PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560

เปิดลายแทง “เครือข่ายสมคิด” นักธุรกิจ-มืออาชีพ พรึบ!

เปิดลายแทง “เครือข่ายสมคิด” นักธุรกิจ-มืออาชีพ พรึบ!
ตั้งแต่ประกาศโผ “ครม.ประยุทธ์5” ทุกสายตาต่างจับจ้องชนิดไม่กระพริบตาคอยดูว่า ครม.เศรษฐกิจที่อยู่ในกำมือ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เกือบจะ100% (เว้นไว้เพียงพลังงานกับแรงงาน) จะกระชากศรัทธาที่ดำดิ่งกลับคืนมาได้หรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้เรตติ้งทีมเศรษฐกิจหากเป็นบัว 4 เหล่า เผลอๆ จัดเป็นบัวเหล่าที่ 5 คือ เรตติ้งติดลบเอาดื้อๆ
ก่อนหน้านี้การทำงานอาจจะไม่เต็มไม้เต็มมือเท่าไหร่ มีปัญหา 2 กระทรวงสำคัญ คือเกษตรและสหกรณ์ที่อยู่ในมือ “บิ๊กนมชง”พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ และการท่องเที่ยวและกีฬาที่ “กอบกาญน์ วัฒนวรางกูร” ดูแล ตั้งตัวเป็นรัฐอิสระมีอะไรจะรายงานสายตรงกับ“บิ๊กตู่”คนเดียว การประสานงานจึงเข้าตำรา “ชักตื้นติดกึ๊กชักลึกติดกั๊ก” มาตลอด ต่อจากนี้ไปจะอ้างหรือโยนกลองไม่ได้แล้ว....
ที่สำคัญ ทีมงานใกล้ชิดมือซ้ายมือขวายังอยู่กันพรึบ ไล่เรียงตั้งแต่มือขวา “ดร.อุตม สาวนายน”รัฐมนตรีอุตสาหกรรมก็ยังอยู่ที่เดิมเพื่อดัน “โครงการEEC”เกิดให้ได้ เช่นเดียวกับ “อภิศักดิ์ ตันติวรงค์” ที่ยังยึดกระทรวงคลังเหนียวแน่น ตอนแรกมีข่าวว่าจะมานั่งคมนาคมเพื่อดันรถไฟไทย-จีน ในที่สุดก็ยังอยู่ที่เดิม
ขณะที่คนใกล้ชิดอีกคนอย่าง “สนธิรัตน์ สนธิจิระวงศ์” จากรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เลื่อนชั้นนั่งเก้าอี้ใหญ่กว่าเดิมเพื่อผลักดันร้านค้าประชารัฐและเศรษฐกิจฐานราก ส่วนมือซ้าย “ดร สุวิทย์ เมษินทรีย์” ก็โยกจากรัฐมนตรีสำนักนายกฯ มานั่งคุมกระทรวงวิทย์ฯ มาผลักดันสตาร์ทอัพ เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 เช่นเดียวกับ “ดอน ปรมัตถ์วินัย” ภาพอาจจะไม่ใช่คนใกล้ชิดแต่ก็ทำงานเข้าขากันอย่างดี
แต่เที่ยวนี้ น่าจับตา “กอบศักดิ์ ภูตระกูล” อดีตนักเศรษฐศาสตร์ดาวรุ่ง นักเรียนทุนและอดีตผู้บริหารแบงก์ชาติแล้วผันตัวไปเป็นผู้ช่วยเอ็มดี.แบงก์บัวหลวง หลังจากถูกดึงช่วยงาน ระยะหนึ่งเข้าตา “บิ๊กตู่” ได้รับความไว้วางใจให้ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ภารกิจหลักๆ เข้ามาดูเศรษฐกิจภาพรวมและงานด้านประชาสัมพันธ์ ด้วยเป็นคนมีความรู้แน่นและสุภาพเรียบร้อย
ขณะที่ กระทรวงเกษตร “กฤษฎา บุญราช” รัฐมนตรีว่าการ อดีตปลัดมหาดไทยลือกันว่าสายตรงลุงกำนันกลายเป็นม้ามืดแซงโค้งนาทีสุดท้าย จุดแข็งที่มีเครือข่ายผู้ว่าราชการจังหวัดมาช่วยขับเคลื่อนงานด้านการเกษตร มี“ลักษณ์ วจนานวัช” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. แม้ไม่ใช่สายตรงแต่ก็เคยทำงานร่วมกันจนเป็นที่ไว้วางใจ จะมาดูแลราคาสินค้าเกษตร มีเครือข่าย ธกส.เป็นมือไม้ ขณะที่ “อาจารย์ยักษ์” วิวัฒน์ ศัลกำธร ก็คงมาตอบโจทก์เรื่องเกษตรทางเลือก เกษตรอินทรีย์ ดูแล้วกระทรวงเกษตรกลายเป็นสูตรที่ลงตัวที่สุด
ฟากท่องเที่ยวและกีฬาฯ ก็ได้ “วีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์” อดีตรัฐมนตรีกลับมานั่งเก่าอี้ตัวเก่า แม้จะใกล้ชิดสายชาติไทยพัฒนาแต่กับดร.สมคิด ก็ถือว่าไม่ใช่คนอื่นคนไกล นี่คือ เครื่องจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้า แต่หลังฉากยังมี “ขุมกำลังนอกทำเนียบ” ที่ “ดร.สมคิด”ได้วางเครือข่ายมานาน ทั้งภาคธุรกิจเอกชน เทคโนแครต รวมถึงภาคประชาสังคม
“วิระไท สันติประภพ” คือคนในเครือข่ายคนแรกๆ ที่ถูกดันให้มานั่งเก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติ ก่อนหน้าที่จะเข้ามาคุมทีมเศรษฐกิจด้วยซ้ำ “ยุทธศักดิ์ สุภสร” อดีต ผอ.ส.ส.ว. ผันตัวมานั่งเก้าอี้ ผู้ว่า ท.ทท. ก็เคยอยู่ใต้ร่มเงาสมคิดมาก่อน
แต่ขุมกำลังหลักจริงๆ น่าจะวางน้ำหนักไปที่นักธุรกิจ เอกชน ผู้บริหารมืออาชีพที่ถูกดึงมาช่วยงานหน้าฉากในนาม “สานพลังประชารัฐ” ที่มั่นสำคัญอยู่ที่ “หอการค้าไทย” และ “สภาหอการค้าไทย” มี “อิสระ ว่องกุศลกิจ” อดีตประธานหอการค้าไทยและบิ๊กบอสค่ายน้ำตาลมิตรผลเป็นแกนนำ และมี “กลิน สารสิน” ผู้บริหารเครือ เอสซีจี.ประธานหอการค้าคนใหม่มาเสริมทัพ
แต่ที่ยืนเคียงข้างมานานนับสิบปีจะเป็นใครไม่ได้ ต้อง “เสี่ยบุญยสิทธิ์ โชควัฒนา” บิ๊กบอส “ค่ายสหพัฒน์” ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ดร.สมคิด เคยเป็นที่ปรึกษาอยู่ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่วงการการเมือง ออกโรงเชียร์ทุกครั้งที่ “ดร.สมคิด” พลาดพลั้ง แถมยังมีกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งเครือซีพี ค่ายไทยเบรฟ เข้ามาสมทบ แรกๆ ได้ “ดร.สม” พี่ชายแท้ๆ เป็นตัวเชื่อม.. แต่ทุกวันนี้ “คอนเน็คชั่น”ดร.สมคิดล้วนๆ ขนาดดึง “ศุภชัย เจียรวรานนท์” มาช่วยงานด้านการศึกษา “ฐาปน สิริสัฒนภักดี” ลูกชายเสี่ยเจริญ มาช่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ เช่นเดียวกับ “เครือเซ็นทรัล” ยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีก ก็มี “ทศ จิราธิวัฒน์” ยืนตระหง่าน ขาดไม่ได้ แบงก์กรุงเทพฯ ก็มี “ชาติศิริ โสภณพณิช” มาช่วยเรื่องการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
เหนือสิ่งใดผู้บริหารมืออาชีพอย่าง “รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส” ซีอีโอ.ค่ายเอสซีจี.ช่วยพัฒนาบุคลากรด้านอาชีวะ แต่ที่ไม่เปิดตัวก็มีอีกไม่น้อย ทั้งกลุ่มไทยยูเนี่ยนโฟรซเซ่น ผู้ผลิตและส่งออกปลาทูน่ากระป๋องที่ติดอันดับต้นๆ ของโลก รวมถึงกลุ่มโอสถสภาฯ และ มหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นแบ็กอัพ
ขณะที่ “มูลนิธิอนาคตไทยศึกษา” มี “ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” เป็นหัวเรือใหญ่ทำงานด้านวิจัยเรื่องเศรษฐกิจและสังคมเป็น “คลังข้อมูล” คอยซับพอร์ตแต่ในระยะหลังๆ ดูเหมือนบทบาทดูจะแผ่วๆ ไปบ้าง
ยิ่งกว่านั้นยังมีคลังสมอง “ระดับซือแป๋เรียกอาจารย์” เล่นบท “เดอะแมน บีไฮน์” เป็นกุนซืออยู่ข้างหลังทั้งอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ “สมพล เกียรติไพบูลย์” อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ “ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลสวัสดิ์” อดีตรัฐมนตรีคลังและอดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ “ดร.คณิต แสงสุพรรณ” อดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงคลัง ตอนนี้มาช่วยดูโครงการ EEC. และ ดร.ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคลังที่ช่วงหลังอาจจะห่างๆ ไปบ้าง
ผู้บริหารมืออาชีพ อาทิ “กานต์ ตระกูลฮุน” อดีตซีอีโอ.เอสซีจี.มาผลักดันโครงการ EECรวมถึง “ประเสริฐ บุญสัมพันธ์” อดีตซีอีโอ.ปตท. และที่ไม่เปิดตัวอีกไม่น้อย
ในภาคประชาสังคม ก็มี “เอ็นนู ซื่อสุวรรณ์” อดีตรองเอ็มดี.ธกส.ช่วยงานด้านเศรษฐกิจฐานราก วิสาหกิจชุมชนต่างๆ “หมอพลเดช ปิ่นประทีป”ดูเรื่องประชารัฐ
สำรวจขุมกำลังแล้วแน่นปึ๊ก! ทั้งกองหน้ากองหลัง เหลือแต่เพียงในห้วงเวลาที่เหลืออยู่จะเฉียบคมพอยิงเข้าเป้าหรือไม่ จะผลักดันผลงานถูกใจกองเชียร์หรือไม่ เท่านั้น.

ไม่มีความคิดเห็น: