PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีร่า

สำนักข่าวอัลจาซีร่า ขอเข้าสัมภาษณ์ ลุงตู่บอกนักข่าวชัด "My King คือแบบอย่างของตน"
After weeks of unrest in Thailand between groups supporting and opposing the democratically-elected Prime Minister Yingluck Shinawatra, the country's military forces made their move. Early in the morning on May 20, 2014, the head of the Thai army, General Prayut Chan-o-cha declared martial law. Shortly thereafter, he took over as prime minister and promised to bring the country to a better place.He promised a new constitution and said he would bring "happiness" and reconciliation to the people.But his critics have issued fierce denunciations of his leadership.Opposition groups complain they have been banned from political work. They say drafts of the new constitution aims to give vast power to the military and is therefore a threat to democracy.They also accuse the prime minister of increasingly undermining the media, even personally threatening journalists.Prayuth Chan-ocha, the prime minister of Thailand, sat down with Talk to Al Jazeera to responds to his critics and discuss his military takeover, press freedoms in Thailand, migrants and human trafficking, poverty, the constitutional reforms he is working on, and what will happen when elections take place.
------------
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีร่าและมีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.
โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "การทำรัฐประหารนั้นเป็นการตัดสินใจของตนคนเดียวไม่มีอำนาจไหนมาเกี่ยวข้องทั้งสิ้นเพราะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เป็นเรื่องอันตรายความเสี่ยงที่มีอยู่ ครอบครัวก็ไม่รู้ โดยจากวันนั้นถึงวันนี้ตนและครอบครัวก็ไม่ได้มีความสุขมากมายนัก เพียงแต่มีความสุขที่ได้ทำงาน ทำเพื่อประเทศชาติ เขาก็ต้องเสียสละ เหมือนกับที่ผมเสียสละเหมือนกัน เข้าใจกันในครอบครัว สำหรับเรื่องในและต่างประเทศ ตนก็ต้องเร่งสร้างความเข้าใจต่อไปว่าตนเข้ามานั้นทำอะไรบ้าง และไปทำอะไรที่เสียหายหรือไม่ เพราะสังคมโลกดูตนอยู่ทุกเรื่อง และยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป วันนี้รัฐบาลทำงานมาครบ 1 ปีแล้ว หลังจากที่ คสช.เข้ามาแก้ไขปัญหาเร่งด่วนใน 5 เดือนแรก เช่น ความรุนแรง อาวุธสงครามที่ยังมีอยู่ การทุจริตผิดกฎหมาย การจัดระเบียบสังคม ชายหาด การค้าขาย ซึ่งไม่เคยได้รับการแก้ไข และทำไปได้พอสมควร เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ทำเรื่องเหล่านี้เพราะเป็นเรื่องของคนจนที่ส่วนใหญ่มักทำผิดกฏหมายไม่ร้ายแรง เช่นการค้าขายผิดที่ ถ้าทำไปเรื่อยๆ ประเทศชาติจะไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความไม่พอใจแก่นักท่องเที่ยว"
"หากถามว่าประชาชนมีความสุขหรือไม่ จากที่ได้พบปะและสอบถาม และกระแสตอบรับในการลงพื้นที่รวมทั้งสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เขามีความสุขขึ้นเพียงแต่ความสุขกับความทุกข์มาคู่กัน ที่เขามีความสุขมากคือประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย ไม่มีการใช้อาวุธสงครามไล่ยิงกัน วางระเบิดใส่กัน และไม่ต้องเผชิญหน้ากับการประท้องยาวนาน ส่วนตัวนั้นมีความสุขเพราะประชาชนมีความสุข แต่ก็ไม่เท่ากันทั้งหมด เพราะมีส่วนได้และส่วนเสีย คนที่เสียประโยชน์ก็ไม่ค่อยพอใจ แต่ตนเลือกว่าใครจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน โดยตนต้องการทำให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยมีความสุขมากขึ้น และประเทศมีความมั่นคง เดินไปสู่อนาคตข้างหน้า ตนมีความสุขตรงนั้น แต่ไม่ใช่มีความสุขจากการอยู่ในอำนาจ" - ลุงตู่
"สิ่งที่ตนนำมาเป็นแบบอย่างในการบริหารประเทศ คือ "My King" พระมหากษัตริย์ เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทำสิ่งที่มีประโยชน์ต่อบ้านเมืองมามากมาย ทั้งเรื่องการพัฒนา แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ในวันนี้ไม่ใช่เฉพาะกับประเทศไทย แต่เหมาะกับโลกที่มีความขัดแย้งสูง ตนไม่ได้หมายว่าจะบังคับให้ใครใช้แนวทางนี้ เพียงแต่ว่ามันมีประโยชน์" - ลุงตู่
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า "ตนไม่ได้คิดว่าตัวเองเหมาะสมที่จะเข้ามาบริหารประเทศ เพียงแต่สถานการณ์ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้นไม่มีใครที่จะทำได้นอกจากตนคนเดียว เพราะเป็นสถานการณ์ที่ติดขัดด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ ความขัดแย้งที่รัฐบาลที่แล้วแก้ไขไม่ได้ รวมทั้งงบประมาณที่เดินต่อไม่ได้เพราะรัฐบาลขณะนั้นไม่มีอำนาจเต็ม โดยมีเพียงกฎอัยการศึกที่ใช้ได้ แต่ตนเป็นผู้ประกาศใช้ได้คนเดียว ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นศัตรูกับคนเสื้อแดงและเหลือง คิดว่าถ้าไม่ให้เกิดความขัดแย้งนั้นทำอย่างไรประชาชนถึงจะไม่ขัดแย้งกันก่อน ต้องไม่มีสี ตนทำหน้าที่ตรงนี้ไม่เกิน 2 ปีและต่อไปแกนนำทุกฝ่ายต้องเดินหน้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยที่ผ่านมาได้รับการประกันตัวกันออกมา ถ้าผิดศาลก็ตัดสินว่าผิดไม่ได้ไปรังแก และวันนี้ ที่ติดคุกกันอยู่นั้น มีคนเสื้อแดงบอกว่าไม่รับความเป็นธรรม ตนบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง แม้เหตุที่เกิดขึ้นจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การเมือง แต่ใครเอาคนเหล่านี้มาเผาศาลากลาง ใครเอาคนเหล่านี้มาใช้อาวุธ ยิงทหาร ยิงเจ้าหน้าที่ ยิงสถานที่ราชการ เขารับกันหรือเปล่า ซึ่งหลักฐานมีอยู่ชัดเจน วันนี้อย่าไปพูดว่า ตนกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไว้"
"แนวทางการสร้างความปรองดอง ตนได้เรียกทุกกลุ่มทุกสีเข้ามาพูดคุยกันซึ่งทุกคนบอกว่าสามารถปรองดองกันได้ แต่อีกแง่หนึ่งกลับบอกว่าการเมืองไม่สามารถปรองดองได้ เพราะทุกคนต้องการเข้าสู่อำนาจ วันนี้การปฏิบัติของรัฐ ก็ได้เตือนทุกฝ่าย ในการแสดงบทบาท ทางการเมืองที่เกินเลย เป็นการพูดคุยเพื่อให้ทราบและทำความเข้าใจ ว่าตนเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหา และหากต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตนก็จะดูแลให้ โดยที่ผ่านมาหลายกลุ่มได้ใช้โซเชียล มีเดีย ในการโจมตีรัฐบาล บางครั้งตนให้สัมภาษณ์กับสื่อเกินเลยไปบ้าง แต่ไม่เคยมีการลงโทษใคร ซึ่งนักข่าวเองก็มีความเข้าใจตนอย่างดี แต่ไม่อยากให้นักข่าวหยิบคำถาม ที่ตัวเองไม่มีความรู้มาถาม โดยตนพร้อมจะอธิบายทุกเรื่อง ตนเป็นตัวของตัวเอง ประชาชนรักที่เป็นอย่างนี้ แม้ในสายตาของต่างชาติ อาจจะยังรับไม่ค่อยได้ แต่ก็จะพยายามปรับตัว ตนไม่ใช่นักการเมือง จะให้พูดไพเราะตลอดเวลาคงไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญคือพูดแล้วทำ" - พล.อ.ประยุทธ์
"หลังจากสิ้นสุดรัฐบาลนี้ สิ่งที่จะทำคือนั่งดูรัฐบาลใหม่เขาทำงาน ซึ่งรัฐบาลใหม่อาจจะล้มสิ่งที่ทำมาทั้งหมดก็ได้ ถ้าคิดว่าดีกว่า แต่ถ้ามันไม่ดีกว่า ประชาชนเขาก็ไม่ยอม วันนี้สิ่งที่ทำนอกจากการเสี่ยงเข้ามาแล้วยังต้องวางอนาคตให้กับประเทศด้วย วันนี้ผมยังไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองมีอำนาจ เพราะอำนาจของตนใช้ในทางสร้างสรรค์ ตื่นมายังนึกอยู่เลยว่าเป็นนายกฯหรือเปล่า เวลาใครเรียก นายกๆ ผมไม่ค่อยชอบ เพราะไม่ต้องการเป็นนักการเมือง แต่เข้ามาเพราะความจำเป็น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
"เมื่อเข้าสู่อำนาจในวันที่ 22 พ.ค. 2557 ตนทำงานหนักเพื่อเตรียมตัวเอง ว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาประเทศชาติติดขัดเป็นระยะเวลานาน โดยก่อนจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นหัวหน้า คสช. และเมื่อไม่มีใครรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตนจึงทำหน้าที่ด้วยตัวเอง การเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เข้ามาท่ามกลางความขัดแย้งถือเป็นงานหนัก เพราะการปฏิวัติครั้งที่ผ่านๆมา ไม่มีการแบ่งประชาชนออกเป็นสองฝ่ายอย่าเช่นทุกวันนี้ การเข้ามาครั้งนี้ตนเสี่ยงที่จะปะทะกับทั้งสองฝ่าย แต่โชคดีที่อีกฝ่ายหนึ่งเขาหยุด แล้วให้ตนเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่ว่าสีแดง เหลือง เขียว ตนต้องแก้ไขให้หมด ด้วยกฎหมาย และที่ผ่านมาต่างประเทศเข้ามาเยี่ยมเยียนตนเป็นระยะ ซึ่งประชาคมที่ต่อต้านเรื่องความไม่เป็นประชาธิปไตยก็มาด้วย และให้เกียรติตน ซึ่งต่างประเทศรวมถึงนักธุรกิจบอกว่ารู้สึกสบายใจ โดยบอกอีกว่าจะให้ประเทศไทยเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกได้หรือไม่ ตนไม่ได้โกหก แต่รับรองไม่ได้ วันนี้ตนทำได้ แต่วันหน้าหากกลุ่มต่างๆ ออกมา ตนก็ให้สัญญากับเขาไม่ได้ แต่จะทำโดยวางสิ่งต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ทั้งนี้เป็นการวางระบบโดยการปฏิรูป ในรัฐธรรมนูญ และรัฐบาลที่จะเข้ามาต้องมีธรรมาภิบาล มีความชอบธรรม ไม่ทำอย่างที่ผ่านมาอีก จึงอยากให้ความมั่นใจในตรงนี้" - พล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นพื้นที่ที่มีความสุข และเมื่อมีความสุขมากๆ คนก็เลยทะเลาะกันเสียหน่อย ซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง จะมีความยาวนานเพราะเราไม่เคยปฏิรูปประเทศมาก่อน ตนกำลังทำให้ประชาชนทุกคนมีอนาคต ไม่ให้นักการเมืองเข้ามาใช้อำนาจ โดยหวังผลประโยชน์"

ไม่มีความคิดเห็น: