PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

ปรับ ครม.ต้องทำเร็ว

ปรับ ครม.ต้องทำเร็ว

ถ้าสิ้นปีนี้มีการจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทย ต้องมีชื่อของนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ “ตูน บอดี้สแลม” นักร้องคนดังติดอยู่ในลำดับต้นๆแน่นอน

เพราะถึงตอนนี้ “ตูน บอดี้สแลม” ได้กลายเป็นจุดโฟกัสของเมืองไทย

ในอารมณ์ของคนรุ่นใหม่ที่ได้ก้าวข้ามเงื่อนไขความขัดแย้งทั้งหมดทั้งปวงในบ้านเมืองไปแล้ว จากแนวโน้มก่อนหน้าที่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวจากฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย

ลากเอามาเป็นปมขัดแย้ง แฝงความแตกแยกทางการเมืองจนได้

แต่ก็อย่างที่เห็น ภาพของนักร้องดังที่ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับใคร มุ่งหน้าทำในสิ่งที่ตั้งใจ และเขาก็ทำให้เห็นจากภาพข่าวในการทำให้บรรยากาศใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่อึมครึม จากเบตง จังหวัดยะลา ผ่านโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เข้าจังหวัดสงขลา ล้างภาพ “ดินแดนอันตราย”

ตลอดสองข้างทางมีพี่น้องชาวมุสลิมมาคอยให้กำลังใจ ร่วมบริจาคสมทบทุนโครงการ

โดยไม่มีอาการตั้งแง่ “แบ่งแยก” แต่อย่างใด

เรื่องยากๆแต่นักร้องดังสามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ได้ มันก็ไม่แปลกกับมุกที่ชื่อ “ตูน บอดี้สแลม” มีลุ้นติดโผปรับ ครม. คั่วเก้าอี้รัฐมนตรีสาธารณสุข จากความสามารถในการระดมเงินช่วยโรงพยาบาล

ข่าวขำๆอำกันเล่นๆ แทรกบรรยากาศซีเรียส

สถานการณ์เครียดๆในการปรับคณะรัฐมนตรี ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์กดดันภาวะผู้นำของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.

ส่อเค้าต้องยกเครื่องใหญ่ ลดสัดส่วนโควตาทหาร

ไหนจะอาการโคม่าของเพื่อนพ้องน้องพี่ที่กระเตงอยู่รอบเอว ยากจะลากถูลู่ถูกัง

ตามรูปการณ์ที่ต้องดำเนินการปรับ ครม.โดยเร็ววันนี้ เพราะมันยังมีปัญหาที่โยงกับปมรัฐมนตรีหลายคนอยู่ในข่ายโดนร้องถือหุ้นสัมปทานรัฐเกิน 5 เปอร์เซ็นต์

เป็นจังหวะ “อำนาจ” กระเพื่อม ที่ต้องจำกัดวงลุกลามโดยเร็ว

ที่สำคัญ “บิ๊กตู่” จำเป็นต้องใช้เกมปรับ ครม.ในการผ่อนแรงเสียดทาน

เคลียร์ 2 สภาวการณ์ที่จ่ออยู่ตรงหน้า

ด้านหนึ่งก็เสียงร้องให้ปลดล็อกกฎเหล็กพรรคการเมือง ตามสถานการณ์ที่โพลทุกสำนัก ทั้งสวนดุสิตโพล กรุงเทพโพล สะท้อนตัวเลขตรงกัน ชาวบ้านเชียร์ให้ คสช.คลายกฎเหล็ก

เพื่อสร้างบรรยากาศเลือกตั้ง ตามสไตล์คนไทยที่หวังน้ำบ่อหน้า

แต่ก็อย่างที่เห็นกัน ขนาดยังไม่มีการปลดล็อกให้เป็นทางการ ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ ต่างปล่อยแถวทหารเลียบค่ายออกมาถล่มรัฐบาล คสช. บ้อท่าในการบริหาร โดยเฉพาะการมุ่ง ทุบจุดแข็งที่แฝงความเปราะบาง นั่นคือทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล

ผลิตข่าวซ้ำๆ ตอกย้ำกรอกหูชาวบ้าน

ลำพังแค่พวกเหรียญสลึง เหรียญบาท หน้าเดิมๆ ชื่อซ้ำๆ ยังทำเอารัฐบาลเซแซดๆ ถ้าปลดล็อกให้พวก “ขาใหญ่” ออกมาอาละวาดกันเต็มรูปแบบ มีหวังป่าช้าแตกแน่

“บิ๊กตู่” คงต้องยื้อปลดล็อกการเมือง เท่าที่โอกาสจะเอื้อให้ยื้อได้

และอีกจุดที่จะหนีไม่ออก ก็คือแรงกดดันเลือกตั้ง ยึดเอาตามที่ “บิ๊กตู่” ประกาศมัดคอตัวเอง จะประกาศเลือกตั้งในเดือนมิถุนายน 2561 และหย่อนบัตรกันช่วงปลายปี

จากนี้ไปมีหวังโดนนักการเมืองจี้คอหอยถามไม่เลิกแน่

แต่โดยสภาพการณ์แบบที่เห็นและเป็นไป ภายใต้เงื่อนไขที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เบอร์หนึ่งความมั่นคง ล็อกไว้ จะเลือกตั้งได้ก็ต้องให้กฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยก่อนทุกฉบับ

และเท่าที่จับอาการได้ จุดของความยุ่งเหยิง ความขัดแย้ง ไม่ลงรอยกันในหมู่ทีมงานผู้ออกแบบคือกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกับฝ่ายที่ต้องอนุมัติแบบคือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ต่อล้อต่อเถียงกันแบบไม่มีใครยอมใคร ทั้งในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และโดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

โอกาสปัจจัยแทรกซ้อนทำให้กฎหมายลูกเสร็จไม่ทัน เกิดขึ้นแน่ๆ ยังไงก็หนีไม่พ้น

ไม่ว่าจะด้วยความ “จงใจ” หรืออุบัติเหตุตามเทคนิคกฎหมายที่จะทำให้เลือกตั้งไม่ได้

มันไม่ได้อยู่ในวิสัยที่ “นายกฯลุงตู่” จะควบคุมได้เลย.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: