PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2561

ปชป.จัดประชุมใหญ่’กก.บห.’แก้ข้อบังคับพรรค 26 ก.ย.นี้

ปชป.จัดประชุมใหญ่’กก.บห.’แก้ข้อบังคับพรรค 26 ก.ย.นี้ ‘มาร์ค’จวกคสช.ไม่เข้าใจงานการเมือง



ปชป.จัดประชุมใหญ่’กก.บห.’แก้ข้อบังคับพรรค 26 ก.ย.นี้ ‘มาร์ค’ ชี้ ‘จ้อน’ กลับสังกัดสมาชิกพรรค สามารถลงชิงเก้าอี้หน.ในโควตาคนในได้ จวกคสช.ไม่เข้าใจงานการเมือง มองแค่รวมตัวเพื่อมีอำนาจผ่านเลือกตั้ง ซัด ยิ่งจำกัดสิทธิ์ ยิ่งเอื้อพรรคซื้อเสียง

เมื่อวันที่ 17 กันยายน เวลา 11.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ชุดปัจจุบัน โดยมีกรรมการเข้าประชุมอย่างพร้อมเพียง ขาดเพียง 7 คนที่แจ้งลาติดภารกิจ อาทิ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน คุณหญิงกัลยา โสภณภนิช และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รองหัวหน้าพรรค น.ส.รัชดา ธนาดิเรก นายสรรเสริญ สมะลาภา เป็นต้น โดยอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนที่พรรคจะต้องดำเนินการ ทั้งทุนประเดิมและจำนวนสมาชิกพรรคได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการแก้ไขข้อบังคับพรรค เลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิก นายทะเบียน และกรรมการบริหาร รวมทั้งการจัดตั้งสาขาพรรค การเปิดรับสมาชิกใหม่ ซึ่งทุกอย่างต้องผ่านการพิจารณาของที่ประชุมใหญ่พรรค โดยจะต้องทำหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ทราบล่วงหน้า 5 วัน ตนจึงต้องขอมติจากที่ประชุม ซึ่งจะส่งหนังสือให้กกต.ทราบภายในวันนี้ สมาชิกครบตามกฎหมายกำหนด 4 ปี ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

จากนั้นเวลา 14.50 น. นายอภิสิทธิ์ แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้มีการจัดประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายพรรคการเมือง ในวันที่ 26 กันยายน เวลา 13.00 น. ที่ทำการพรรคปชป. โดยในวันนี้จะลงนามหนังสือเพื่อขอดำเนินต่อกกต. อย่างไรก็ตาม ร่างข้อบังคับขณะนี้เรียบร้อย โดยมีอุดมการณ์ของพรรค ซึ่งยืนหยัดตั้งแต่ ปี 2489 และนโยบายพรรคซึ่งจะเป็นฉบับย่อ เพราะต้องรอให้กก.บห.ชุดใหม่มาปรับปรุงอีกครั้ง เบื้องต้นประกอบความเหลื่อล้ำทางเศรษฐกิจ การศึกษา การกระจายอำนาจ การเมืองที่สุจริต ทั้งนี้ สิ่งที่จะยังไม่ทำในการประชุมวันดังกล่าว คือการเลือกหัวหน้าพรรค และกก.บห. เพราะเราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเราถึงออกรูปแบบการหยั่งเสียง เพื่อให้มีความเที่ยงธรรมมากที่สุด ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการออกระเบียบว่ารูปแบบหยั่งเสียงจะเป็นอย่างไร คาดว่าเรื่องดังกล่าวจะชัดเจนหลังที่ประชุมใหญ่มีมติเห็นชอบข้อบังคับพรรค ส่วนการหยั่งเสียงตัวผู้สมัครส.ส.จะมีหรือไม่นั้น ต้องดูกรอบระยะเวลา เพราะขณะนี้ทำได้แค่งานด้านธุรการเท่านั้น เพราะหากพูดไปแล้วก็ต้องทำ


นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับข้อบังคับพรรคนั้นที่ประชุมได้ทีการพูดถึงและมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมที่อาจจะต้องปรับปรุงแต่เบื้องต้นจะไม่มีการปรับปรุงในเชิงหลักการ โดยเฉพาะการหยั่งเสียงผู้ที่จะสมัครเป็นหัวหน้าพรรคปชป.สำหรับคนในนั้นจะต้องมีส.ส.สนับสนุนจำนวน 20 คน หรือ มีสมาชิกรับรองภาคละ 500 คน ส่วนโควตาของคนนอกนั้นจะเพิ่มเป็นสองเท่าคือจะต้องมีส.ส.สนับสนุนจำนวน 40 คน หรือสมาชิกรับรองภาคละ 1,000 คน ซึ่งรายชื่อผู้ที่ตกเป็นข่าวว่าจะลงชิงตำแหน่งกับตนก็เข้าข่ายเป็นคนในทั้งเพราะเคยเป็นทั้งอดีตส.ส.หรือรัฐมนตรี อย่างกรณีนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ ถ้ากลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก็สามารถใช้สิทธิ์โควต้าคนในได้

เมื่อถามว่าคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่คลายล็อกให้ถือว่ามีความชัดเจนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะบอกว่าไม่ชัดเจนก็คงไม่ได้เสียทีเดียว เพราะในเรื่องการหาสมาชิกพรรค ถ้าธรรมชาติการเมือง หากไม่ทำกิจกรรม หรือพูดโน้มน้าวก็หาสมาชิกได้ยาก สะท้อนให้เห็นว่า คสช.ไม่เข้าใจงานการเมือง เพราะงานธุรการกับงานการเมืองแยกจากกันไม่ได้ งานการเมืองไม่ใช่แค่หาเสียง แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องมีทัศนคติว่าพรรคการเมืองมีไว้หาเสียงเท่านั้น พรรคการเมืองที่ดีต้องทำงานตลอด ไม่ใช่รวมตัวเพื่อมีอำนาจผ่านกระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเสียดายที่คิดจะปฏิรูปการเมือง แต่กลับมองว่าพรรคการเมืองมีหน้าที่เพียงเท่านี้

“ไม่อยากให้มองการทำกิจกรรมเป็นการจำกัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่อยากให้มองว่าเป็นการจำกัดสิทธิ์ของประชาชนมากกว่า เพราะคนที่จะได้คะแนนบริสุทธิ์จากประชาชนต้องทำงานการเมือง ยิ่งจำกัดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่าไหร่ เท่ากับยิ่งช่วยพรรคการเมืองที่ไม่คิดจะได้คะแนนเสียงที่บริสุทธิ์ ให้ได้คะแนนมาโดยง่าย ผมฝากถามคสช.ว่าอยากได้การเมืองแบบไหน” หัวหน้าพรรคปชป.กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: