PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561

“นิด้า” ชื่อช้ำมากพอแล้ว

“นิด้า” ชื่อช้ำมากพอแล้ว


“เลือกเอาแล้วกันว่าจะเอาแบบผม หรือจะให้กลับมาที่เดิม”
จับอาการอึดอัดของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ถูกไล่บี้ไล่ต้อนทวงถามสัญญาเลือกตั้ง
ปล่อยมุกวัดใจกันเลยว่า ระหว่างการทำตามความพยายามของคนที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นแบบเก่า กับการเดินตาม “ลุงตู่” ไปสู่ปลายทางปฏิรูป โดยที่บ้านเมืองยังสงบ ไม่มีม็อบป่วนเมือง
ถามใจประชาชนส่วนใหญ่จะเอาแบบไหน
เรื่องของเรื่อง ในห้วงที่ทหารทำอะไรก็ผิด บรรยากาศสลับข้างให้นักวิชาการ นักศึกษา พลิกกลับมาเป็นฝ่ายขี่กระแส นักการเมืองได้จังหวะตามแห่ คอยแหย่ไฟ
ปรากฏการณ์แบบที่เครือข่ายคนหน้าเก่าหน้าเดิมของฝ่ายความมั่นคง อย่าง “จ่านิว” นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และนายรังสิมันต์ โรม นักศึกษาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ “ลุงตู่” รวมพลในนามขบวนการใหม่ “Start Up People” แสดงพลังคนอยากเลือกตั้ง ต้านการสืบทอดอำนาจ คสช.
ก็มีคนตามแห่ ชิงพื้นข่าวในสื่อได้
ในห้วงสถานการณ์ที่เครือข่ายนักวิชาการกล้าล่ารายชื่อกดดัน คสช.ให้ทบทวนการดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่ม “วีวอล์ค” ที่จัดกิจกรรมเดินเรียกร้องเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
เดินแต้มกดดันอำนาจพิเศษ ท้าทายกันแบบออกหน้าออกตา
ฉากปัญญาชนที่เป็น “ของแสลง” กับทหารเริ่มถูกเซตขึ้นมา ชัดเจนเป็นลำดับ
โยงกับสถานการณ์ “จุดไฟ” ในสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่ทำให้ชื่อของนายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ผู้อำนวยการ “นิด้าโพล” กลายเป็นฮีโร่ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร คสช.
กับคำพูดหล่อๆ “ไม่เลียท็อปบูต”
สูตรสำเร็จของการปั่นกระแสปัญญาชนประจันหน้าทหารกำลังถูกรื้อฟื้น ย้อนอดีตคนเดือนตุลา
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องของกระแสก็ว่ากันไปตามห้วงสถานการณ์ แต่ประเด็นของหลักการความถูกต้องที่ต้องยึดเป็นบรรทัดฐาน นั่นก็ต้องว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง
โดยเฉพาะการใช้ชื่อสถาบันการศึกษามาแฝงเหลี่ยมเกมการเมือง
จากปมร้อน “นิด้าโพล” ถ้าฟังความอีกด้านหนึ่งจากมุมของนายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีนิด้า ที่ชี้แจงว่า การที่โพลมุ่งเป้าที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดถือเป็นการไม่ยุติธรรม โดยเฉพาะในห้วงที่ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน ไม่มีการชี้ถูกชี้ผิด
เรื่องของเรื่องถ้าเป็น “อานนท์โพล” ก็คงไม่มีปัญหา ไม่มีใครไปเบรกอะไร
และแน่นอนก็คงไม่มี “น้ำหนัก” หรือราคาค่างวดสักเท่าไหร่
แต่มันเป็นโพลในนามของ “นิด้า” ประทับตราสถาบัน มันก็มีเหตุผลที่จะต้อง “เซ็นเซอร์” กันก่อน เพราะถ้ามีข้อผิดพลาด
หรือวาระแฝงในการใช้โพลเพื่อผลประโยชน์ของบางฝ่าย คนที่รับผิดชอบเต็มๆหนีไม่พ้นคนนั่งเป็นฝ่ายบริหารสูงสุดคืออธิการบดี
ตรงนี้เข้าใจได้ในคำอธิบายของนายประดิษฐ์
ไม่นับปมเบื้องหน้าเบื้องหลัง นายอานนท์เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่ผู้อำนวยการ “นิด้าโพล” แค่ 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านั้นก็เห็นชื่อเป็นคอลัมนิสต์ประจำอยู่ในสื่อค่ายพันธมิตรฯ
มีลูกติดพันกับ “บิ๊กป้อม” ในคดีลอบสังหารหัวขบวนม็อบเสื้อเหลือง
ถ้าจะบอกว่าเป็นงานเชิงวิชาการเพียวๆไม่เกี่ยวกับขบวนการลงดาบซ้ำ พล.อ.ประวิตร
คนที่ติดตามข่าวการเมืองคงมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในใจ
เหนือสิ่งอื่นใด จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ชื่อ “นิด้า” แทบไม่เหลือความขลัง ชั่วห้วงเวลาไม่กี่ปีหลัง คนไม่กี่คนเอาชื่อสถาบันอันเป็นที่รักของศิษย์เก่าศิษย์ปัจจุบันไปเป็นใบเบิกทาง สร้างโอกาสให้ตัวเองเข้าสู่เกมอำนาจและผลประโยชน์
ก่อโทษให้สถาบัน “นิด้า” โดนลากเข้าไปในสงครามชิงกระแสการเมือง
ถูกพวกที่เสียประโยชน์โจมตี ด่าเสียๆหายๆ เหมารวมทั้งสถาบัน
ตรงนี้ถึงจุดที่ต้องทบทวน ดึง “นิด้า” กลับมาเป็นองค์กรวิชาการเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง
อย่าให้ “นักวิชาเกิน–นักวิชากิน” เอาชื่อไปสร้างความเสื่อมอีกเลย.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: