PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

นายกหัวใจสีม่วง

หัวใจสีม่วง.....
บิ๊กตู่ เหน็บ บางคน โกหกจนตาย เปรียบ หัวใจสีม่วง ของคนใกล้ตาย จะพูดแต่ความจริง เช่น ทหารเสือราชินี ที่"พระราชินี"พระราชทาน หัวใจสีม่วง ให้ เผยคนไทยไม่เคยตีกันหนักขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะทหาร เคลียร์ กระชับพื้นที่ปี53 ถามว่าอย่างผม อย่างทหารนี่หรือจะไปยิงพี่น้องประชาชน เพราะทหารลูกหลานท่านทั้งนั้น  ผมทำไม่ได้หรอก ใครทำ ผมต้องลงโทษ ไม่เคยสั่งลูกน้องไปทำร้ายคน ถามใครยิงทหาร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานสักขีพยานในการมอบหนังสืออนุญาตให้อยู่อาศัยหรือทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา 16 จัดที่ดินให้ชุมชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า วันนี้ที่ผมมาอยู่กับท่านคือทำปัจจุบัน เอาประวัติศาสตร์มาเรียนรู้ แก้ไขปรับเปลี่ยน อันไหนไม่ดีก็ไม่ทำ เพื่อวางพื้นฐานให้กับประเทศ แค่นี้จริงๆ

" ที่ผ่านมาคนไม่เคยตีกันขนาดนี้ เพราะอะไร เพราะทหารหรือ ผมว่าไม่ใช่ ถ้าย้อนกลับไปดู ปี 53 กับ ปี 57 การชุมนุมมันต่างกันอย่างไร รู้หรือไม่ ทำไมเขาต้องใช้กำลังเพื่อยุติ ก็เพราะมีการใช้อาวุธ มีการยิงส่วนราชการ เผาศาลากลางจังหวัด ผมไม่รู้ว่าใครทำ ท่านไปหามา แต่เพราะมีความรุนแรงทหารจึงต้องไปรักษาความเรียบร้อย ในอดีตคนใช้อาวุธยิงใส่ทหาร 

ผมถามว่าทหารไม่มีชีวิตจิตใจเลยหรือ อยากจะพูดกับท่านมานานแล้ว ท่านฟังผมและอยากให้ไปคิดและแยกแยะเอา ถามว่าเผาศาลากลางจังหวัดถูกต้องหรือไม่ ประท้วงไม่ชอบใจรัฐบาลแล้วเผาศาลากลางเล่นหรือ วันหน้าไม่มาเผาสภากันเลยหรือ ยิงทหาร ใครทำ ฝ่ายไหน ไม่รู้เหมือนกัน แต่อย่าให้เขามาบิดเบือน ปี 53 ปี 49 ใครทำ มันก็ค่ายเดียวกัน มันยิงทั้งคู่ 

"ถามว่าอย่างผม อย่างทหารนี่หรือจะไปยิงพี่น้องประชาชน เพราะทหารลูกหลานท่านทั้งนั้น  ผมทำไม่ได้หรอก ใครทำ ผมต้องลงโทษ ไม่เคยสั่งลูกน้องไปทำร้ายคน มีแต่ช่วยประชาชน 

เพราะคติพจน์ของกองทัพ คือเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน ตนทำอย่างอื่นไม่ได้ เป็นความซื่อสัตย์ที่ต้องรักษาไว้ 

"สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานหัวใจสีม่วงให้แก่ทหารเสือ ทรงตรัสว่า หัวใจสีม่วงคือ คนที่ใกล้จะตายแล้ว ส่วนใหญ่จึงจะไม่โกหก แต่วันนี้ไม่แน่ใจแล้ว หลายคนมันจะโกหกจนตาย ตายไปแล้วยังโกหก เพราะยังพูดโกหกทุกวัน แล้วจะไปเชื่ออีกหรือ จะให้คนเหล่านี้มาสู้กับผมหรือ คนที่มีคดีความ ต้องยอมรับคำตัดสินของศาล ประเทศจึงจะอยู่ได้"

“บุคคลในประเทศทะเลาะกันเอง เอาโน่นเอานี่ ถามว่าทุกอย่างกลับไปที่เดิมไหม ตีกันเหมือนเดิม เลือกตั้งมา อีกพวกก็ตี ใครสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดขึ้น ท่านสัญญากับผมก็แล้วกัน ว่าท่านจะไม่เข้าไปกรุงเทพฯอีก ใครจะเอารถมารับ มันตายเปล่า ตายไปเยอะแล้ว ตอนนี้ยังตอบยมบาลไม่ได้ว่าตายเพราะอะไร เพราะเขาเกณฑ์ไง คนไทยโรแมนติกอยู่แล้วเขาพูดอะไรก็เชื่อ ตายไม่รู้ตัว แต่ไอ้คนพาไปไม่ตายสักคน วันนี้ยังพูดเย้วๆ แต่เอาล่ะ ผมคิดว่าเวรกรรมมีจริง”นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ผมไม่ได้ปิดกั้น เพราะยังมีการพูดกันอยู่เลย อาจจะเรียกไปเตือน ก็หาว่าข่มขู่ เขาเรียกขู่อะไร  ผมไม่ชอบขู่ ถ้าทำก็ทำเลย แต่ยังไม่ได้ทำ เรื่องประชามติแค่ขอให้แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ไม่ได้บอกว่าให้รับหรือไม่รับ แต่วันนี้ยังพูดกัน ก็อย่าลืม ระมัดระวังกฎหมายด้วย ใครจะจ้างให้มาบอกใครต่อใครเรื่องนี้ระวังติดคุกแล้วกัน กฎหมายคือกฎหมาย มันจะโดนเท่าไรแค่นั้นเอง

นายกฯ กล่าวตอนท้ายว่า วันนี้ขอเวลา 2 ปีเพื่อให้ประเทศเดินหน้าให้ได้ และมีการเลือกตั้งในปี 60 จากนั้นจึงมีส.ว.เพื่อดูแลสถานการณ์ในช่วง 5 ปีแรก จากนั้นหากสถานการณ์ดีขึ้น เรียบร้อยขึ้นก็จะปรับลงเรื่อยๆ หรือค่อยปรับส.ว.ออก ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับทุกคน ต่อไปนี้ต้องบังคับใช้กติกาอย่างจริงจัง การทำประชามติอย่าตีกัน เพราะจะทำให้เลือกตั้งไม่ได้ หน้าที่ตามประชาธิปไตยคือ การลงประชามติและเลือกตั้งภายใต้ความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งฟังความเห็นต่าง รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ และดูแลคะแนนเสียงส่วนน้อยอย่าให้ใครมาบิดเบือน

 ทั้งนี้ คนดีไม่มีวันตาย หมายถึงไม่ตายจากประวัติศาสตร์ที่ทำให้ประเทศไทยก้าวหน้า ตนใจร้อนอยากให้การดำเนินการรวดเร็ว แต่ทำคนเดียวคงไม่ไหว คงต้องขอความร่วมมือจากทุกคน ขอมือทั้งสองข้าง สมองและเท้าด้วยเพื่อร่วมเดินหน้าประเทศไปด้วยกันแบบStronger Together

ไม่มีความคิดเห็น: