
ระบบอุปถัมภ์นี่แหละเป็นต้นตอให้เกิดทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง
รัฐบาล คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงแก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์ด้วยการออก “กฎหมาย 4 ชั่วโคตร” เป็นยาแรงในการปราบปรามการเอื้อประโยชน์เล่นพรรคเล่นพวกให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย
โดยมุ่งเอาผิดข้าราชการทุกระดับ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกคน ที่ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้ตนเอง หรือคนใกล้ชิด หรือคนในครอบครัว อันได้แก่ คู่สมรส บุตรธิดา และบิดามารดาของตัวเอง
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่า มาตรา 5 ของ ก.ม. 4 ชั่วโคตร หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “พ.ร.บ.การขัดกันของผลประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม” กำหนดห้ามไม่ให้นำความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเป็นเงื่อนไขในการใช้อำนาจหน้าที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง
รวมถึงห้ามใช้เวลา ใช้เงินเดือน ใช้ทรัพย์สินทางราชการ เพื่อเอื้อประโยชน์ตนเอง หรือบุคคลอื่นใด ไม่ว่าทางอ้อมหรือทางตรง
เรียกว่าคุมเข้มไม่ให้ใช้อำนาจนอกลู่นอกทาง
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าแม้จะประกาศใช้ ก.ม.ความผิดเอื้อประโยชน์ชั่วโคตรแล้ว ก็ยังกำจัดระบบอุปถัมภ์ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์
ล่าสุด ที่ประชุม ครม.จึงมีมติเห็นชอบ “ร่างมาตรฐานจริยธรรม” เพื่อใช้บังคับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประธานและกรรมการองค์กรอิสระ ป.ป.ช. กกต. คตง. กสม. และผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ
ไม่ให้ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์คนใกล้ชิดและญาติโกโหติกา
“แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตนำร่างมาตรฐานจริยธรรมบางข้อมาฉายเป็นแซมเปิลดังนี้คือ...
1, ต้องถือประโยชน์ประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน
2, ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ปราศจากอคติส่วนตัว
3, ต้องรักษาความลับทางราชการอย่างเคร่งครัด
4, ต้องไม่ยินยอมให้สมาชิกครอบครัวรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่อาจกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตนเอง ฯลฯ
นี่คือบางส่วนของ “มาตรฐานจริยธรรมขั้นสูง” เพื่อให้สังคมเชื่อถือศรัทธาว่าศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระทุกแห่งจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม
ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ปกป้องพรรค พวกตัวเอง
และไม่จ้องเล่นงานฝ่ายตรงข้ามตะพึดตะพือ
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าแม้จะมี “ก.ม. 4 ชั่วโคตร” และ “มาตรฐานจริยธรรม” เพื่อป้องกันข้าราชการทุกระดับ องค์กรอิสระ และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ให้ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและคนในครอบครัวทั้งทางอ้อมและทางตรงก็ตาม
แต่การจะชี้ว่าตรงไหนเอื้อ? ตรงไหนไม่เอื้อ? ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆไป
เช่น...กรณี อจ.มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. และสมาชิก คสช. แต่งตั้งบุตรสาวเป็นเลขาธิการตัวเองในโควตา คสช. จนเกิดกระแสวิจารณ์กันอึกทึกครึกโครม
อจ.มีชัย ซึ่งเป็นเซียนกฎหมายมือวางอันดับหนึ่งของไทยแลนด์ ชี้แจงว่า การแต่งตั้งบุตรสาวเป็นเลขาฯ ในโควตา คสช. เป็นความจำเป็นส่วนตัว
เพราะตำแหน่งนี้ต้องใช้คนที่ไว้วางใจให้รักษาความลับทางราชการ
จึงไม่เข้าข่ายใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์คนในครอบครัว
ข้อสำคัญกฎหมายไม่ได้ห้ามแต่งตั้งลูกสาวเป็นเลขาฯบิดา
ในเมื่อ “มีชัยโมเดล” ทำเป็นตัวอย่างให้เห็นเต็มตา
ทีนี้ใครจะแต่งตั้งภรรยาเป็นเลขาฯ แต่งตั้งแม่ยายเป็นที่ปรึกษา ก็เชิญตามสบายนะคุณโยม.
“แม่ลูกจันทร์”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น