PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รัสเซียเดินหน้าขยายปราบปรามสินค้าลักลอบนำเข้าจากอียูทั่วประเทศ



รัสเซียเดินหน้าขยายปราบปรามสินค้าลักลอบนำเข้าจากอียูทั่วประเทศ
--------------
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 ส.ค.58) สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียรายงานว่า รัสเซียเดินหน้าปราบปรามผลิตภัณฑ์อาหารที่มีผู้พยายามลักลอบนำเข้าไปจำหน่ายในรัสเซียจากกลุ่มประเทศที่แซงชั่นรัสเซียก่อนและถูกรัสเซียตอบโต้ด้วยการห้ามนำเข้าอาหารจากประเทศเหล่านั้น การปราบปรามในครั้งนี้จะดำเนินการทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ ณ จุดผ่านแดนเท่านั้น
หนังสือพิมพ์รายวัน Kommersant ของรัสเซียรายงานว่า การตรวจสอบอาหารที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย (อยู่ในแบล็คลิสต์) จากประเทศต่างๆที่ร่วมกันแซงชั่นรัสเซียหรือพลเมืองของรัสเซียจะดำเนินการทั่วสหพันธรัฐรัสเซีย ไม่เพียงแต่ตามแนวชายแดนเท่านั้น
รายงานข่าวบอกว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯ Dmitry Medvedev ของรัสเซียเตือนว่า มาตรการปัจจุบันเพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าต้องห้ามกำลังถูกขัดขวางโดยผู้ผลิตและผู้นำเข้าพยายามหลบเลี่ยงการแซงชั่นจากรัสเซียด้วยการติดฉลากสินค้าต้องห้ามว่ามาจากประเทศที่สาม จากนั้นก็ขนส่งและกระจายผลผลิตเหล่านั้นไปทั่วประเทศรัสเซีย
อ้าว! ทำไมประเทศที่เรียกตัวเองว่าพัฒนาแล้ว และมีความเจริญทางอารยธรรมถึงได้หัวหมออย่างนั้นหละนั่นหนะ รัสเซียจับได้ว่าประเทศที่ถูกแบนสินค้ามีความพยามลักลอบนำเข้าสินค้าต้องห้ามมาขายในรัสเซียด้วยวิธีการต่างๆ แม้จะออกมาตรการทำลาย ณ จุดผ่านแดนแล้วก็ยังหลุดรอดการตรวจสอบไปได้ ดังนั้น รัสเซียจึงส่งเจ้าหน้าที่่ของรัฐลงตรวจสอบตามตลาดและซุปเปอร์มาร์เก็ตซะเลย ถ้าตรวจพบแล้วก็จะยืดและนำไปทำลายซะให้เกลี้ยง ดูซิว่าอียูจะอยู่ได้ซักกี่น้ำ
Alexei Alekseenko เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสินค้าการเกษตรจากองค์กร Rosselkhoznadzor ของรัสเซียออกมาเสนอทางเลือกเกี่ยวกับการทำลายสินค้าต้องห้ามที่ถูกจับได้บางประเภทว่า "สินค้าประเภทเนื้อสัตว์ และนม ควรจะนำไปทิ้งที่โรงงานขยะสำหรับผลิตแป้งโปรตีน ซึ่งเหมาะสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์" (หมายความว่าผลผลิตทางการเกษตรและอาหารบางชนิดที่มีผู้ลักลอบนำเข้าจากประเทศต้นทางต้องห้ามนั้น คนรัสเซียไม่ต้องกิน ให้เอาไปทำเป็นอาหารให้หมากับแมวและสัตว์อื่นๆกินแทนซะเลย คริๆ ช่วยลดต้นทุนให้กับโรงงานผู้ผลิตอาหารสัตว์ได้เป็นอย่างมาก เพราะได้มาฟรีๆ)
แต่ทางการรัสเซียยังไม่ได้ออกมาแสดงท่าทีว่ายอมรับหรือปฏิเสธเกี่ยวกับความคิดเห็นดังกล่าว สุดท้าย Alexei Alekseenko ก็กล่าวว่าการทำลายสินค้านำเข้าต้องห้าม เป็นวิธีเดียวที่จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับผู้ลักลอบนำเข้าได้อย่างแท้จริง
เสียใจด้วยนะอียู ไม่ว่าจะมุดน้ำดำดิน ติดฉลากตบตาว่าสินค้าต้องห้ามนำเข้าเหล่านั้นมาจากประเทศที่สาม ก็ไม่อาจจะรอดพ้นสายตาของรัสเซียไปได้ แม้จะหลุดหลอดนะจุดตรวจผ่านแดน แต่รัสเซียก็มีก๊อกสองคือตามไปตรวจจากแหล่งจำหน่ายปลายทางซะเลย เมื่อพิสูจน์ได้ว่าสินค้าเหล่านั้นมาจากประเทศต้องห้ามจริง ทางการก็จะยึดไปทำลายทันที ใครรับสินค้าประเภทนี้มาขาย ก็มีแต่จะขาดทุน ดูซิว่าอียูจะมามุกไหนอีก

ไม่มีความคิดเห็น: