นายกรัฐมนตรีระบุรัฐบาลทำประชามติโดยสมัครใจ โปร่งใส เปิดกว้าง และตรากตำ กว่าจะถึงจุดหมาย แต่ต้องผิดหวังกับการแทรกแซงอย่างไม่เหมาะสมจากต่างชาติโดยเฉพาะผู้ที่เรียกตนเองว่าเป็นมิตรประเทศ
หลังสิ้นสุดการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งการประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าคนไทยส่วนใหญ่เห็นชอบกับทั้งร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง สำนักงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ ส่งเอกสารทางออนไลน์ให้สื่อมวลชนต่างชาติ มีข้อความจั่วหัวว่าสารจากนายกรัฐมนตรี “ถึงคนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ออกไปใช้สิทธิ์ในการลงประชามติหรือไม่ รัฐบาลได้ยินเสียงของพวกท่าน” ในสารดังกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การทำประชามติไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลถูกกำหนดให้ต้องดำเนินการ แต่เป็นการทำโดยสมัครใจ เป็นความคิดริเริ่มของรัฐบาลที่มีนโยบายอันคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก และว่าการทำประชามติที่จัดขึ้นเป็นไปอย่างโปร่งใสและเปิดกว้าง กับเป็นส่วนหนึ่งของโรดแมปที่จะนำไทยไปสู่การปฏิรูปทางการเมืองอันเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
“การจัดทำประชามติวันนี้เป็นความคิดริเริ่มของรัฐบาลที่ต้องอาศัยความเหนื่อยยากตรากตรำกว่าจะมาถึงจุดหมายสูงสุด ในอันที่จะตัดสินอนาคตของตนเองได้อย่างมีอารยะ อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าผิดหวังที่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองนี้กลับมีการแทรกแซงอย่างไม่เหมาะสมจากต่างชาติ การแทรกแซงเหล่านี้ทำให้เราอดที่จะรังเกียจอคติของคนที่เรียกตนเองว่าเป็นมิตรของไทยไม่ได้ อย่างไรก็ดี การแทรกแซงด้วยความมุ่งร้ายนี้กลับได้รับแรงสะท้อนกลับอย่างกังวานและชัดเจนจากคนไทยที่ออกไปลงประชามติในวันนี้!” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่าจะรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่แสดงออกมาในวันนี้และดำเนินการทุกอย่างที่จัดการปัญหาที่เป็นข้อกังวล ในเวลาเดียวกันก็จะเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนในการแก้ปัญหาการเมืองของชาติ
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศผลการนับคะแนนการลงประชามติอย่างไม่เป็นทางการจำนวน 94% พบว่าประเด็นที่ 1 มีผู้เห็นชอบ 61.40% ไม่เห็นชอบ 38.60% ประเด็นที่ 2 เห็นชอบ 58.11% ไม่เห็นชอบ 41.89 % โดยคาดว่ามีผู้มาใช้สิทธิ 55% และจะมีการรายงานผลอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ #ประชามติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น