PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2561

จุดพลุรวมขั้วเฉพาะกิจ

จุดพลุรวมขั้วเฉพาะกิจ



อ่านสัญญาณเฉพาะหน้า โรดแม็ปก็ไม่น่าจะพลิกโปรแกรมจากที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ประกาศไว้ ปี 2562 คืนอำนาจสู่การเลือกตั้ง
หลังเงื่อนไขที่ค้างเติ่งคลี่คลาย ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ รอกระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศใช้
พร้อมๆกับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่ได้ไฟเขียวไปก่อนหน้า
จะเหลือก็แค่การตีความคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติวันที่ 5 มิ.ย.นี้
กฎหมายลูกสำคัญๆ 4 ฉบับ ต่อแถวรอประกาศใช้เกือบครบแล้ว ถ้าหากไม่กรณีพิเศษ ปัจจัยสำคัญอื่นในบ้านเมืองทำให้พลิกผันอีก ก็พอจะฟันธงได้ คิวเลือกตั้งน่าจะเป็นไปตามที่ขึ้นกระดานไว้
รูปการณ์ก็คงจะเป็นไปอย่างที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม การันตีล่าสุด มั่นใจ “บิ๊กตู่” คงไม่ต้องออกคำสั่งมาตรา 44 ร่นเวลา “อย่างไรก็ทันเดือนกุมภาพันธ์ 2562”
หรือ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ มือกฎหมายรัฐบาล นับนิ้วบวกเงื่อนเวลา สรุป 11 เดือนสู่เลือกตั้ง
ดีเดย์กาบัตรลงคะแนน จะขยับไปก็ไม่กี่เดือน
เท่านี้สัญญาณตอบรับกระหึ่ม แต่อีกทางก็เพิ่มดีกรีป่วนจากขั้วการเมือง กระแทกแผนต่อตั๋ว “บิ๊กตู่”
ในห้วงที่ทีมงานแผน “ต่อตั๋วผู้นำ” เครื่องชักอืด ถึงแม้จะระดมเครือข่ายกองหนุนได้เนืองแน่น แต่ในที่สุดก็ยังแก้ไม่ตกกับเงื่อนปมสมการตัวเลข ยากจะปั่นยอดเข้าสูตรคณิตศาสตร์
รวมแต้มหนุน “บิ๊กตู่” ทะลุครึ่งสภาฯ ยังเป็นงาน “เข็นครก” ของทีมสร้าง
ล่าสุดยังมึนตึ้บเข้าไปอีก กับการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศในวันเปิดตัวนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมล้างชนักผู้ที่ติดคดีในห้วงรัฐบาล คสช. รวมทั้งชูธงแก้กฎกติกาใหม่
จุดกระแส “รื้อรัฐธรรมนูญปี 2560”
แน่นอน คิวนี้ลำพังพรรคเพื่อไทยโดดร่วมวง “เอาด้วย” ไม่เท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่มั่นใจเครือข่ายแนวร่วมที่ถึงแม้วันนี้จะเข้าร่วมภารกิจหนุนแผนชู “บิ๊กตู่” ก็จริง แต่ในปมรัฐธรรมนูญมีโอกาสพลิ้วพลิกเหมือนกัน
รวมทั้งที่ไม่ชัวร์เอาเลย กับค่ายประชาธิปัตย์ มีโอกาสเกี่ยวจังหวะโหนกระแส
ยิ่งล่าสุด คนกลางๆอย่าง “เดอะป๋อง” สัญญา สถิรบุตร นักการเมืองเก๋าประสบการณ์ ทั้งเคยร่วมปลุกปั้นพรรคประชากรไทยยุครุ่งเรือง เคยร่วมค่าย ปชป. นั่งแท่น ผอ.พรรคประชาธิปัตย์มาแล้ว รวมทั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีมาหลายยุค
อีกปรมาจารย์การเมืองระดับซือแป๋ที่คนในวงการคุ้นเคย ออกมาขายไอเดีย “ทางออกประเทศไทย”
ทั้งเสนอระบบ “ลูกขุนสภา” มีที่มาจากทุกองค์กรในบ้านเมือง เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาขัดแย้งในระบบ และตัดสินโดยประชาชน สูตรล้างวิกฤติลุกลามสู่การชุมนุมบนท้องถนนแบบช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด “เดอะป๋อง” ชูแนวคิดกับขั้วฝ่ายต่างๆมาหลายเดือน กับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงกฎกติกาประเทศ ที่หลายฝ่ายมองว่ายังไม่เป็นประชาธิปไตย
ปลุกสูตรพิเศษ พรรคเพื่อไทย-ประชาธิปัตย์ พักรบชั่วคราว รวมตัวในรายการ “รวมการเฉพาะกิจ”
2 ค่ายใหญ่จับมือ “แก้รัฐธรรมนูญ”
เวลานี้เสียงตอบรับเริ่มดังเข้าหูทุกขั้วอำนาจ
โดยเฉพาะในห้วงที่ฝ่ายถือดุลท็อปบูตชักแกว่ง จากปัจจัยที่ขั้วการเมืองเริ่มคอนโทรลไม่นิ่ง และมีการโยนสูตรแชร์อำนาจ โมเดลรัฐบาลแห่งชาติ รัฐบาลเฉพาะกิจ รัฐบาลเฉพาะกาล ออกมาถี่ในห้วงนี้
อีกทางก็เลยมองเป็นสารพัดสูตรแก้ทาง-แก้ลำเกมท็อปบูต “รวบยาว”
ทำเอาขั้วอำนาจพิเศษ อาจต้องปรับหมากเหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: