PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

‘ปั่นป่วน’เร้าแมตช์ใหญ่

‘ปั่นป่วน’เร้าแมตช์ใหญ่

ฟ้าผ่าเปรี้ยง ร้อนทะลุปรอท แซงทุกรายการ

จากคิวคำสั่งหัวหน้า คสช. ม.44 ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ หัวหน้า คสช. ลงนามย้ายนายวรานนท์ ปีติวรรณ พ้นตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน ไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน

และให้นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ จากรองปลัดกระทรวงแรงงาน ไปเป็นอธิบดีกรมการ จัดหางานแทน

อันจะเป็นประโยชน์ในการบริหารราชการกระทรวงแรงงานให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมยิ่งขึ้น

เด้งอธิบดีกรมการจัดหางาน เพื่อให้ “งานเดินคล่อง”

นั่นก็น่าจะเป็นเหตุผลที่หยิบยกมาอ้างได้ ในฐานะผู้นำในการบริหารประเทศ และนายวรานนท์ ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ถูกคำสั่งฟ้าผ่าก็ต้องยอมรับทั้งน้ำตาซึม

เพียงแต่ที่วุ่นตามมา คล้อยหลังคำสั่ง ม.44 มีข่าวลือสะพัดและเป็นความจริงในที่สุด

กับคิวที่ “บิ๊กบี้” พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน รวมทั้งทีมงาน ผู้ช่วยรมต. ที่ปรึกษา เลขาฯ

แท็กทีมยื่นใบลาออกยกลอต จนป่วนทั้งกระทรวง ถามหาเหตุกันให้วุ่นแน่นอน สำหรับสาเหตุคิวเด้งนายวรานนท์ ล้อเหตุผลคำสั่ง ม.44 น่าจะเป็นเรื่องการทำงานจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ที่ถูกมองว่ายังล่าช้า กับเส้นตายการบังคับใช้กฎหมาย การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ที่ชะลอไป 180 วัน ครบวันที่ 31 ธ.ค.2560

กฎหมายสำคัญที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บทลงโทษนายจ้างหนัก ปรับ 8 แสนบาทต่อแรงงานผิดกฎหมาย 1 คน

ประเด็นร้อนที่ทำให้รัฐบาลต้องเผชิญแรงต้าน ถูกถล่มจนต้องเลื่อนบังคับใช้

แน่นอน “วรานนท์” เริ่ม “ไม่เข้าตา” ผู้นำตั้งแต่นั้น

ไม่เท่านั้น ในห้วงต้องเร่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวก่อนกฎหมายบังคับใช้ ทั้งการตั้งศูนย์รับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว การประสานประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ กัมพูชาที่มีปัญหาและชักบานปลาย

แล้วในที่สุดก็แจ็กพอตแตกที่ “วรานนท์” ในที่สุด

ยังไม่รวม ข้อมูลอีกด้านคือปมการจัดซื้อ “เครื่องสแกนม่านตา” เพื่อมาใช้ในการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว โครงการ ลักษณะเดียวกับ “เครื่องตรวจวัดความเร็ว” ที่กำลังร้อนฉ่า

โปรเจกต์พันล้าน โยงปมไม่สนองนโยบายอย่างไร ยังไม่ชัดนัก

แต่ทั้งหมดทั้งปวง ทุกคิวของอดีตอธิบดีกรมการจัดหางาน กลายเป็นแรงกระแทกไปถึง “บิ๊กบี้-พล.อ.ศิริชัย” ในฐานะเจ้ากระทรวง ที่เคยมีข่าวซุบซิบการทำงานไม่เข้าเป้าจนผู้นำกระเซ้าแรงๆ รมต.รุ่นน้อง

“ไม่บี้งานให้เหมือนชื่อ”

และก่อนหน้านั้น ถ้าจำกันได้ ทั้งคิวแต่งตั้งปลัดกระทรวงที่ “บิ๊กบี้” เสนอรายชื่อไป 2 รอบ รวมทั้งเคยมีชื่อ “วรานนท์” ถูกชงขึ้นแท่น “บิ๊กตู่” ตีกลับทุกครั้ง กระทั่งชื่อจรินทร์ จักกะพาก เป็น “เสือข้ามห้วย” จากกระทรวงมหาดไทยมานั่งเก้าอี้บิ๊กกระทรวงแรงงาน

ก็น่าจะทำให้ “บิ๊กบี้” ขยับไม่สะดวก อึดอัดไปใหญ่

ถึงจะติดยี่ห้อ “น้องเลิฟของพี่ใหญ่” อยู่ในเครือข่าย “มูลนิธิป่ารอยต่อฯ” เส้นปึ้กก็ตาม

และแน่นอน ประจวบเหมาะกับสถานการณ์ที่มีการจับจ้องคิวปรับ ครม.ก่อนเข้าโค้งสุดท้ายเลือกตั้งใหญ่ตามโรดแม็ปที่ผู้นำประกาศปลายปี 2561 พอดิบพอดี

ปรากฏการณ์ “บิ๊กบี้” ไขก๊อก เลยเป็นจุดเร้าเกมยกเครื่อง

ในห้วงเปลี่ยนผ่าน พลังแฝง-พลังจริงแต่ละขั้วอำนาจยังไม่นิ่ง ในภาวะที่รัฐบาลท็อปบูต-“ครม.เพื่อนพ้องน้องพี่” ถูกโฟกัสหนัก มีแรงขย่มเขย่าทั้งภายนอก-ภายใน

“บิ๊กตู่” มีงานหนัก ปรับ ครม.ชุด “โชว์ส่งท้าย” ก่อน “ไปต่อ”

ส่วนจะปรับใหญ่แค่ไหน รอลุ้นอีกไม่นาน.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: