PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เครือข่ายนักวิชาการ ชี้ ปชช.มีสิทธิตรวจสอบทุจริต เปิดทางร่วมไขข้อกระจ่าง "ราชภักดิ์"

14ธันวาคม2558

เครือข่ายนักวิชาการฯ ยัน "ปชช.มีสิทธิตรวจสอบทุจริต" จี้ยุติละเมิดสิทธิ์ เปิดทางร่วมไขข้อกระจ่าง "ราชภักดิ์"
http://www.matichon.co.th/online/2015/12/14500916741450091765l.jpg
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่ห้องประชุมคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา อาคารคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง จัดแถลงข่าว "เรียกร้องให้ยุติการจับกุมคุมขังประชาชนที่ตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์" นำโดย นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ นายยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์  โดย นายอนุสรณ์ อ่านแถลงการณ์ความว่า ในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมาได้ปรากฏข้อมูลทางสื่อมวลชนถึงความไม่โปร่งใสในโครงการอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ แม้ทางกองทัพจะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วมีผลสรุปว่าไม่มีการทุจริตใดๆ แต่ก็ไม่อาจลดทอนความเคลือบแคลงในหมู่ประชาชนได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบกันเองภายในหน่วยงานเดียวกัน ทำให้นักศึกษาและประชาชนกลุ่มต่างๆ รณรงค์ให้รัฐบาลและกองทัพบกตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส แต่ความพยายามดังกล่าวกลับถูกขัดขวางข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ปัจจุบันการข่มขู่คุกคามได้เพิ่มระดับความรุนแรง ถึงขั้นเพียงการส่งข้อมูลข่าวสารการตรวจสอบทุจริตหรือเพื่อการกดปุ่ม ไลค์ บนหน้าสื่อออนไลน์กลับถูกจับกุมคุมขังตั้งข้อหาร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีประชาชน 2 คนคือ นายฐนกร ศิริไพบูลย์ และนายธเนศ อนันตวงศ์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจับกุมและลำตัวไปกักขังในสถานที่ไม่เปิดเผยรวมทั้งไม่อนุญาตให้ญาติและทนายความเข้าพบด้วยความผิดในข้อหาดังกล่าว

http://www.matichon.co.th/online/2015/12/14500916741450091768l.jpg
 
ด้วยเหตุนี้เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจึงเรียกร้องไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้

1. ยุติการขัดขวาง ข่มขู่ คุกคาม หน่วงเหนี่ยวนักศึกษาและประชาชนที่ตั้งข้อสงสัยและต้องการให้มีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เพราะการเคลื่อนไหวของนักศึกษาและประชาชนเป็นไปตามสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐาน อีกทั้งรัฐบาลเป็นหน่วยงานสาธารณะที่ประชาชนย่อมวิพากษ์วิจารณ์ติชมได้ หากการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นใด ไม่อยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพื่อหักล้างข้อสงสัย มิใช่การปิดกั้นคุกคามการตั้งคำถามและข้อสงสัยของประชาชน ด้วยการจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาที่รุนแรง

2. ยุติการดำเนินคดี "ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง" ต่อการแบ่งปันข้อมูลการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์และการกดปุ่ม "ไลค์" บนหน้าสื่อออนไลน์ และยุติการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 ในศาลทหารเป็นเครื่องมือในการดำเนินคดีบุคคลที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์

3. ยุติการจับกุมโดยพลการและการควบคุมตัวที่ตัดขาดจากโลกภายนอก รวมทั้งยกเลิกเรือนจำชั่วคราวกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11   ทั้งนี้ ให้นำวิธีปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้ อนุญาตให้ผู้ต้องหาเข้าถึงทนายและญาติตลอดจนการรักษาพยาบาลที่จำเป็น รวมทั้งเปิดให้ศาลพลเรือนตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการควบคุมตัว

http://www.matichon.co.th/online/2015/12/14500916741450091772l.jpg

"เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองยืนยันว่า ′การตรวจสอบทุจริตไม่ใช่อาชญากรรม′ และ ′ประชาชนที่กระตือรือร้นในการตรวจสอบทุจริตไม่ใช่อาชญากร′ ประชาชนไทยมีสิทธิสงสัยได้เรียกร้องให้ตรวจสอบโครงการของรัฐ มีสิทธิตั้งคำถามและแบ่งปันข้อมูลความไม่โปร่งใสในโครงการนั้นๆ การข่มขู่ คุกคาม ดำเนินคดีร้ายแรงจะยิ่งก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในโครงการดังกล่าวมากขึ้นไปอีก อีกทั้งมีแต่จะนำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคมมากยิ่งขึ้น" แถลงการณ์ ระบุ

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า จากที่เฝ้าดูเหตุการณ์ 2-3 วันมานี้ สิทธิพลเมืองที่จะแสดงความเห็นโดยสุจริตได้ถูกลิดรอน ทางเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจึงออกแถลงการณ์ฉบับนี้ จากการจับกุมบุคคลที่เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์โดยไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนปกติ มีการขังตัวนายธนกร ศิริไพบูลย์ ผู้เผยแพร่ผัง ต่อที่ศาลทหารโดยไม่บอกว่านำตัวไปที่ใด ผิดหลักการควบคุมตัวตามปกติค่อนข้างรุนแรง แลนายธเนตร อนันตวงษ์ที่ป่วยรอผ่าตัดอยู่ถูกพาตัวไปโดยอนุญาตให้ญาตินำเพียงยาแก้ปวดชนิดพื้นฐานไปให้เท่านั้นลิดรอนสิทธิผู้ต้องหาอย่างรุนแรง รัฐบาลและคสช.ได้ก้ามข้ามทุกอาณาบริเวณการแสดงความเห็นของประชาชนไปอีกระดับ  ตอนนี้สังคมสับสนว่าเรื่องไหนวิจารณ์ได้ จึงอยากใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยเรียกร้องให้รัฐบาลหรือคนที่เกี่ยวข้องร่วมชี้แจงกับเราให้สังคมเกิดความกระจ่างชัด เพราะความสงสัยขยายตัวขึ้นแต่มีความกลัวกดไว้ไม่ให้ถาม ทางเครือข่ายนักวิชาการฯมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายคอมพิวเตอร์และสิทธิออนไลน์ต่างๆที่จะร่วมชี้แจงพร้อมกับคนจากรัฐบาลเพื่อคลายความกลัว ความสงสัยและไม่เข้าใจในเรื่องนี้

"เราไม่สามารถบังคับให้รัฐบาลทำตามเราได้ ทำได้เพียงบอกให้รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง  และไม่ควรให้องค์กรในกำกับของรัฐบาลเป็นผู้ตรวจสอบ ควรเปิดโอกาสให้องค์กรอื่นและภาคประชาสังคมมีส่วนร่วม สำนึกพลเมืองขั้นพื้นฐานคือต้องช่วยกันตรวจสอบ เหตุผลที่คณะรัฐประหารขึ้นมาคือการขจัดทุจริตคอร์รัปชั่น เช่นนี้แล้วจะอ้างความชอบธรรมในการขึ้นมาได้อย่างไร   ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ไม่มีเหตุผลที่จะปิดกั้นคนอื่น" นายอนุสรณ์กล่าว 

ไม่มีความคิดเห็น: