PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

ปราบธรรมกาย : มวยล้ม / โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ปราบธรรมกาย : มวยล้ม / โดย วสิษฐ เดชกุญชร
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีออกดินตรวจในบริเวณวัดพระธรรมกายจากนั้นแถลงว่าไม่พบธัมมชโย ประกาศยุติการค้น
Last updated: 14 มีนาคม 2560 | 22:49
ในฐานะที่มีส่วนในการผลักดันให้เกิดกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะที่เคยเป็นกรรมการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผมรู้สึกอับอายขายหน้าเป็นที่สุด เมื่อเห็นการตรวจค้นสำนักธรรมกายของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีและเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคมที่ผ่านไป
ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 อันเป็นวันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบก เริ่มเข้าปิดล้อมและควบคุมพื้นที่สำนักธรรมกายตามอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ
ผมติดตามข่าวการทำงานของเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด เป็นที่เห็นได้ชัดว่าพระสำนักธรรมกายเป็นฝ่ายที่คุมสถานการณ์มาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และฝ่ายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามทุกเงื่อนไขที่พระกำหนด ไม่ว่าจะเป็นการปฏิเสธไม่ยอมให้เข้าไปตรวจค้นในวัด หรือการไม่ยอมออกจากพื้นที่ตลาดเอกชนคลองหลวง นอกจากนั้นพระยังมีโอกาสโดยเสรีในการแถลงข่าวโดยเจ้าหน้าที่ไม่พยายามที่จะขัดขวางหรือห้ามปราม
ขอบอกตรงๆ ว่า ผมรู้สึกอึดอัดและไม่แน่ใจเมื่อเห็นว่าทั้งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตำรวจ และทหาร เข้าไปเผชิญหน้ากับพระและสาวกของสำนักธรรมกายโดยมีแต่มือเปล่า ปราศจากอุปกรณ์หรือเครื่องมือเช่นโล่หรือตะบอง ที่จำเป็นต้องใช้ในกรณีที่อาจเกิดการปะทะกัน
และเมื่อเห็นภาพเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจถูกพระและสาวกผลักตกสะพานจนได้รับบาดเจ็บขณะที่พยายามเข้าไปตรวจค้นสำนักธรรมกาย และเห็นภาพรถยนต์ของทหารถูกยิงด้วยของแข็งที่เชื่อว่าเป็นลูกแก้วจนรถเสียหาย ผมก็ยิ่งข้องใจมากขึ้นว่า เหตุใดผู้บังคับบัญชาจึงไม่ยอมให้ทหารและตำรวจใช้เครื่องป้องกันตัวชนิดใดชนิดหนึ่งเสียที
ครั้นพอเห็นภาพการ ตรวจค้น สำนักธรรมกายของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม ผมก็สงสัยทันทีว่า คนไทยทั้งโลกที่กำลังติดตามข่าวการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่เช่นเดียวกับผมจะถูกต้มเสียแล้ว
การตรวจค้นในวันนั้น ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่าเป็นการรับเชิญจากพระให้เข้าไปชมห้องต่างๆในสำนักมากกว่า เพราะพระเป็นผู้นำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษและเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวเข้าไปในห้องต่างๆ เอง แทนที่เจ้าหน้าที่จะแยกออกเป็นชุด และตรวจพร้อมกันทุกจุด โดยมีพระเป็นเพียงผู้ดู นอกจากนั้นยังไม่ปรากฏด้วยว่ามีชุดพิสูจน์หลักฐานพร้อมด้วยเครื่องอุปกรณ์ตรวจที่เกิดเหตุตามอธิบดีเข้าไปในการตรวจค้นด้วย
เดินตามกันไปเหมือนขบวนแห่กองกฐินหรือแห่นางแมว
และเมื่อในตอนเย็นวันนั้น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้สัมภาษณ์อย่างรวบรัดว่า ไม่พบตัวนายไชยบูลย์ สุทธิผล ผู้ต้องหาคนสำคัญ และว่าจะเสนอให้ยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ โดยไม่ยอมให้โอกาสสื่อซักถาม ผมก็แน่ใจว่าการปิดล้อมและพยายามตรวจค้นสำนักธรรมกายเป็นมวยล้มมาตั้งแต่ต้น
ในฐานะที่เป็นผู้เสียภาษีอากรคนหนึ่ง ผมถือว่าผมมีสิทธิโดยสมบูรณ์ ที่จะถามอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และถามนายกรัฐมนตรีว่า เหตุใดการดำเนินมาตรการกับสำนักธรรมกายจึงจบลงเช่นนี้

และต่อไปนี้ท่านจะทำอะไรและอย่างไรกับสำนักธรรมกาย หรือจะให้สำนักนี้เป็นเขตปกครองพิเศษอิสระไม่อยู่ใต้บังคับของกฎหมาย

เจ้าหน้าที่มีมือเปล่าเข้าปควบคุมฝูงชนจนเกิดการผลักดันกับกำลังของสงฆ์ (ภาพโดยกลุ่มพลเมืองจิตอาสา)

ไม่มีความคิดเห็น: