ยิ่งยื้อ ปลดล็อก พันธมิตร “แนวร่วม” ยิ่ง “เผยแสดง”
ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
ทุกอย่างจะ “จบ”
นักการเมืองก็จะ “เงียบ” เพราะ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ก็ดี เพราะ นายวัฒนา เมืองสุข ก็ดี ต่างยืนยันตรงกันว่า
จะไม่เรียกร้อง จะไม่วิงวอน
และคำยืนยันอันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อประสานเข้ากับจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ถือได้ว่าเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด
เพราะคน 1 เป็นหัวหน้า คสช. เพราะคน 1 เป็นรองหัวหน้า คสช.
ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ตอบตรงกันมิใช่หรือว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับ “คสช.”
แล้วจะมีใครใน คสช.ที่จะใหญ่ยิ่งกว่า 2 ท่านนี้
กระนั้น หากติดตามเหตุผลที่ว่าจะไม่เรียกร้อง จะไม่วิงวอนอีกแล้ว ซึ่งดังมาจากทั้ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และ นายวัฒนา เมืองสุข ก็มิใช่ว่าจะงอก่อ งอขิง
อย่าลืมว่า 2 คนนี้เป็น “นักกฎหมาย”
มีความเข้าใจในกฎหมายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า นายวิษณุ เครืองาม ตลอดจน นายพรเพชร วิชิตชลชัย
คนแรกจบจาก “ท่าพระจันทร์” คนหลังจบจาก “สามย่าน”
ที่พวกเขาจะไม่วิงวอน จะไม่ร้องขอ เพราะตระหนักในบทบาทและ
ความหมายของหลักกฎหมายอย่างน้อยก็ 2 ฉบับ
1 เป็นรัฐธรรมนูญ 1 เป็นกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง
เว้นแต่จะเห็นว่าคำสั่ง คสช.ใหญ่กว่าเท่านั้น
หากมองกระบวนการทางการเมืองหลังรัฐธรรมนูญประกาศและบังคับใช้เมื่อเดือนเมษายน 2560 เป็นต้นมาเหมือนกับการทำศึก สงคราม
ก็จะมีความเข้าใจอย่างเห็นเป็นรูปธรรม
สภาพที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาตัดบทในเรื่อง “ปลดล็อก” พรรคการเมือง
เหมือนกับจะเป็นปฏิบัติการ “รุก” ต่อ “นักการเมือง”
หากประเมินไปในน้ำเสียงจากกองเชียร์ภายใน “แม่น้ำ 5 สาย” ก็เหมือนกับ คสช.ตัดโอกาสมิให้พรรคเพื่อไทยได้เคลื่อนไหว
แต่ในความเป็นจริงเป็นเช่นนั้นหรือ
ตรงกันข้าม พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการให้ “ปลดล็อก” พรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องการให้ “ปลดล็อก” แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยก็ต้องการให้ “ปลดล็อก”
มิได้มีแต่เพียง “เพื่อไทย”
และเหตุผลของพวกเขาก็มิได้เพื่อตัวเอง หากแต่ยืนอยู่กับหลักการแห่ง “รัฐธรรมนูญ” ยืนอยู่กับหลักการแห่งกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง
ลักษณะการแสดงออกของ คสช. และของรัฐบาลจึงมิได้เป็น “การรุก” ตรงกันข้าม เป็นการซื้อเวลาด้วยการยื้อเพื่อต่อรองในเชิง “อำนาจ”
ลักษณะ “ยื้อ” ย่อมมิใช่ “การรุก”
ทั้งนักการเมืองที่ออกมากล่าวในเชิงเป้าหมายก็มิได้ดำเนินการอย่างโดดเดี่ยว ตรงกันข้ามเป้าหมายของการ “ปลดล็อก” ก่อให้เกิด “แนวร่วม” ขึ้นโดยพื้นฐาน
เป็นแนวร่วมในเส้นทาง “ประชาธิปไตย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น