริงมิใช่ไปเป็นคณะกรรมการคนละ 7-10 คณะประชุมไม่ทันจบ ก็ต้องย้ายไปประชุมคระอื่นๆ
แล้วจะได้ข้อสรุปที่ดีได้อย่างไรแล้วบางคน ก็ออกมาสัมภาษณ์เป็นรายวัน
3. การให้ข่าว ต้องมีคณะผู้รับผิดชอบ นำเสนอประเด็นที่ชัดเจน ในนามของสปช. มิใช่บุคคล เป็นปัจเจก
ทำให้ตกเป็นเครื่องมือของสื่อ นักการเมืองและกลุ่มทุนฯ

4.ต้องมีการสื่อสารไปยังประชาชนให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจอย่างแท้จริงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องมีแผนมีกลไกที่ต้องทำต้องลงุทุนที่ผ่านมา ยังทำได้น้อย เพราะไม่เห็นความสำคัญและไม่ลงทุน
5. ต้องมีการสื่อสารระหว่างแม่น้ำ 5 สาย เป็นประจำต่อเนื่องให้เข้าใจบทบาทหน้าที่และเรื่องที่แต่ละส่วนทำจึงจะก้าวและเดินไปด้วยกันพร้อมกับประชาชนได้ให้ภารกิจบรรลุประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์

6. ด้วยความจำกัดของแม่น้ำ 5 สาย ในหลายเหตุหลายประการ ที่เคยเสนอไปแล้วจะทำให้ผลที่ได้ออกมา จะไม่สมูรณ์ จะได้ครึ่งกลางๆแล้วก็เป็นหน้าที่ของมวลมหาประชาชน ที่จะต้องสานต่อ

@ แต่ก็ยังมีโอกาส มีเวลาอีก 3 เดือนของสปช.
เอาสติปัญญา ความเป็นจริงเป็นหลัก อย่าใช้อามรณ์ วาทะคมคายของแต่ละตนเอาผลประโยชน์ของส่วนรวมประเทศมาก่อน ส่วนตัว
1. สรุปทบทวนและประเมินตนเอง คณะ และ สปช. ดูจุดแข็งจุดอ่อนของตน รวมทั้งของแม่น้ำอีก 4 สาย
2.นำข้อสรุปมาปรับปรุง และนำเสนอแบบมีตัวแทนทุกฝ่ายในแม่น้ำ 5 สาย
3.ในส่วนของการรับไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณา สิ่งที่ผ่านมา สิ่งที่ทำไป สิ่งที่ได้จากประชาชน
โดยต้องเข้าในหลักของการปฏิรูป และขั้นตอนของการเปลี่ยนผ่าน
3.1 ด้วยความปรารถนาดี มีใจของสปช. ที่ให้กับประชาชน
3.2 เข้าใจภารกิจและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากประวัติศาสตร์
หนึ่ง ปฏิเสธไม่เอาการเมืองเก่า จนกว่าจะมีการปฏิรูปได้จริง
สอง สร้างเสริมกลไก และบทบาทของประชาชนให้เข้มแข็งเป็นจริง
สาม ปฏิรุปก่อนเลือกตั้ง
3.3 โดยหลักและสิ่งที่สปช.หลายท่านพูดมา ให้การยอมรับร่างรัฐธรรมนูญนี้70% บ้าง 80-90 % เห็นด้วย
ข้อไม่เห็นด้วยมีไม่มากนัก

ฉนั้น " การรับร่างรัฐธรรมนูญ " จะมีผลดีต่อสปช.และประชาชนเพราะส่วนใหญ๋ มีประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติแม้ยังไปไม่ถึง การปฏิรูปประชาธิปไตยได้สมบูรณ์
นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย
ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนการเมืองและคุณภาพคน
15 มิถุนายน 2558
.................................
นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิก สปช. กล่าวว่า
สปช.มีสมาชิก 250 คน มีกระบวนการทำงานเทอะทะ ล่าช้า เนื่องจากมีการแบ่งกรรมมาธิการเป็นด้านๆ คล้ายกับกระทรวงอันเป็นรูปแบบของสภาการเมือง เช่น เกษตร อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม เหมือนกับว่าเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งที่เป็นสภาวิชาการ ซึ่งการปฏิรูปควรแยกกันทำประเด็นใหญ่ๆ เพราะทาง สปช.ไม่มีอำนาจใดๆ นอกจากให้คำแนะนำในการปฏิรูปว่าควรจะเป็นอย่างไรซึ่งปัจจุบันเป็นรูปแบบที่ผิดพลาด
เมื่อยุบ สปช.ไปแล้วก็น่าจะทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากมีการแก้ รธน.แล้วว่าอย่างไรสมาชิก สปช.ยังคงดำรงตำแหน่งในสภาขับเคลื่อนฯ ได้ 

ไม่ว่าจะเห็นชอบหรือไม่ก็ตาม ทำให้มีอิสระในการตัดสินใจมากขึ้นและมีแนวโน้มว่าอาจมีจำนวนผู้ไม่เห็นชอบมากขึ้น เนื่องจากหากโหวตไม่เห็นชอบก็ไม่เป็นไร

นายเจิมศักดิ์กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าสมาชิก สปช.บางคนทำงานไม่เต็มที่ว่า เป็นที่ระบบการทำงานมีปัญหา เนื่องจากเวลาประชุม ใครอยากพูดอะไรก็พูดแทนที่จะหยิบประเด็นขึ้นมาหารือกัน กลายเป็นว่าใครพูดก่อนหลัง พูดก่อนก็แล้วก็ไม่ฟังคนอื่น ซ้ำซาก

ซึ่งรูปแบบดังกล่าวไม่สอดคล้องกับการทำงาน ควรต้องมีประเด็นชัดเจน มีการออกเสียง มีข้อสรุป
เพื่อกดดันผู้มีอำนาจ

สปช.ท่านอื่นๆ ไปให้สัมภาษณ์บนโพเดียม ทำตัวเป็น ส.ส. ส.ว. ให้สัมภาษณ์กันโครมๆ ตนได้แต่ยืนหัวเราะ 

สปช.ต้องรู้จักพิจารณาตัวเอง เราไม่ใช่ผู้แทนหรือฝ่ายนิติบัญญัติ เราไม่จำเป็นต้องเป็นข่าว เพราะเรามาทำการศึกษาทางวิชาการ 

ต้องรวบรวมพละกำลังทำเรื่องใหญ่ๆ อย่างเต็มที่ ไม่สะเปะสะปะ เรื่องเล็กๆ ก็หยุดก่อน เอาเรื่องใหญ่ๆ ให้เป็นชิ้นเป็นอัน

ไม่มีความคิดเห็น: