PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560

ไม่สูญพันธุ์

ไม่สูญพันธุ์

เพราะข่าวทุจริตเริ่มบานเป็นดอกเห็ด ทำให้นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องสั่งให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข่าวทุจริต “โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ” เป็นการด่วน
นายกฯพล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า รัฐบาล คสช.จะไม่ยอมปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการนี้อย่างเด็ดขาด
ถ้าตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยว ข้อง จะต้องถูกลงโทษหนัก!!

หากพี่น้องประชาชนได้พบเงื่อนงำการทุจริต โปรดแจ้งข้อมูลผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ หรือสายด่วน 1299 หรือแจ้งผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทุจริตในพื้นที่กองทัพภาคได้ทุกแห่ง

“แม่ลูกจันทร์” เห็นด้วยที่ท่านนายกฯสั่งตรวจสอบทุจริตในโครงการนี้เป็นกรณีพิเศษ

เพราะโครงการนี้เริ่มมีข่าวไม่ชอบ มาพากลโผล่ขึ้นเรื่อยๆ และปูดกว้างออกไปหลายจังหวัด
ถ้าไม่รีบตัดไฟแต่ต้นลมอาจบานไม่หุบไปกันใหญ่

แต่ก่อนจะเจาะลงในรายละเอียด ต้องกล่าวถึงที่ไปที่มาของโครงการนี้ให้เห็นภาพชัดเจนเสียก่อน
“โครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อพัฒนา การเกษตรอย่างยั่งยืน” เป็นโครงการใหม่ของรัฐบาล คสช. เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องเกษตรกรร่วมกันทดลองปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืนตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง

โครงการนี้ รัฐบาลทุ่มงบลงไปกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท

อัดฉีด (แจกฟรี) ให้กลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ 9,101 กลุ่ม ได้รับเงินไปลงทุนทดลองชุมชนละ 2.5 ล้านบาท

ครึ่งหนึ่งจ่ายเป็นค่าแรงงานเกษตรกรที่ร่วมโครงการ กลุ่มละ 1.25 ล้านบาท

อีกครึ่งหนึ่งจ่ายเป็นค่าจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมอีกกลุ่มละ 1.25 ล้านบาท

โดยกำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและมีความประพฤติดีกลุ่มละ 500 คน ให้ร่วม กันประชุมหารือจะฝึกอบรมพัฒนา การเกษตรด้านใด เช่น การผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง หรืออบรมการปรับปรุงคุณภาพดิน หรือทดลองทำฟาร์มเกษตรชุมชน ฯลฯ

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ปัญหาคือ กลุ่มเกษตรกรยังไม่ทันได้ประชุมปรึกษาหารือกันเอง

กลับมีข้าราชการรวบหัวรวบหางเอาพ่อค้ารับเหมาจัดโครงการ และจัดหาอุปกรณ์ต่างๆครบวงจร
โดยเกษตรกรไม่มีส่วนร่วมอะไรเลย

แถมตั้งราคาขายแพงกว่าราคาตลาดบานตะไท

เช่น เครื่องพ่นยาตั้งราคาเครื่องละ 13,000 บาท แต่ราคาตลาดซื้อได้แค่ 3,000 บาทเท่านั้นเอง

แม้แต่ “ขี้ไก่” ที่ใช้ผลิตปุ๋ยหมัก ยังขายราคากิโล 4 บาทขาดตัว

บางพื้นที่มีเกษตรกรร่วมโครงการไม่ถึง 500 คน แต่กลับเบิกจ่ายค่าแรงเกษตรกรเต็มโควตา 500 คน??
ทำให้กลุ่มเกษตรกรบางแห่งไปร้องผ่านศูนย์ดำรงธรรม จนเรื่องไปเข้าหูท่านนายกรัฐมนตรี

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า โครงการต่างๆถึงแม้กำหนดหลักการและหลักเกณฑ์ไว้ดีอย่างไร แต่ถ้าขั้นตอนการปฏิบัติไม่รัดกุม

ย่อมเปิดช่องให้ทุจริตติดปลายนวม

ยุคก่อนด่านักการเมืองโกงกินวินาศสันตะโร

ยุคนี้ไม่มีนักการเมือง แต่ข่าวทุจริตก็ยังสะบึมส์

แล้วทีนี้จะด่าใครล่ะโยม??

ไม่มีความคิดเห็น: