PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โฟกัสจุดอันตรายก่อน

โฟกัสจุดอันตรายก่อน

ปัญหาใหญ่ระดับเอเชีย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย

ข่าวต่างประเทศรายงาน ผลการสำรวจความมั่นใจของภาคธุรกิจญี่ปุ่นที่มีต่อเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นแสดงให้เห็นว่า การขาดแคลนแรงงานอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี 

ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

ญี่ปุ่นถึงขั้นเตรียมแผนใช้หุ่นยนต์แทนแรงงานมนุษย์

ในจังหวะที่รัฐบาลทหารของไทยต้องใช้มาตรา 44 เพื่อยืดการบังคับใช้ พ.ร.ก. ต่างด้าวบางมาตราออกไปอีก 180 วัน ตามเสียงเรียกร้องของภาคธุรกิจที่เกิดปัญหา ขาดแคลนแรงงาน

สะท้อนอาการลักลั่นในการแก้ปัญหา ชักเข้าชักออก

ที่แน่ๆตามรูปการณ์ที่ล้อกับภาวะการขาดแคลนแรงงานของประเทศญี่ปุ่น มันก็เป็นตัวอย่างตรงหน้า ถ้าประเทศไทยไม่รีบยกเครื่องแรงงานต่างด้าวให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้

เศรษฐกิจไทยมีปัญหาใหญ่จากภาวะขาดแคลนแรงงานแน่

แต่ในขณะที่ปมแรงงานต่างด้าวยังคาราคาซัง มันก็ยังมีสถานการณ์เร่งด่วนที่รัฐบาล คสช.ต้องรีบบริหารจัดการประคองภาวะเศรษฐกิจเฉพาะหน้า

อัดฉีดเงินลงฐานราก เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนไม่ให้สะดุด

ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการดำเนินโครงการพัฒนาด้านการเกษตร “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อฯ” วงเงินงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท เพื่อจ้างงาน เกษตรกร ผ่านชุมชนเกษตรกร 9101 ชุมชน ชุมชนละ 2.5 ล้านบาท

คิวเดียวกันที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบกลางประจำปี 2560 จำนวน 1,705 ล้านบาท เพื่อให้กรมบัญชีกลางนำไปจัดทำบัตรสวัสดิการ 2 โครงการ คือ โครงการบัตรสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ เพื่อแก้ปัญหาการเบิกจ่ายซ้ำซ้อน งบประมาณบานทะโรค

และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้มีสิทธิตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 ครอบคลุมกลุ่มผู้มีรายได้น้อยกว่า 14 ล้านคน

เร่งให้ผู้มีรายได้น้อยมีบัตรใช้ได้ทันวันที่ 1 ตุลาคม 2560 นี้

โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำไปใช้แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ทั้งการเดินทางโดยรถเมล์ ขสมก. รถ บขส. ซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า หรือใช้จ่ายเป็นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปาได้ด้วย

เงินกำลังจะหมุนไป รัฐบาลส่งตรงให้แบบเร่งด่วน

ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ เดินหน้าบริหารเศรษฐกิจ พร้อมๆไปกับการ “มัดจำ” แต้มทางการเมือง

ตามท้องเรื่อง “ปลดล็อก” จุดอันตราย

โฟกัส 3 จุดใหญ่ๆที่ทีมยุทธศาสตร์ของรัฐบาล คสช.ต้องสกัดไฟลาม

จุดแรกคือการบรรเทาความเดือดร้อนปากท้องชาวบ้าน การประคองสภาวะพืชผลเกษตรราคาตกต่ำ ทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

ต้องจ่ายเงินสดให้เลย ขืนชักช้าไม่ทันสถานการณ์ ชาวบ้านไม่ทันกิน

จุดที่สองคือเรื่องของสิทธิการรักษาพยาบาล ที่ชาวบ้านกลัวจะเสียสิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค แบบที่เห็นอาการต่อต้าน พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ

จนรัฐบาลต้องออกมายืนยันจะไม่มีการยกเลิกบัตรทองแต่อย่างใด

และปมสุดท้าย เรื่องของตัวบุคคล โดยสถานการณ์ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฝ่ายคุมเกมอำนาจยังกังวลกับพลังแฝงในตัวของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

อย่างที่เห็น “น้ำตานารีพิฆาต” อดีตผู้นำหญิงร้องไห้ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 50 ปี

เล่นเอากระแสดราม่ากระหึ่มเมือง

ตามรูปการณ์อย่างที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เปิดทางให้มวลชนผู้สนับสนุนเข้าให้กำลังใจ “น้องปู” ในการเดินทางขึ้นศาลสืบพยานฝ่ายจำเลยในโครงการปล่อยปละ ละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวนัดสุดท้ายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้

เชื่อว่าคนที่มาคงเข้าใจดีว่าควรปฏิบัติอย่างไรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

ต้องเจาะรูระบาย แก้โจทย์ประคองสถานการณ์ไป ไม่หักดิบ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: