PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2560

ทำไมรีบมัดคอตัวเอง

ทำไมรีบมัดคอตัวเอง

ถึงตรงนี้ก็ชัดเจน ไม่ต้องเซ้าซี้ถามกันอีกต่อไป

เมื่อ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.พูดชัดๆอีกรอบในการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุม ครม.

เดือนมิถุนายนปี 2561 ประกาศ เดือนพฤศจิกายน 2561 เลือกตั้ง

เป็นช็อตต่อเนื่องจากที่ “นายกฯลุงตู่” ไปแสดงความมั่นใจต่อหน้าประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐอเมริกา ยืนยันประเทศไทยจะมีการประกาศเลือกตั้งในปี 2561

ล็อกเวลาปฏิทิน ลงเดือนลงปีกันเลย

นั่นก็ไม่แปลกที่ตามฟอร์มของนักลงทุนจะเด้งรับ หุ้นดีดทันทีทะลุ 1,700 จุด รับข่าวเลือกตั้ง

แต่สำคัญสุด คือจุดที่น่าจะส่งผลต่อบรรยากาศความสงบเรียบร้อยในห้วงพระราชพิธีสำคัญของประชาชนคนไทย ตามนัยแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ดักคอตีกันล่วงหน้า ในเมื่อทุกอย่างชัดเจนแล้ว ขอให้นักการเมืองสงบ อันจะมีผลต่อการพิจารณาปลดล็อกการเมืองต่อไป

นี่น่าจะตอบคำถามได้ระดับหนึ่งว่าทำไม “บิ๊กตู่” ถึงประกาศกำหนดเลือกตั้ง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ว่ากันตามเหตุปัจจัยมันก็ยังคงมีเครื่องหมายคำถามอยู่ดี กับการที่ผู้นำรัฐบาล คสช.ประกาศในสิ่งที่ถือเป็นพันธกรณีที่สำคัญ

จุดพลิกผันยุทธศาสตร์ทางอำนาจ

เพราะฉากหลังว่ากันว่า แม้แต่คนในรัฐบาลด้วยกันก็ยังออกอาการงงๆกับการที่กัปตันทีม คสช.รีบออกมาประกาศกำหนดเลือกตั้งล่วงหน้า

ชิงมัดคอตัวเองตั้งแต่หัววัน

ทั้งๆที่โดยเงื่อนไขสถานการณ์แวดล้อมก็ไม่ได้บีบคั้น ภายหลัง “นายกฯลุงตู่” ประสบความสำเร็จในการไปเยือน “เพื่อนแท้” อย่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประทับสถานะการยอมรับในเวทีนานาชาติ ลดโทนแรงเสียดทานจากนอกประเทศ

ส่งผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังโงหัว ทั้งภาพรวมการส่งออกและจีดีพีที่เติบโตตามเป้า ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าก็ทำได้ตรงจุดจากการอัดฉีดมาตรการช่วยเหลือคนจนผู้มีรายได้น้อย ประชาชนเข้าแถวรอรูดบัตรคนจนซื้อของในโครงการธงฟ้าประชารัฐ

ทุกอย่างกำลังเข้าเหลี่ยม “ลุงตู่” ดึงจังหวะปั่นเนื้องาน สะสมแต้มไปได้อีกระยะ

โดยเฉพาะถ้ามองในมุมของการวางหมากข้ามช็อต เผื่อสถานการณ์รองรับเกมอำนาจที่หัวหน้า คสช.จะต้องเป็นผู้นำคุมเกมเปลี่ยนผ่านอีกอย่างน้อย 5 ปี

แล้วทำไมถึงต้องรีบทำ “หมูหก” เสี่ยงเสียของ

แต่ที่น่าเอะใจกว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คือเหลี่ยมของ “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ส่งสัญญาณนำร่องทันทีหลังกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลบังคับ ชี้รัฐบาล คสช.น่าจะปรับโหมดล็อกการเมืองภายในเวลาอันใกล้

ตามเหลี่ยมรับไม้ส่งมุกกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ถึงขั้นพกประกาศ คสช.ว่าด้วยคำสั่งล็อกพรรคการเมืองไว้อธิบายนักข่าวเกี่ยวกับความจำเป็นในการปลดล็อกนักเลือกตั้ง

จังหวะเหมือนรีบเข็นกฎหมายพรรคการเมืองออกมาบีบคอ “นายกฯลุงตู่”

แน่นอน ดูกันตามเนื้อผ้า เสมือนว่าเป้าหมายของซือแป๋ “มีชัย” อยู่ที่เชิงกฎหมาย เน้นการสร้างประวัติศาสตร์ในการเขียนกติกาประเทศไทยสำเร็จ

แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ทางการเมืองของ คสช.

เพราะรูปเกมที่ออกมาทัน เท่ากับเขี่ยบอลเข้าทางพรรคเพื่อไทย เลือกตั้งมุกถนัดของยี่ห้อ “ทักษิณ”

อีกมุมก็ชงลูกเข้าเหลี่ยมนักการเมืองอาชีพที่จ้องตัด “บิ๊กตู่” ออกจากเกมหลังเลือกตั้งรอบหน้า

เอาเป็นว่า จากที่ประเมินว่า “ชัวร์” โอกาสสูงที่ “ลุงตู่” จะเบิ้ลเก้าอี้คุมเกมช่วงเปลี่ยนผ่าน

ตอนนี้ชักไม่แน่ใจ เพราะตามเงื่อนไขไม่ว่าจะสถานะนายกฯ “คนนอก” หรือ “คนใน” พล.อ.ประยุทธ์จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองเป็นฐานกำลังหลักส่วนตัวเพื่อความปลอดภัยในเกมสภา

และเมื่อประกาศเลือกตั้งปีหน้า เวลากระชั้นกับการตัดสินใจตั้งพรรคการเมืองหรือลงเลือกตั้งเอง

ถ้า “ลุงตู่” ตัดสินใจไม่ทัน เกมมันก็ยิ่งยากขึ้น.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: