PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

อภิสิทธิ์จี้อย่าใช้ระบบบังคับบัญชาแบบทหารมาแก้ปัญหาความเดือดร้อนราคายางตก

อภิสิทธิ์จี้อย่าใช้ระบบบังคับบัญชาแบบทหารมาแก้ปัญหาความเดือดร้อนราคายางตก


“อภิสิทธิ์”แนะรัฐแก้ปัญหายางพาราเชิงรุก ชี้หาก รมว.เกษตรฯ-ผู้ว่าการยางแก้ปัญหาไม่ได้ ควรให้คนอื่นมาทำเหมาะกว่า

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเชิญแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางไปปรับทัศนคติที่ค่ายทหารว่า คงเป็นวิธีการจัดการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งไม่ประสงค์จะเห็นการชุมนุม เพราะถือว่าการชุมนุมเกิน 5 คนเป็นความผิดต่อคำสั่งของ คสช. แต่เรื่องนี้มีหลายแง่มุม คือการที่ประชาชนแสดงออกโดยมีเหตุจูงใจที่หลากหลาย แต่กรณีชัดเจนว่าเกิดจากความเดือดร้อนของประชาชน และพยายามจัดระเบียบโดยการให้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรม หรือทำหนังสือร้องเรียน ซึ่งเชื่อว่ามีการทำกันอยู่ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ แต่ถึงจุดหนึ่งเมื่อไม่มีการตอบสนอง ปัญหาไม่คลี่คลาย ก็เป็นธรรมชาติของผู้เดือดร้อนที่คิดว่าทำอย่างไรถึงจะแสดงออกให้ทราบถึงพลังและจำนวนคนที่เดือดร้อนอยู่ เพื่อเป็นเสียงหนึ่งที่บอกให้รัฐบาลรับรู้ว่าถึงเวลาต้องแก้ไขปัญหาแล้ว ส่วนที่ว่าธรรมชาติของทหาร ผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องฟังผู้บังคับบัญชานั้นปัญหาของประชาชนจะใช้ระบบบังคับบัญชาเพื่อแก้ไขปัญหาคงจะไม่ได้

“ทำไมเรื่องนี้รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะราคาแย่จริง ไม่ใช่เฉพาะภาคใต้ ที่ผ่านมาก็เคยมีการพูดว่าจะแก้ปัญหา แต่จริงๆ ไม่เกิดผล ข้อเสนอหนึ่งคือ การเอายางพาราไปใช้ในกิจการของรัฐสร้างถนน สนามกีฬา ซึ่งก็มีการตอบสนอง แต่เกิดน้อยมาก มีแต่ระดับท้องถิ่นที่เอาไปทำ ทำไมระดับประเทศทำไม่ได้ ดังนั้นรัฐจะต้องแสดงความเป็นผู้นำ ถ้าบอกว่าถนนทุกเส้นต้องใช้ ก็ใช้ไม่ใช่น้อย เพียงแต่ถึงเวลาจริงๆ รัฐบาลไม่ได้ติดตาม ผมเคยเสนอว่าควรจะเป็นมติออกมาว่าต้องใช้ ถ้าจะไม่ใช้ต้องรายงานมา ถ้าเปลี่ยนมาใช้ยางพารา ผู้ที่เคยทำถนนให้กับรัฐก็อาจจะกระทบคือเหตุผลหนึ่งว่า ทำไมมันเดินยาก ผมอยากจะเห็นทีท่าของรัฐบาลกับ คสช. ควรออกมาในเชิงรุก ไม่ควรรอให้ถึงวันนี้ เพราะเห็นปัญหาแล้วก็น่าจะประกาศออกมาเลยว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ถ้าบอกว่าที่ทำอยู่ดีแล้ว ผมว่ามันยากที่จะทำให้มีความราบรื่น” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ส่วนการเสนอให้ปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย จะช่วยแก้ปัญหาได้หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจความรู้สึก เวลาที่มีการบริหารและไม่ถูกใจหรือไม่ได้ผล หลักการบริหารก็คือการเปลี่ยนแปลงบุคคล แต่ตนไม่ไปก้าวล่วงตรงนี้ เพราะถือว่าถ้าเปลี่ยนคนแล้วนโยบายยังเหมือนเดิม ก็ได้ผลเท่าเดิม และเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีเกษตรฯ หรือผู้ว่าการยางฯ ตนก็พอรู้จักคุ้นเคยอยู่ อยากจะกระตุ้นให้ท่านมาฟัง หรือถ้าท่านไม่ฟัง ท่านคิดว่าไม่สามารถตอบสนองหรือปรับเปลี่ยนได้ ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาแล้วว่า ถ้าคนอื่นเข้ามาจะเหมาะกว่าหรือไม่ ตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายหนทางที่จะแก้ปัญหาได้ และอยากให้รับฟังเกษตรกรด้วย และเห็นว่าเรื่องของประกันรายได้สามารถเอามาใช้กับยางพาราได้

ไม่มีความคิดเห็น: