PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เหตุใดสหรัฐฯถึงอยากให้รัสเซีย “โดนเอาคืน”

รัสเซียเคืองสหรัฐฯและตอกกลับขนาดนี้เป็นเพราะว่าได้มองวาทะ ของแอชตัน คาร์เตอร์ และสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้อย่างทะลุปรุโปร่งในการพยายามดิสเครดิตรัสเซีย จุดประสงค์ของสหรัฐฯก็คือต้องการจะประกาศให้โลกรู้ว่าการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรียนั้น “จบไม่สวย”แน่และรัสเซียควรจะยุติการกระทำดังกล่าว

ในขณะที่สหรัฐอเมริกาตั้งหน้าตั้งตารอให้รัสเซียได้รับการ “แก้แค้น” แต่รัสเซียไม่เล่นด้วย แสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศขัดแย้งกันอย่างชัดเจนในเรื่องวิกฤตซีเรีย

ศัตรูของสหรัฐฯในซีเรียมีอยู่สองฝ่าย ฝ่ายแรกคือ”รัฐอิสลาม”หรือไอเอส อีกฝ่ายก็คือประธานาธิบดีอัสซาด หลายเดือนที่ผ่านมานี้พันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯได้มีปฏิบัติการทางทหารแต่ผลยังไม่เป็นที่เด่นชัด สาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งคือสหรัฐอเมริกาไม่ได้ทำอย่างเต็มที่ เพราะกลัวว่าการโจมตีกลุ่มไอเอสที่รุนแรงเกินไปจะเป็นการช่วยเหลืออัสซาดทางอ้อม

สิ่งที่สหรัฐฯอยากจะเห็นก็คือการสู้กันระหว่างรัฐบาลอัสซาดกับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส เพราะเมื่อทั้งสองฝ่ายสู้กันจนพังแล้ว ตาอยู่ที่รอกินพุงปลาก็คือสหรัฐฯนั่นเองซึ่งนี่ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่รัสเซียต้องการจะเห็น

ไม่กี่วันมานี้ผลของปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรียเป็นที่จับตามองไปทั่วโลกเพราะได้ทำลายแหล่งกบดาน คลังแสงและค่ายฝึกของกลุ่มก่อการร้ายไปหลายแห่ง และภายใต้การช่วยเหลือของรัสเซีย ทหารซีเรียก็ได้ยึดคืนพื้นที่ที่เคยถูกกลุ่มกบฎยึดครองกลับมาได้หลายแห่งทำให้รัสเซียได้รับการยอมรับอย่างสูงจากรัฐบาลซีเรีย

ในทางกลับกัน แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหม ของสหรัฐฯได้เตือนว่าอีกไม่นานรัสเซียจะได้รับบทเรียนจากการปฏิบัติการโจมตีในซีเรียเพราะจะเกิดการโจมตีตอบโต้ที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย นอกจากนี้สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของสหรัฐฯก็ได้กุข่าวขึ้นมาว่าขีปนาวุธที่รัสเซียยิงไปทางซีเรียอาจจะร่วงลงในเขตแดนของอิหร่าน

เมื่อโดนสหรัฐฯสาดโคลนขนาดนี้ รัสเซียเองก็ได้ออกมาตอบโต้เช่นกันโดยนายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้บอกว่าคำพูดดังกล่าวของแอชตัน คาร์เตอร์นั้น“ไร้ยางอาย”และแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯไม่มีความเคารพต่อประเทศอื่น ส่วนนางมาเรีย ซาคาโรวา (Maria Zakharova) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ตำหนิการกระทำของซีเอ็นเอ็นว่านับวันยิ่งเหมือน “ท่อน้ำทิ้งที่ใช้ระบายน้ำเน่า”

สำหรับรัสเซียแล้ว หากไม่รีบทำปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสอย่างจริงจัง กำลังและอิทธิพลขององค์กรเหล่านี้ก็จะขยายเพิ่มมากขึ้นและหาจุดจบไม่ลงและอาจจะแพร่กระจายไปยังภูมิภาคอื่น ๆที่รวมถึงเอเชียกลาง นอกจากนี้ยังอาจเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียได้ อีกด้านหนึ่งหากอัสซาดล้มลงก็เท่ากับว่ารัสเซียจะเสียพันธมิตรในตะวันออกกลางไปอีกหนึ่ง หรืออาจถึงขั้นสูญเสีย ฐานทัพเรือของรัสเซียที่เมืองทาร์ทัสในซีเรียไป

สหรัฐอเมริกาและรัสเซียไม่เพียงแต่มีท่าทีในการต่อสู้กับ ไอเอสที่แตกต่างกัน แต่ทัศนคติและจุดยืนต่อกลุ่มกบฎต่อต้านรัฐบาลซีเรียก็ยังต่างกันอย่างสิ้นเชิง สหรัฐฯสนับสนุนเงินและการฝึกต่างๆให้กลุ่มกบฎที่ต่อต้านรัฐบาลอัสซาดและหวังให้กลุ่มคนเหล่านี้กับกลุ่มรัฐอิสลามล้มล้างรัฐบาลอัสซาด แต่รัสเซียเห็นว่ากลุ่มกบฎเหล่านี้แท้จริงแล้วก็คือรูปแบบของกลุ่มก่อการร้ายและเป็นภัยคุกคามกับรัฐบาลซีเรียที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย

การงัดข้อกันระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียรวมถึงการแทรกแซงของประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอาหรับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไฟสงครามในซีเรียนั้นยากที่จะดับมอดลงได้
(ข่าวโดย เปา เอ๋อร์เหวิน / บรรณาธิการ จ้าว จั๋วหยุน / Xinhua International รายงาน)

ไม่มีความคิดเห็น: