PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

เลิกคิดยืมจมูก ปชป.!

เลิกคิดยืมจมูก ปชป.!



แค่คลายล็อก แง้มฝาโลงก็เห็นฤทธิ์เห็นเดชกันจะจะ

ธาตุแท้ “นักเลือกตั้งอาชีพ” โผล่กันสลอนเลย

ไล่ตั้งแต่เสือเฒ่าลายครามระดับ “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง แกนนำรุ่นเดอะพรรคเพื่อไทย ขู่ออกอากาศ เตือน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ให้เลิกคิดเล่นการเมือง เป็นนายกฯคนนอก

แค่เจอกระทู้จัดหนักในสภา อาจมีสภาพเหมือนไส้เดือนโดนขี้เถ้า

แต่นั่นก็ไม่ร้อนแรงเท่าลีลาออกตัวของสิงห์หนุ่มอย่าง “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ชิงเตะตัดขา “นายกฯคนนอกพรรคประชาธิปัตย์”

ประกาศชัดใครหนุน “ลุงตู่” ไสหัวออกไป

โชว์จุดยืนประชาธิปัตย์ต่อต้านเผด็จการ

มุกเก่า ฟอร์มเดิม ยี่ห้อเก่าแก่ ทีมงาน “อภิสิทธิ์” ฉวยสถานการณ์ชิงเหลี่ยมเป็นพระเอกในฟากฝั่งประชาธิปไตย

ชูธงนำทัพต้านท็อปบูต

แกล้งลืมที่จะไม่พูดถึงอดีตที่เคยแตะมือตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อุ้ม “อภิสิทธิ์” ขึ้นแท่นนายกฯ

บทพระเอกนักประชาธิปไตยในละครการเมืองน้ำเน่าของพรรคประชาธิปัตย์กลับมาฉายซ้ำ
และนั่นก็น่าจะทำให้ตัดสินใจง่าย

เลิกคิดได้ ถ้าหวังจะยืมจมูกทีมงาน “อภิสิทธิ์” หายใจ

ถึงตรงนี้แทบไม่ต้องคิดอะไรแล้ว แนวโน้ม “นายกฯลุงตู่” ต้องลุยปั้นแบรนด์ “พลังประชารัฐ”
เป็นฐาน ส.ส.ต้นทุนหน้าตัก หลักประกันเกมเขี้ยวในสภาผู้แทนราษฎร

แต่งตัวเป็น “นายกฯคนใน” ยกระดับความชอบธรรมในการตีตั๋วต่อ คุมเกมอำนาจเปลี่ยนผ่าน ตามพิมพ์เขียวอำนาจในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ

และต้องเริ่มออกตัวตั้งแต่ตอนนี้ ไม่เสียเวลารอถึงเดือน มิ.ย. โปรแกรมที่จะประกาศกำหนดเลือกตั้ง

อย่างที่เห็นล่าสุด “นายกฯลุงตู่” เปิดตัวโครงการ “สายตรงไทยนิยม” รับเรื่องร้องทุกข์ รับฟังความคิดเห็น พร้อมชี้แจงประเด็นสำคัญ ผ่านโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก

สื่อสารตรงถึงประชาชน

ในจังหวะที่รัฐบาลเดินหน้าจัดสรรงบประมาณกลางปี 2561 กว่า 1.5 แสนล้านบาท ผ่านโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย อัดฉีดสารพัดมาตรการแก้จนผ่านแบรนด์ประชารัฐ

บริหารปัญหาปากท้องชาวบ้าน แฝงการหาเสียงตุนคะแนนไปในที

แต่ก่อนอื่นใด ทีมยุทธศาสตร์ของ “นายกฯลุงตู่” ต้องเคลียร์ปมติดขัด เรื่องการนำนโยบายไปปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคใหญ่ของรัฐบาลในห้วงเข้าโหมดเลือกตั้ง

เจอเหลี่ยมเขี้ยวข้าราชการ ไม่ทำงาน กั๊กงบประมาณโครงการที่ไม่ได้หัวคิว

ใส่เกียร์ว่างรอรัฐบาลใหม่

นั่นไม่ร้ายแรงเท่ากระบวนการทุจริตที่ระบาดในหมู่ข้าราชการ ตามปรากฏการณ์กระแสที่แตะไปตรงไหน เจอตรงนั้น โกงเงินคนด้อยโอกาส โกงเงินทุนการศึกษาเด็กยากไร้ โกงวัคซีนหมาบ้า กินเงินทอนวัด ฯลฯ

พานให้รัฐบาล “ลุงตู่” โดนด่า

แต่ปัญหาหนักกว่าก็คือเจอด่านข้าราชการคอร์รัปชัน ทำให้เม็ดเงินงบประมาณโครงการรัฐบาลลงไม่ถึงมือชาวบ้านอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เศรษฐกิจฐานรากไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเต็มที่ ภาพเลยออกมาแบบที่เห็นเศรษฐกิจภาพรวมทั้ง จีดีพี การส่งออก โตสวนทางกับภาวะค่าครองชีพในประเทศที่ยังกระท่อนกระแท่น

ตามรูปการณ์ “ลุงตู่” คงต้องจ่ายยาแรง ผ่าตัดข้าราชการ โยกย้ายกันอีกครั้งใหญ่ เพื่อเดินหน้าปั่นเนื้องานตามยุทธศาสตร์ไทยนิยมยั่งยืน

โละทิ้งตัวถ่วงการปั่นแบรนด์ “พลังประชารัฐ”.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: