PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ไม่สน กระแส ยกเลิกเกณฑ์ทหาร!!

ไม่สน กระแส ยกเลิกเกณฑ์ทหาร!!
ไม่เกี่ยว ล้างภาพ"น้ามาร์ค"!
"ไอติม" ยัน สมัครเป็น"พลทหาร" ทำหน้าที่ตามกฎหมาย. ยัน ไม่ใช่ ลบภาพพจน์"น้ามาร์ค" หนีทหาร แต่ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับการแก้ไขจุดบกพร่องอะไร ยัน ถ้าผมไม่ได้เป็นหลาน"อภิสิทธิ์" ก็มาเกณฑ์ทหารเหมือนกัน / ยัน ไม่ควรมีการใช้ความรุนแรง กับทหารเกณฑ์ หวังไม่มี ทำเกินอำนาจนอกกฎหมาย

นาย พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม หลานชาย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางด้วยรถบรรทุกทหาร หลังรายงานตัวกับสัสดี เขตสวนหลวง แล้วเดินมายัง มทบ.11
นาย พริษฐ์ ยอมรับว่ารู้สึกอ่อนเพลีย เพราะเมื่อคืนนอนน้อย เนื่องจากต้องเคลียร์งานทุกอย่าง เพื่อมาทำหน้าที่ตามกฎหมายเป็นเวลา 6 เดือน ทั้งงานด้านรายการโทรทัศน์ และงานด้านการเมือง
ทั้งนี้ได้เตรียมใจมานานแล้ว เพราะวางแผนมาก่อน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า. ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ตนมีงานจำนวนมาก มีเวลาพักผ่อนวันละ 3-4 ชั่วโมง จึงทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพ่อแม่มาส่งที่เขตสวนหลวง และบอกว่าอะไรที่เตรียมไปได้ก็ให้นำไปด้วย ซึ่ง ตนก็เป็นหนึ่งในแสนคนที่มาเป็นทหารใหม่ พ่อแม่ทุกคนก็มีความเป็นห่วงลูกเป็นเรื่องธรรมดา
ส่วนกับนายอภิสิทธิ์ ก็มีการพูดคุยกันเรื่องการเมืองโดยมีการประชุมร่วมกันครั้งสุดท้าย เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นทหารใหม่ในเรื่องของนโยบายและทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วง 6 เดือนที่ตนจะหายไป รวมถึงทีมคนรุ่นใหม่ที่อยากเข้ามาร่วมงานด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรกับข้อเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารและเรียกร้องให้ใช้การรับสมัครแทน นายพริษฐ์ กล่าวว่า การที่ผมสมัครเป็นทหารไม่ได้คิดว่าในอนาคตควรหรือไม่ควร กับการมีระบบเกณฑ์ทหาร
"แต่ผมทำหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะผมไม่ได้เรียนหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหาร เนื่องจากศึกษาอยู่ต่างประเทศ
เมื่อถึงเวลาก็ไม่ได้จับใบดำใบแดง แต่ใช้วิธีการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการเลย เพราะรู้สึกว่าผมได้เลือกช่องทางที่โปร่งใสและชัดเจนที่สุด
เมื่อมาเกณฑ์ทหารแล้วคิดว่าน่าจะได้สัมผัสมุมมองตรงนี้มากขึ้นว่าควรหรือไม่ควรที่จะมีระบบการเกณฑ์ทหารในอนาคต
เมื่อถามว่า หวังอะไรกับการเป็นทหารเกณฑ์ 6 เดือน นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนหวังไว้หลายอย่าง ซึ่งอย่างแรกคือหวังว่าจะได้มีโอกาสรับใช้ชาติ โดยการนำศักยภาพที่ตนมีมาทำประโยชน์เพื่อกองทัพและประเทศอย่างแท้จริง เพราะหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเมื่อเรามาเป็นทหารเกณฑ์แล้วเรามาทำอะไร
รวมถึงตนเรียนและทำงานที่ต่างประเทศมาหลายปี เป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนไทยที่มาจากหลายพื้นที่หลายจังหวัด คิดว่าจะทำให้มีประสบการณ์มากขึ้น
นายพริษฐ์ กล่าวว่าหลังจากนี้อีก 6 เดือนตนจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง
อย่างไรก็ตามตามหลักการการเกณฑ์ทหารไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม ไม่ควรมีการใช้ความรุนแรง และหวังว่าคนที่ทำเกินอำนาจนอกกฎหมายจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย
"ผมไปตัดผมมาก่อนล่วงหน้า ที่จะเดินทางมารายงานตัว โดยบอกช่างตัดผมว่าจะตัดอย่างไรก็ได้ ที่ผมไปเป็นทหารเกณฑ์ได้"
เมื่อถูกถามว่า มีการมองว่ามาเป็นทหารเพื่อแก้ข้อผิดพลาดในอดีตของน้า (นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ)นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนทำหน้าที่ตามกฎหมาย และเป็นหนึ่งในแสนคนที่เป็นทหารเกณฑ์ คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการแก้ไขจุดบกพร่องอะไร ถ้าตนไม่ได้เป็นหลาน นายอภิสิทธิ์ ก็คงมาเกณฑ์ทหารเหมือนกัน ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย

ไม่มีความคิดเห็น: