PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ว่าด้วย รัฐถังแตก

รมว.คลัง ยืนยันรัฐบาลยังไม่ “ถังแตก”

รมว.คลัง ยืนยันรัฐบาลยังไม่ถังแตก เหตุที่มีเงินคงคลังเหลือแค่ 7.49 หมื่นล้าน เพื่อให้เสียดอกเบี้ยน้อย เผยยังมีช่องทางหารายได้เพิ่มอีกมาก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวชี้แจงเรื่องสถานการณ์เงินคงคลังที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอยู่ในฐานะถังแตก ว่า สื่อและประชาชนอย่าตกใจ วันนี้ ต้องดูว่ารัฐบาลเอาเงินไปลงทุนถูกต้องและทำได้หรือไม่ กฎการลงทุนเป็นอย่างไร หนี้สาธารณะเกินหรือไม่ มีการทุจริตหรือไม่ ต้องดูปลายทางด้วย ไม่ใช่แตะอะไรไม่ได้สักอย่าง แต่ต้องการให้ประเทศพัฒนา และการพิจารณาโครงการต่างๆ ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายควบคุมหนี้สาธารณะ และกระทรวงการคลัง พร้อมสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยว ว่าที่สั่งออกไปหรือใช้ไปมีปัญหาหรือไม่ ก่อนที่จะนำเข้ามาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ซึ่งผ่านการกลั่นกรองมาแล้ว วันนี้อยากให้ไปดูการใช้เงินว่ามีโครงการอะไรบ้าง เอาโครงการมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นมาไล่ดูว่าผิดกฎระเบียบการเงินการคลังในการใช้เงินงบประมาณหรือไม่

"ปัญหาของประเทศเช่น น้ำท่วม ช่วยเหลือเกษตรกร ช่วยเหลือชาวนา ช่วยเหลือทุกอย่าง แล้วการพัฒนาการลงทุนจะเอาเงินที่ไหนลงไป หรือให้แค่นั้นพอจบ การเงินการคลังเติมล้น จะเอาอย่างไร
เลือกมา ปัญหาอยู่ที่ว่าท่านเลือกอย่างไร ถ้าจะเอาแบบนั้นก็จบหยุดไม่ต้องปฏิรูป ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า เหตุที่ระดับเงินคงคลังเหลือเพียง 7.49 หมื่นล้านบาท ไม่ถือว่าต่ำ เพราะกระทรวงการคลังไม่ต้องการกู้เงินมากองไว้ จะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตรา 2% โดยมีการประเมินว่าระดับเงินคงคลังควรอยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท การมีเงินคงคลังอยู่ที่ 3 - 5 แสนล้านบาท ถือว่ามากเกินไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นก็ยังมีวงเงินกู้ฉุกเฉินเพื่อรักษาสภาพคล่องอีก 8 หมื่นล้านบาท

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ช่วงต้นปี เงินคงคลังจะต่ำ เนื่องจากภาษียังไม่เข้ามา ยิ่งปี 2559 จะต่ำกว่าทุกปี เพราะกระทรวงการคลังเพื่อระบบวิธีบริหารจัดการเงินคงคลังใหม่ และเร่งรัดให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อนำไปใช้ในโครงการต่างๆ

"ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ถังแตก เพราะยังมีเงินอีกมาก ไม่ใช่แค่เงินคงคลัง แต่ยังสามารถกู้มาใช้ได้อีกจากการทำงบประมาณขาดดุล" นายอภิศักดิ์กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายเดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรกร ออกมาระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เงินคงคลังของประเทศไทย เมื่อเดือน ก.ย. 2557 ภายหลังจากที่ คสช. ยึดอำนาจ มีอยู่ราว 4.95 แสนล้านบาท แต่พอถึงเดือน ธ.ค.2559 กลับเหลืออยู่เพียง 7.49 หมื่นล้านบาทเท่านั้น
/////////////////
(ข้อมูลเพิ่มเติม-ข้อสังเกต)

Vinij Tansakul

"เงินคงคลัง คือเงินออมของประเทศที่เหลือจากการใช้จ่ายสะสมเอาไว้
ในยุคยิ่งลักษณ์ มีเงินออมอยู่ 5 แสนล้านบาท และก่อหนี้ของรัฐบาลในอดีตรวมกัน 4 ล้านล้านบาท
พอลุงตู่เข้ามาแค่ 2 ปี เงินออมหายวับเหลือ 7 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้รัฐเพิ่มจาก 4 ล้านเป็น 6 ล้านล้าน หรือเพิ่มมาอีก 2 ล้านล้านบาทแค่ในเวลา 2 ปี

สรุปคือ ลุงตู่ใช้เงินเกินจากงบประมาณที่จัดเก็บได้ = เงินคงคลังที่หายไป + หนี้ใหม่ ก็ราวๆ 2.4 ล้านล้านบาทหมดไปกับอะไรเราก็เห็นๆ กันอยู่ แต่ไม่เห็นมีอะไรจับต้องได้ ไม่มีรถไฟฟ้าความเร็วสูง และที่สำคัญไม่มีโครงการจำนำข้าว สถานการณ์มันอาจแย่กว่าที่คิด ใครมีหุ้นให้รีบทยอยขายเมื่อหุ้นถึงจุดสูงสุดแล้ววกกลับในแต่ละรอบ เพราะอาการแบบนี้อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นพังครืนลงมาได้ในที่สุด ตราบใดที่การหายรายได้ภาค รัฐยังไม่เพิ่มขึ้น แถมตอนนี้กู้เงินต่างประเทศ ก็ไม่มีประเทศไหนให้กู้อีกด้วย...มาลุ้นกับลุงตู่หากยังไม่ถังแตก..."

ไม่มีความคิดเห็น: