PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ถือแต้มต่อคุมเกมม็อบ

ถือแต้มต่อคุมเกมม็อบ



ถอดพิมพ์แทบจะโคลนนิ่งกันมาเป๊ะเลย
ทั้งรูปร่างหน้าตาและลีลาของหนุ่ม “ไอติม” นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หลานชาย “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดให้สัมภาษณ์นักข่าว ขณะรายงานตัวเข้ารับราชการทหารเกณฑ์ผลัดแรก ที่เจ้าตัวสมัครรับใช้ชาติและต้องฝึกวิชาทหารเป็นเวลา 6 เดือน
โชว์จุดยืนชัดๆ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ปรับตัวเป็นยุคใหม่ได้ ตนเองก็สมัครเป็นสมาชิกพรรค และขณะนี้ก็ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าสู่ยุคใหม่ไม่ได้
หลักการแน่น โปรไฟล์ปึ้ก พูดเก่ง ภาษาการเมืองจัดอยู่ในจำพวก “มีแสงในตัวเอง” มันก็ไม่แปลกที่ “หนุ่มไอติม” จะเป็นหนึ่งในเบอร์ต้นๆนักการเมืองรุ่นใหม่ที่โดดเด่นขึ้นมา
โดยสถานการณ์สวนทางกับน้าชาย “เดอะมาร์ค” กำลังอยู่ในห้วงอาทิตย์อัสดง
ตอนนี้เหลือแค่รุ่นอาวุโสระดับนายหัวชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค กับทีมงานใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์เท่านั้น ที่ยังเป็นแนวร่วม ฝืนแรงกระแทกจากฝ่ายเดินเกมโค่นเก้าอี้
กับภาวะที่นายอภิสิทธิ์ถูกมองเป็น “ตัวถ่วง” มากกว่าจะเป็นผู้นำทัพไปทวงคืนความยิ่งใหญ่
กลายเป็นอุปสรรคสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่รู้จะเดินแต้มไปต่อกันในทิศทางใด เพราะประตูเดียวที่เหลือคือเกาะขบวนรถไฟกับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. ถ้า “เดอะมาร์ค” ยังอยู่ ก็ดูท่าจะไปด้วยกันยาก
ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ลำบาก อารมณ์เหมือนมวยถูกต้อนให้เข้ามุม “โยนผ้า”
โดยเฉพาะปัญหาเรื่องทุนที่นายอภิสิทธิ์ออกมาปูดเองเลยว่า ขาใหญ่ในรัฐบาล “ลุงตู่” ส่งซิกเอกชนไม่ให้ต่อท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์
ข่าววงในจากคนประชาธิปัตย์ย้ำว่า ขัดสนจริงๆ
สถานการณ์ถึงขั้นที่ว่ากันว่า “ช่องทีวีสีฟ้า” ของทีม “อภิสิทธิ์” ต้องเอาเงินบริษัททัวร์มา “หมุน” สำรองจ่ายล่วงหน้า 2-3 ล้าน พอถึงเวลาไม่มีเงินออกตั๋วเครื่องบินให้ลูกทัวร์ ต้องวิ่งหากันให้วุ่น
กลุ่มทุนหายหน้า น้ำเลี้ยงเหือดแห้ง ไม่รู้จะเจาะ “ตาน้ำ” ตรงไหน
ประชาธิปัตย์อยู่ในภาวะเดี้ยงจริงๆ
ขณะที่ค่ายเพื่อไทยที่พยายามตีปี๊บ เลี้ยงกระแส “เต็งหนึ่ง” แชมป์เก่าหลายสมัย
แต่ภาพจริงตามข่าว ผ่านเส้นตายวันที่ 30 เมษายนแล้ว ต้องมีประกาศคนหาย มีพวกไม่มายืนยันสมาชิก ทั้งบ้านใหญ่นครปฐม ทีมวังน้ำยมสุโขทัย กลุ่มวาดะห์แห่ง 3 จังหวัดชายแดนใต้
นี่แค่พวกนำร่อง ตามรูปการณ์ถึงเวลาจริงที่หมดเวลาแทงกั๊ก น่าจะมีอีกเยอะ พวกหนีเกมลุยสุดซอย ชิ่งเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับ “นายใหญ่”
ยี่ห้อ “ทักษิณ” ขลังแค่ไหน มันก็ยังมีปัจจัยตัวบุคคลทำให้พลิกล็อกได้
เพราะงานนี้ฝ่ายคุมเกมอำนาจทำการบ้านกันมานาน ตามโจทย์ไม่ให้ซ้ำรอยเสียของซ้ำซาก ชัวร์แล้วถึงเปิดไพ่ดันหลัง
“นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ ยกระดับเป็นนายกฯคนในผ่านพรรคการเมือง
ตามจังหวะต่อเนื่อง คสช.เปิดไฟเขียวให้พรรคการเมืองเก่าขยับเช็กฐานสมาชิกใครออกใครเข้า
แค่เขย่าเบาๆ ทำเอานอตหลวมไปตามๆกัน
เต็งหนึ่ง เต็งสอง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ “แน่น” หรือ “กลวง” จับไต๋ได้หมด
สรุปเกมของนักเลือกตั้งอยู่ในกำมือทีม “นายกฯลุงตู่” สู้ได้สบาย
สถานการณ์ท้าทายจริงๆน่าจะอยู่ที่เกมมวลชน ตามรูปการณ์ที่หัวเชื้อม็อบระอุกลับมา
จับสัญญาณจากที่ประชุมสภากลาโหมที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้ทำคู่มือ “สยบม็อบ” เป็นแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง
เนื่องจากหน่วยข่าวฝ่ายความมั่นคงได้กลิ่นมือที่สามจะแทรกตัวเข้าฉวยสถานการณ์การชุมนุมของม็อบคนอยากเลือกตั้งที่นำโดย “จ่านิว” กับ “รังสิมันต์ โรม” ผู้นำกลุ่มนักศึกษา ที่นัดหมายรวมพลกันวันที่ 5 พฤษภาคม โอกาสครบรอบ 4 ปี การยึดอำนาจโดย คสช.
นั่นก็ล้อไปกับน้ำเสียงเครียดๆของ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เลขาธิการ คสช. เบอร์หนึ่งคุมกำลังฝ่ายความมั่นคง ที่แสดงความกังวลต่อการชุมนุมของม็อบคนอยากเลือกตั้ง จะปั่นป่วนวุ่นวาย
และก็เป็นอะไรที่ออกมาได้จังหวะพอดี ล่าสุดนายสมยศ พฤกษา-เกษมสุข นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แนวร่วมเสื้อแดง นปช. เพิ่งพ้นโทษคดีผิดมาตรา 112 ออกจากเรือนจำ ให้สัมภาษณ์หน้าคุกทันที
กระตุกบรรยากาศคล้ายพฤษภาทมิฬ 35 และจะนำไปสู่ความรุนแรง
ประกาศพร้อมร่วมเคลื่อนไหวทวงคืนประชาธิปไตยและเรียกร้องเลือกตั้ง
ถึงจังหวะเดิมพันที่มีผลต่อจุดแข็งของรัฐบาล จุดขายของ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นคือการคุมเกมความมั่นคง ปลอดม็อบ ทำบ้านเมืองสงบ เอื้อต่อการพัฒนา
แน่นอน ฝ่ายต้านก็จ้อง “ตบหน้า” ปั่นเกมม็อบตัดแต้ม “ลุงตู่”.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: