PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561

ยิ่งยุ่งก็ยิ่งยาว

ยิ่งยุ่งก็ยิ่งยาว


สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ยุค คสช.ถูกตั้งฉายาเป็นสภา ฝักถั่ว สภาตรายาง สภาใบสั่ง และอีกมากมาย
ข้อสำคัญ “สนช.ลากตั้งชุดนี้” ยังขยันสร้างเรื่องเลอะเทอะให้ต้องเก็บกวาดเช็ดถูตามหลังอีกบานตะไท
เลอะเทอะอย่างไร “แม่ลูกจันทร์” ขอยกมาเป็นแซมเปิ้ลซัก 3 ประเด็น
เรื่องเลอะเทอะอันดับ 1, คือกรณี สนช.ลากตั้งใช้เสียงข้างมากลากไปแก้ไข พ.ร.บ.ป.ป.ช.ให้ประธาน ป.ป.ช. และกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ที่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ ให้สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้อย่างสบายอุรา
แค่นี้ยังไม่พอ ยังใช้เสียงข้างมากต่อวีซ่าให้ประธาน ป.ป.ช.และกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมี “ลักษณะต้องห้าม” ตามรัฐธรรมนูญ ให้ลากยาวยั่งยืนต่อไปอีก 9 ปี
เหลือเชื่อจริงๆ พ่อเจ้าประคุณ
ทีนี้มาถึง เรื่องเลอะเทอะอันดับ 2,กรณี สนช.ลากตั้งกระเด้งรับใบสั่งแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 90 วัน
ยิ่งกว่านั้นยังใช้เสียงข้างมาก ยกเลิกกติกาที่ห้ามจัดมหรสพต่างๆในการหา เสียงเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งใช้บังคับมานานกว่า 43 ปี
การเปิดช่องให้พรรคการเมืองจ้างมหรสพมาแสดงจูงใจประชาชนให้มาฟังการปราศรัยหาเสียง จึงเป็นการแก้ไขกฎหมายเอื้อประโยชน์พรรคใหญ่ๆทุนหนาได้เปรียบพรรคเล็กๆทุนน้อยกว่าอย่างชัดเจน
เท่ากับไปแก้กติกาที่ดีอยู่แล้วให้แย่ยิ่งกว่าเดิม
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าประเด็นนี้จะสร้างความยุ่งหยอยเป็นฝอยขัดหม้อในการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างแน่นอน!!
ทีนี้มาถึง “เรื่องเลอะเทอะอันดับ 3” คือ กรณี สนช.ลากตั้งใช้เสียงข้างมากลากไปแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว. แหกออกนอกกรอบจากร่างของ กรธ.จนไม่เหลือเค้าเดิม
เช่น ล้มกติกาที่ห้ามผู้สมัคร ส.ว. แต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกกันเอง
โดยกำหนดกติกาใหม่ ให้ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่มเดียวกันเลือกกันเองโดยรง
เท่ากับเปิดช่องให้ “บล็อกโหวต” กันได้อย่างสะดวกโยธิน
แย่ยิ่งกว่านั้น ยังไปเพิ่มกติกาให้แยกผู้สมัคร ส.ว.ออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทสมัครแบบอิสระ 100 คน และองค์กรต่างๆส่งสมัครเป็นตัวแทนอีก 100 คน
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าผลจากการแก้ไขให้ที่มา ส.ว.เป็น 2 ประเภท จึงไปขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 107 อย่างจังเบอร์
เนื่องจากมาตรา 107 ของรัฐธรรมนูญ กำหนดให้สมัคร ส.ว.ประเภทเดียว และสมัครช่องทางเดียว
ดังนั้น การที่ สนช.ลากตั้งแก้ไข ก.ม.ลูกไปขัดกับรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็น ก.ม.แม่ จึงยุ่งเป็นฝอยขัดหม้อด้วยประการฉะนี้แล
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าการแก้ไข ก.ม.ลูกไปขัดแย้ง ก.ม.แม่ ทำให้การประกาศใช้กฎหมายลูก 3 ฉบับ ต้องชักตะพานแหงนเถ่อต่อไป
ทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีกไม่จบสิ้นซะที
หรือว่า...การที่ สนช.ลากตั้งขยันแก้ไข ก.ม.ลูกให้ขัดแย้ง ก.ม.แม่ตะบี้ตะบัน...
เพื่อต้องการสร้างเงื่อนไขให้การเลือกตั้งต้องยืดออกไปอีกยาวๆ?
เพราะถ้าเรื่องไม่จบก็ต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
ต้องบวกเวลาเพิ่มไปอีกหลายเดือน
อืมม์...มันก็ชวนให้สงสัยได้เหมือนกันนะโยม.
“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: