PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เปิดสถิติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร ปี 2

เปิดสถิติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหาร ปี 2+++
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รับข้อมูลจากกรมพระธรรมนูญ ระบุว่าตั้งแต่ 22 พ.ค. 2557- 31 พ.ค. 2559 มีคดีของพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารจำนวน 1,546 คดี คิดเป็นจำนวนผู้ต้องหาและจำเลยรวม 1,811 คน เป็นคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี 517 คดี และคดีที่ศาลพิจารณาคดีเสร็จสิ้นแล้ว 1,029 คดี
จากสถิติดังกล่าว ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีข้อสังเกต ดังนี้
1. การที่ คสช. ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557 – 1 เม.ย. 2558 ส่งผลให้คดีซึ่งเกิดระหว่างการประกาศกฎอัยการศึกดังกล่าวนั้นไม่สามารถอุทธรณ์และฎีกาได้ สถิติดังกล่าวไม่ได้แบ่งแยกเวลาทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่าคดีที่ไม่มีสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกามีจำนวนเท่าใด
2. จากสถิติคดีทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานครพบว่า ประเภทคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาในศาลทหารมากที่สุดยังคงเป็นประเภทคดีตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 สถิติคดีที่สูงแสดงให้เห็นว่ามีคดีเพียงส่วนน้อยซึ่งเกี่ยวข้องทางการเมืองเท่านั้น แต่คดีส่วนใหญ่เป็นคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยเหตุซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจทางการเมือง แต่กลับต้องถูกดำเนินคดีในศาลทหาร ซึ่งมีหลักประกันสิทธิการได้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมน้อยกว่าศาลยุติธรรรม
3. เมื่อเทียบกับสถิติการดำเนินคดีพลเรือนในศาลทหารช่วง 22 พ.ค. 2557- 30 ก.ย. 2558 มีพลเรือนซึ่งถูกดำเนินคดีมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญาในศาลมณฑลทหารบก 2 ราย ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลล่าสุดที่ได้รับ คือ ไม่มีคดีมาตรา 116 ในศาลมณฑลทหารบกเลย
นอกจากนี้สถิติคดีมาตรา 116 ในศาลทหารกรุงเทพ 5 คดีนั้นยังน้อยกว่าความเป็นจริง ซึ่งศูนย์ทนายความฯทราบว่า มีคดีอย่างน้อย 6 คดี คือ คดีของนายจตุรนต์ ฉายแสง คดีของสมบัติ บุญงามอนงค์ คดีพลเมืองรุกเดินของพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ คดีมอบดอกไม้ให้พันธ์ศักดิ์ของลุงปรีชา คดีของรินดาซึ่งโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก และยังคงมีอีกหลายคดีที่อยู่ในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาของอัยการทหาร เช่น คดี 14 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ คดี 8 แอดมินเพจเรารักประยุทธ์ เป็นต้น ข้อมูลสถิติดังกล่าวจึงอาจยังไม่ครบถ้วนตามความเป็นจริง
4. เมื่อเทียบกับคดีในความรับผิดชอบของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเฉพาะที่อยู่ในเขตอำนาจศาลทหารทั้งหมด 53 คดี โดยมีคดีที่สิ้นสุดแล้ว 16 คดี ซึ่งล้วนแต่เป็นคดีที่จำเลยรับสารภาพและไม่มีการสืบพยานในชั้นศาล แต่คดีที่ยังไม่สิ้นสุดอีก 37 คดี ที่จำเลยต่อสู้คดี ยังไม่มีคดีใดเลยที่ศาลทหารพิจารณาเสร็จสิ้นในระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา เนื่องจากศาลทหารไม่มีระบบการนัดพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อพยานซึ่งนัดไว้ล่วงหน้าไม่มาศาลโดยอ้างเหตุติดราชการ ศาลก็จะมีคำสั่งให้เลื่อนการสืบพยาน ทำให้เสียวันนัดดังกล่าวไป และโดยปกติศาลทหารจะนัดสืบพยานเพียงครึ่งวันในช่วงเช้าเท่านั้น ทำให้การพิจารณาคดีของศาลทหารเป็นไปอย่างล่าช้าเมื่อเทียบกับคดีประเภทเดียวกัน คือข้อหาฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่ง คสช.ที่อยู่ในเขตอำนาจศาลยุติธรรม เนื่องจากเหตุในคดีเกิดก่อนการประกาศให้คดีฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่ง คสช. พิจารณาในศาลทหาร อาทิ คดีฝ่าฝืนการชุมนุมทางการเมืองของอภิชาติ พงษ์สวัสดิ์ ในศาลแขวงปทุมวัน และคดีฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของสมบัติ บุญงามอนงค์ในศาลแขวงดุสิต ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีในศาลชั้นต้น ปรากฎว่าคดีดังกล่าวล้วนพิจารณาและพิพากษาแล้วทั้งสิ้น แต่คดีฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่ง คสช.ในศาลทหาร อาทิ คดีฝ่าฝืนการรายงานตัวของจิตรา คชเดช กลับยังพิจารณาไม่เสร็จสิ้น
อ่านรายละเอียดทั้งหมดที่ http://www.tlhr2014.com/th/?p=1650

ไม่มีความคิดเห็น: