PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

"ดีเอสไอ" ลุยตรวจรถหรู "สมเด็จช่วง" ด้านวัดปากน้ำฯ

"ดีเอสไอ" ลุยตรวจรถหรู "สมเด็จช่วง" ด้านวัดปากน้ำฯ ยื่นคู่มือจดทะเบียน ยันมีผู้นำมาถวายให้ เชื่อ 1 เดือนสรุปผล ก่อนเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ขณะที่ ไวยาวัจกรวัด ยันหากผิดจริงยินดีทำตามกระบวนการทางกฎหมาย
จากกรณีมีกระแสข่าวลือในโซเชียลมีเดียเมื่อปลายสัปดาห์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ม. 44 สั่งการดีเอสไอประสานกำลังทหาร-ตำรวจ กว่า 100 นาย บุกจู่โจมวัดปากน้ำภาษีเจริญ กระทั่งวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ทางนายไพบูลย์ นิติตะวัน มายื่นเรื่องให้ตรวจสอบ และเป็นผู้กล่าวหาสมเด็จช่วง กรณีครอบครองรถหรูไม่ถูกกฎหมาย
คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ม.ค. ที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กทม. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รอง ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าชมพิพิธภัณฑ์รถหรูโบราณ ตามคำเชิญของวัดปากน้ำ ที่ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจของ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ที่ปรากฏข่าวว่าเป็นรถ 1 ในจำนวน 6,757 คัน ที่อยู่ในคดีที่ดีเอสไอรับไว้ตรวจสอบ เป็นรถจดประกอบถูกต้องตามกฎหมาย หรือรถนำเข้าทั้งคันที่สำแดงเท็จเป็นรถจดประกอบเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี โดยมี นายดำเกิง จินดาหรา ไวยาวัจกร วัดปากน้ำ และ นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร ทีมกฎหมายวัดปากน้ำ ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
มอบเอกสาร ยืนยัน ความบริสุทธิ์ใจ เพื่อให้ดีเอสไอตรวจสอบปมรถหรู
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถเบนซ์โบราณ 3 คัน ถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่ห้องมหาชนคุณารมณ์ ชั้น 1 พระมหาเจดีย์รัชมงคล นอกจากนี้ยังมีสิ่งของโบราณกว่า 1,000 รายการ จัดแสดงให้ประชาชนเยี่ยมชม ก่อนที่ นายดำเกิง และ นายศุภัทร์พจน์ นำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเยี่ยมชมภายในพิพิธภัณฑ์ของโบราณที่ตั้งอยู่ภายในวัดฯ
จากนั้น นายดำเกิง ได้มอบเอกสารสำเนาหนังสือคู่มือการจดทะเบียนรถให้กับ พ.ต.ต.วรณัน เพื่อใช้ตรวจสอบเอกสารกระบวนการได้มาซึ่งการครอบครองรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ โบราณ รุ่น s300 สีครีมไข่ไก่ ทะเบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร ขนาดเครื่องยนต์ 3,000 ซีซี ที่สำแดงว่าเป็นอะไหล่รถยนต์เก่าของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบรถโบราณ ตามคำเชิญของทางวัดปากน้ำ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยมีการขอตรวจสอบเอกสารที่มาของรถว่ามาอย่างไร ทางนายดำเกิงได้มอบเอกสารเป็นสำเนาหนังสือคู่มือการจดทะเบียนรถ ขั้นตอนต่อไปดีเอสไอจะเริ่มตรวจเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของ 1. กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต ตรวจสอบการนำเข้าถูกกฎหมายไหม นำเข้ามาอย่างไร และ 2. กรมการขนส่งทางบก ว่ามีการจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบถูกต้องไหม มีแหล่งที่มาที่ไปจากไหน
ทัพสื่อมวลชน ให้ความสนใจล้มหลาม ติดตามาทำข่าวเป็นจำนวนมาก
“หากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือด้วยดี คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดไม่เกิน 1 เดือน จากนั้นดีเอสไอก็จะตรวจสอบด้านกายภาพรถ ถือว่าเป็นวัตถุพยาน โดยมีผู้เชี่ยวชาญของบริษัท เบนซ์ฯ จะใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ส่วนจะนำรถมาตรวจสอบที่ดีเอสไอหรือมาตรวจที่วัดฯ หรือไม่นั้น ต้องมีการประชุมพูดคุยกันก่อน ดีเอสไอยืนยันจะรีบดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้ทราบผลโดยเร็วเพื่อประโยชน์ของสังคมและทุกฝ่าย ส่วนการจะเรียกสอบ สมเด็จช่วง หรือไม่นั้น ต้องขอดูรายละเอียดตามเอกสารก่อน หากตรวจสอบเอกสารแล้วพบว่าเกี่ยวข้อง ก็ต้องเรียกมาสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย” พ.ต.ต.วรณัน กล่าว
นายดำเกิง กล่าวว่า สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ยินดีให้ตรวจสอบทุกกรณี แต่ยอมรับว่า รถโบราณดังกล่าวมีลูกศิษย์วัดนำมาถวายจริง แต่ไม่ทราบว่าลูกศิษย์ท่านไหน ในส่วนอะไหล่บางชิ้นส่วนนั้น ยอมรับว่าทางวัดได้มีการสั่งซื้อและนำเข้ามาจริง เพราะรถโบราณมีอายุประมาณ 60-70 ปี เมื่อรถชำรุดต้องสั่งอะไหล่มาใช้ในการซ่อมแซมรถ ยืนยันว่าเป็นรถลูกศิษย์ที่นำมาถวายในปี 2554 ก่อนทางวัดฯ นำมาจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ช่วงปี 54-55 ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาความเป็นไปในอดีต ซึ่งมีทั้งรถเก่า เรือ มีอายุหลายสิบปี เป็นของในอดีตที่ชาวบ้านมี อีก 20 ปีอาจไม่มีสิ่งของเหล่านี้ ถ้าใครมีของโบราณมาบริจาคก็จะนำมาเก็บโชว์ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ทั้งหมด ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้ วัดก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เป็นวัดก็ต้องอยู่ในความสงบ เป็นสิทธิส่วนบุคคล ถูกผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ส่วนรถคันอื่นเป็นของพระรูปเก่าแต่มรณภาพไปแล้ว
จนท.ดีเอสไอ ลุยตรวจสอบปมรถหรู ที่วัดปากน้ำ
ส่วนกรณีที่พบว่า ทางวัดนำเงินไปซื้อรถคันนี้ อันนี้ไม่ทราบ และที่ทราบมารถคันนี้เป็นรถจดประกอบ มีหลักฐานจากกรมขนส่งทางบกชัดเจน หากผลการตรวจสอบออกมาเช่นใด ทางวัดก็ยินดีจะทำตามกฎหมาย 
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวว่า วันนี้ทางวัดได้มอบเอกสารคู่มือการจดทะเบียนรถ หมายเลขทะเบียน ขม 99 ให้กับดีเอสไอ ซึ่งเป็นเอกสารจากกรมการขนส่งทางบก กรุงเทพมหานคร ระบุอยู่ในหมายเหตุหน้าที่ 18 ว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถเก่าที่บูรณะขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่ารถคันนี้สมเด็จช่วงได้จากการบริจาคของลูกศิษย์ที่ถวายให้เมื่อปี 2554 แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้บริจาครถคันดังกล่าวได้
พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ปปง.ดำเนินการในคดีรถหรูอยู่แล้ว มีข้อมูลอยู่แล้วหน่วยงานไหนอยากได้ข้อมูลให้ประสาน ปปง.มา จะสามารถทำให้การทำงานง่ายและรวดเร็วขึ้น.

ไม่มีความคิดเห็น: