PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2560

แนวโน้ม การเมือง โพสต์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การศึก มิหน่ายเล่ห์

แนวโน้ม การเมือง โพสต์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การศึก มิหน่ายเล่ห์


ทั้งๆ ที่มีความเชื่อเป็นอย่างสูงตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม กระทั่งวันที่ 27 กันยายน ว่ากรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น่าจะจบ

จบเพราะการหนี

จบเพราะคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่ามีความผิด ต้องจำคุกเป็นเวลา 5 ปี

แต่ถามว่า กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จบหรือไม่

การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำ “หมายค้น” จากศาลรุดไปยังบ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนยันว่าไม่จบ

ยิ่งข่าวระลอกแล้วระลอกเล่าจาก “อังกฤษ” ยิ่งมากด้วย “ประเด็น”

ไม่ว่าข่าวนั้นจะมาจากรายงานของกระทรวงการต่างประเทศส่งตรงไปยังนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าข่าวนั้นจะมาจากสำนักข่าวต่างประเทศ

เพราะที่เด่นชัดคือ การขอสถานะเป็น “ผู้ลี้ภัย”

แม้คำแถลงท่าทีล่าสุดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านปากของโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ยืนยันว่า

มิได้ให้ “ความสำคัญ” มิได้ “สนใจ”

แต่เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดในทางเป็นจริง ว่าเรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มีความสำคัญ กระทั่งละเลย ไม่สนใจก็ได้

อย่างน้อย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เคยเป็น “นายกรัฐมนตรี”

อย่างน้อย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เป็นคนที่ได้รับผลสะเทือนโดยตรงก่อนและหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ไม่ว่าจะในด้าน “ถูกถอดถอน” ไม่ว่าจะในด้าน “คดีความ”

เหตุผลและการยื่นขอสถานะ “ผู้ลี้ภัย” ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อกระทรวงมหาดไทยอังกฤษ ย่อมสัมพันธ์กับ “รัฐประหาร” และ “คดีความ” โดยตรง

ที่สุดแล้วก็คือ สัมพันธ์กับ คสช. สัมพันธ์กับรัฐบาล

ที่เคยคิดและประเมินว่า พอพ้นจากวันที่ 25 สิงหาคม และโดยเฉพาะพ้นจากวันที่ 27 กันยายนไปแล้ว เรื่องอันเกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ก็จะหมด “ความหมาย”

ไม่เพียงแต่ความหมายจากตัวตนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เอง แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยและ นปช. คนเสื้อแดง ก็แทบจะขยับขับเคลื่อนอะไรไม่ได้

เพราะว่าตกอยู่ในสภาพ “มังกรไร้หัว”

จึงเมื่อมี “หมายจับ” จากศาลเนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ไปปรากฏตัวเพื่อฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม หลายคนจึงชโยโห่ร้องด้วยความคึกคัก

ยิ่ง “คำพิพากษา” เมื่อวันที่ 27 กันยายน ยิ่งเท่ากับตอกฝาโลง

แต่สภาพความเป็นจริงทางด้าน “การข่าว” นับแต่หลังวันที่ 25 สิงหาคม หรือแม้กระทั่งหลังวันที่ 27 กันยายน กลับมิได้เป็นไปตามความคาดหมาย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังคงมีบทบาท

ทั้งยังเป็นบทบาทที่ยืนเรียงเคียงอยู่กับบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย

หากย้อนกลับไปศึกษากระบวนการวางแผนและดำเนินการ “ล่องหน” นับแต่กลางดึกของคืนวันที่ 23 สิงหาคมเป็นต้นมาตราบปัจจุบัน

จากไทยไปถึงนครดูไบ และกรุงลอนดอน

ทั้งหมดไม่เพียงแต่สะท้อนความแหลมคมอย่างยิ่งของปัญหาและความขัดแย้งในทางการเมือง หากแต่ยังยืนยันถึงศักยภาพที่ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมของอีกฝ่าย

ทุกอย่างเป็นไปในแบบ “การศึกมิหน่ายเล่ห์” อย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น: