PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

นอภ.สัตหีบนำทีม รื้อรีสอร์ตหาดจอมเทียน รุกที่สาธารณะ พิพาทนาน 10 ปี

นอภ.สัตหีบนำทีม รื้อรีสอร์ตหาดจอมเทียน รุกที่สาธารณะ พิพาทนาน 10 ปี
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ก.ย. 2559 00:31
นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี นำทีมงานเข้ารื้อรีสอร์ตริมหาดจอมเทียน ที่บุกรุกที่ดินสาธารณะ หลังเกิดข้อพิพาทยาวนานถึง 10 ปี
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.59 นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วยนายสมพงษ์ สายนภา นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาจอมเทียน นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ทหารจากกองรักษาความสงบ ฐานทัพเรือสัตหีบ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถแบ็กโฮ รถขุดเจาะ เครื่องมือหนัก และแรงงานจำนวนมาก เดินทางลงพื้นที่บริเวณริมชายหาด ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ "ร้านต้นหาด" เพื่อดำเนินการรื้อถอนอาคาร กำแพง และสิ่งปลูกสร้างถาวร ประกอบด้วยรีสอร์ตที่พัก และร้านอาหารในพื้นที่จำนวนรวมกว่า 4 ไร่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีการก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต และบุกรุกที่สาธารณะซึ่งเป็นโครงการที่มีปัญหาเรื้อรังมานานนับสิบปี
นายนรเสฏฐ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการร้านต้นหาดมีปัญหาบุกรุกที่สาธารณะมานับสิบปี กระทั่งทางท้องถิ่นได้มีการแจ้งเรื่องและส่งฟ้องร้องต่อศาล จวบจนปี 2548 ศาลจึงมีคำพิพากษาว่ากรณีดังกล่าวถือเป็นการบุกรุกที่สาธารณะ ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าของโครงการก็ยอมรับสภาพโดยดี แต่ปรากฏว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทางโครงการก็ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องของการรื้อถอนแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังมีการขยายโครงการเพิ่มเติมจนกระทั่งมีปัญหาการบุกรุกกินพื้นที่ของชายหาดเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มีของการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ข้างเคียงในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ทางเทศบาลจึงได้เข้ามาดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยออกคำสั่งตามขบวนการเพื่อให้ระงับ หยุดการใช้ และรื้อถอนอาคารตามลำดับ ขณะที่เจ้าของโครงการก็ทำเรื่องขออุทธรณ์ไปยังจังหวัดชลบุรี และการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งต่อ มาทางคณะกรรมการก็ยกอุทธรณ์ขณะที่ศาลปกครองเองก็ไม่ได้คุ้มครองแต่อย่างใด ทางท้องถิ่นจึงได้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการประกาศหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการรื้อถอนอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะใช้งบประมาณในการดำเนินการกว่า 4.8 แสนบาท ซึ่งหลังรื้อถอนเสร็จซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก็จะได้ทำการเรียกเก็บค่ารื้อถอนจากเจ้าของโครงการต่อไป
นายฤกษ์ชัย วิจิตรเศรษฐกุล เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพัทยา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ตลอดแนวชายหาดของหมู่ที่ 1 ตำบลนาจอมเทียนนั้น มีลักษณะเป็นแนวทอดยาวกว่า 2 กม.โดยพื้นที่ฝั่งบนจะอยู่ในการดูแลของเทศบาลนาจอมเทียน ซึ่งปัจจุบันได้มีการเข้ารื้อถอนในส่วนของผู้บุกรุกไปแล้ว ขณะที่พื้นที่ฝั่งชายหาดนั้นปัจจุบันพบว่ามีผู้ประกอบการร้านอาหารบุกรุกอยู่จำนวน 15 ราย ซึ่งถือว่าเป็นความผิดกรณีปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ซึ่งอาคารเหล่านี้ที่ผ่านมาทางสำนักงานเจ้าท่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนไปแล้ว โดยส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลจังหวัดพัทยา เพื่อร้องขอให้มีคำสั่งให้เจ้าของอาคารทำการรื้อถอนซึ่งคาดว่าคงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพัก จากนั้นคงจะเข้าดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจัดการปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว
Cr. ไทยรัฐออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: