เมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 25 กรกฎาคม ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสมบูรณ์ พื้นทอง ตัวแทนภาคประชาชน พร้อมกลุ่มสตรีปกป้องพระพุทธศาสนา ชมรมพระพุทธศาสนา จ.พระนครศรีอยุธยาและจ.ฉะเชิงเทรา กลุ่มพุทธฉายา และตัวแทนองค์กรภาคประชาชน 20 คน เข้ายื่นคำร้องกล่าวโทษสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช โดยมีพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ รับเรื่อง
นางสมบูรณ์ กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวสารกรณีดีเอสไอพบหลักฐานว่า สมเด็จช่วงมีความผิดฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีหรือหลีกเลี่ยงภาษีไม่ครบถ้วน ตามพ.ร.บ.สรรพสามิต เนื่องจากพยานหลักฐานชัดเจนว่ารถยนต์โบราณ ยี่ห้อเมอร์เซเดสเบนซ์ ทะเบียน ขม 99 มีการซื้อขายในราคา 4 ล้านบาท แต่ตอนยื่นภาษียื่นเพียง 570,000 บาท อีกส่วนหนึ่งคือมีความผิดฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหาย และร่วมกันแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชนหรือในเอกสารราชการ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน เนื่องจากการเสียภาษีที่ขนส่งรถราคา 4 ล้านบาท แต่ไปแจ้งเสียภาษี 1 ล้านบาท ชัดเจนว่าผู้ครอบครองและผู้เกี่ยวข้องมีความผิดด้วย
นางสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า จึงร้องเรียนให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว ตรงไปตรงมา ตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของสังคมในปัจจุบัน ทั้งนี้ตนพร้อมคณะขอกล่าวโทษสมเด็จช่วงว่าอาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2527 มาตรา 16(1) และกฎหมายอาญามาตรา 83 และข้อหาที่ 2 ร่วมกันแจ้งขอความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ และแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานผู้กระทำหน้าที่ ผิดกฎหมายอาญา มาตรา 137 และมาตรา 267 ประกอบมาตรา 83 จึงขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ทั้งนี้ทางคณะขอให้กำลังใจการทำงานของดีเอสไอด้วย
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ยืนยันว่าดีเอสไอจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้ จะเร่งนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าว เสนอไปยังอธิบดีดีเอสไอให้ทราบต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น