PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

ข้อจำกัด "ลุงตู่" ยากสุด

เอฟเฟกต์ของการ “ยกระดับ” เกมชิงกระแส

ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา รับสัญญาณจากนายกฯฮุน เซน เตรียมดำเนินการเพิกถอนพาสปอร์ต ยกเลิกหนังสือเดินทางทางการทูตที่เคยออกให้ชาวต่างชาติ

ในจังหวะสถานการณ์ที่โยงตรงกับปมที่ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้พาสปอร์ตเขมรเปิดบริษัทในฮ่องกง และไปนั่งแท่นประธานบอร์ดท่าเรือซัวเถา จีนแผ่นดินใหญ่

ตามอาการที่รัฐบาลกัมพูชา “ชิ่ง” มีปัญหากับทางการไทย

“นายใหญ่” เปิดเกมรุกการเมืองในประเทศไทย กระเทือนพื้นที่เคลื่อนไหวภายนอกประเทศ

เกมบีบ ไฟต์บังคับ แน่นอนเลยว่า นั่นคือเหตุที่มาของการขยับเปิดหน้าไพ่ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เปิดยุทธการ “กู๊ด มันเดย์” ขายตรงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ตามฟอร์มเก่ง โชว์วิชันเศรษฐกิจ ขายของเก่าประคองฐานลูกค้าเดิม

เหลี่ยมกระตุก “แบล็ก มันเดย์” ขย่มรัฐบาล “ลุงตู่”

ไล่ๆกันกับยุทธการประโคมข่าว “น้องปู” โชว์โกอินเตอร์ นั่งแท่นประธานบอร์ดท่าเรือซัวเถา เร้าอารมณ์เสียดาย ผู้นำเก่งๆมีฝีมือที่ไม่มีโอกาสทำประโยชน์ให้บ้านเมือง

ตามท้องเรื่อง “นายใหญ่” กับ “น้องปู” ต้องออกโรง เล่นหน้าฉากเอง

สะท้อนเงื่อนสถานการณ์ “ทักษิณ” ทิ้งไพ่ตาย ใส่ “เดิมพัน” หมดหน้าตักตั้งแต่ยังไม่ทันรู้วันเลือกตั้งชัวร์

โดยรูปการณ์มันอ่านไต๋ได้ว่า “นายใหญ่” ไม่ชัวร์กับทีม “นอมินีภาค 3” ตามฉากที่เห็น “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง เร่งเครื่องไม่ขึ้น ต้องสลับฉากหลบให้ “เดอะทริป” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ “รัฐมนตรีที่แกร่งสุดในปฐพี” มาเป็นแคนดิเดต ช่วยลากกระแสแห่เรตติ้ง

แต่เจอโจทย์หิน “อุ้มทักษิณกลับบ้านรอบที่ 4” ก็นิ่งไปเลย

ศึกพลิกขั้วชิงอำนาจคืนยังตั้งลำไม่ติด ขณะที่ตระกูลชินวัตรโดนต้อน “จนกระดาน”

สถานการณ์แบบที่ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หายเข้ากลีบเมฆ ในจังหวะคดีทุจริตจำนำข้าว จีทูจีภาค 2 จ่อลากถึงตัวการใหญ่ ไล่ๆกับ “เสี่ยโอ๊ค” นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายหัวโปรดของ “ทักษิณ” ก็ถูกจับตาการขออนุญาตศาลออกนอกประเทศไทย ในห้วงคดีทุจริตปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยให้กลุ่มกฤษดามหานคร กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มขึ้นทุกขณะ

“นายใหญ่” เปิดเกมรุกหนัก แก้สถานการณ์ “ตั้งรับ” สุดซอย

อารมณ์เดียวกับจังหวะรุกเพื่อกลบ “รอยรั่ว” ของทีมประชาธิปัตย์ ที่จับกระบวนท่า “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้ากระชับพื้นที่อำนาจการคุมพรรค หลังจากเกมเลือกจ่าฝูงทำเครดิตหายไปอื้อ

โดยเฉพาะพื้นที่ กทม.ที่รีบชิงเปิดโฉมผู้สมัครครบ 30 เขตก่อนใคร

โชว์ฟอร์มแชมป์เก่าตีกินกระแส แต่เบื้องหลังแว่วๆเสียงจากหน่วยหน้ารถหาเสียงของประชาธิปัตย์ สถานการณ์ท่อน้ำเลี้ยงไม่ไหล กระแสไม่ช่วยส่ง “อภิสิทธิ์” นำทีมรักษาพื้นที่ กทม.ได้แค่ 10 ที่นั่งก็เก่งแล้ว

แถมแนวโน้มวิกฤติสุดของประชาธิปัตย์ก็คือฐานที่มั่นปักษ์ใต้ สถานการณ์แบบที่เห็นปรมาจารย์ “ชวน หลีกภัย” ต้องลงไปปักหลักบ้านเกิดจังหวัดตรัง

ท่ามกลางกระแส “คนใต้ต้องเปลี่ยนแปลง” แรงแบบมีนัยสำคัญ

“ทักษิณ” กับทีม “อภิสิทธิ์” ต้องสู้ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัดเหมือนกัน

แต่นั่นก็ดูจะง่ายและเบากว่า เมื่อเทียบกับข้อจำกัดแบบ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ดูท่ามาถึงตรงนี้ก็ยังจูนกับทีมนักการเมืองอาชีพในค่ายพลังประชารัฐไม่ติด

ผิดคิวทั้งเรื่องห้ามอ้างชื่อหาเสียง มาถึงนโยบาย “ส.ป.ก.ทองคำ”

และเหนืออื่นใด โดยข้อจำกัดแบบ “ลุงตู่” ที่ทำให้นักเลือกตั้งอาชีพเริ่มลังเล ถอนคันเร่ง ก็น่าจะเป็นเรื่องเพื่อนพ้องน้องพี่ รัฐมนตรีสีเขียว สีกากี ใน ครม.ที่ยังเกาะเอวลุ้นขอไปต่อ

ท็อปบูตเบียดแย่งซีนนักการเมือง เสี่ยงวงแตก

ทั้งๆที่ว่ากันตามเนื้อผ้า ประเมินกันสดๆร้อนๆอารมณ์แบบที่ “นายกฯลุงตู่” สะบัดหน้าหนีนักข่าว “เฮ้ย ขี้เกียจฟัง” เมื่อโดนถามเรื่อง “ทักษิณ” ชวนฟังไลฟ์สดทุกวันจันทร์

จุดเดือดต่ำ ยั่วแล้วตบะแตกทุกที

เหลี่ยมคูทางการเมือง ยังเป็นเรื่องที่ทหารอาชีพอย่าง “ลุงตู่” นิ่งสู้นักเลือกตั้งอาชีพไม่ได้

แม้แต่มวยซุ่ม มาดนิ่มๆ ติ๋มๆอย่างนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่ล่าสุดซัดกลับวาทกรรม “อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ”

ไล่พรรคเพื่อไทยไปถามนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ใครกระเป๋าตุงจากโกงจำนำข้าว

เล่นเอาทีม “นายใหญ่” จุกอกไปตามๆกัน

มันเป็นสัญชาตญาณที่เพื่อนพ้องน้องพี่ “บิ๊กตู่” ไม่มี.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: