PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562

"รู้แก่ใจใครฆ่า" บ้านในลาวถูกรื้อ ก่อนอุ้มหาย "สุรชัย พร้อมสหาย" ตายแล้ว

"รู้แก่ใจใครฆ่า" บ้านในลาวถูกรื้อ ก่อนอุ้มหาย "สุรชัย พร้อมสหาย" ตายแล้ว

ไม่ใช่แค่เพียงครอบครัวของนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กลุ่มแดงสยามหัวรุนแรง ที่หลบหนีการจับกุมเข้าไปอยู่ในประเทศลาวตั้งแต่ปี 2557  เพราะขณะนี้มิตรสหาย คนเสื้อแเดงคนที่ติดตามรายการวิทยุเขาอยู่ตลอด ยังคงเคลื่อนไหวระบายความอาลัยในโลกโซเชียล และเกาะกลุ่มรวมตัวรอการกลับมาของ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ จนกระทั่งถึงวันนี้ ทุกคนมั่นใจว่า "เขาเสียชีวิตแล้วพร้อมกับสหายรวม 3 ศพ" 

ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มเครือข่ายเฟชบุ๊กกลุ่มปิด สะดุดตากับข้อความของคนสนิทซึ่งเป็นคนไทย หลายคน และอาศัยอยู่ในฝั่งลาวด้วยกัน ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการถูกอุ้มของ 3 สหาย

ย้อนไทม์ไลน์คนสนิทในประเทศลาว หลัง"สุรชัย"ถูกอุ้มหายไป  

ผมรู้หลายคนอยากได้ยินเรื่องราวจากปากของผม แต่สารภาพเลยว่า ความรู้สึกของผมมันจุกอก อยากพูดมากแต่พูดอะไรไม่ออก มันตื้อ มันมึนไปหมดแล้ว อาจารย์สุรชัย ผู้เป็นหัวหน้าใหญ่ เป็นเหมือนพ่อของผมได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผมก็เป็นคนที่ใกล้ชิดอาจารย์อีกคนหนึ่ง แม้ว่าจะอยู่ห่างกัน แต่ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ผมจะไปหา วันนี้ผมไม่รู้ว่าจะไปหาอาจารย์ได้อย่างไร อยู่ที่ไหน ขอให้อาจารย์ปลอดภัยนะครับ จะตามหาทุกวิถีทาง แม้ว่าจะเลือนรางเต็มที (บอกเล่าเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561)
สุรชัย ตอนหนุ่มๆ
#ช่วงลี้ภัยใหม่ๆ ผมต้องมานอนเฝ้าบ้านที่ อ.สุรชัย แกเช่าใหม่ ต้องปรับปรุงสภาพบ้านใหม่ทั้งหลัง ขับรถไปรับ-ส่ง แกทุกวัน จนกว่าจะปรับปรุงบ้านเสร็จ พออาจารย์ย้ายมาอยู่ ผมก็นอนเฝ้าหน้าห้องทุกวัน จนกระทั่งแกย้ายไปอยู่ที่ใหม่ ผมไม่ได้ตามแกไป วันนี้ผมไม่เห็นแม้กระทั่งเงาของแก ผมจนปัญญาจริงๆ 16 วันผ่านมาแล้ว ผมยังติดต่อไม่ได้เลย ใครที่อ้างว่าแกปลอดภัยดีช่วยบอกแกหน่อยว่า "......" อยากฟังเสียงของแกจากปาก จะได้สบายใจซักที วันนี้ผมคิดว่าแกถูกอุ้มครับ ขอให้ผมคิดผิดทีเถิด #นักรบของประชาชนไม่มีวันตาย (เล่าไว้เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2561)  
กระทั่งวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา เขายังกล่าวถึงด้วยว่า "อาจารย์สุรชัย หายไป 1 เดือนแล้วยังไม่มีใครติดต่อได้เลย จากรูปการณ์และสถานที่เกิดเหตุ ผมวิเคราะห์ตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าถูกอุ้ม ไหนใครบอกว่าปลอดภัย ช่วยส่งสัญญาณบอกที ว่าอาจารณ์อยู่ไหนตอนนี้ "
ความรู้สึกจากคนไทยในฝั่งลาว ได้ถูกถ่ายทอดอีกครั้งเมื่อ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา วันที่ 23 มกราคม 2562 ระบุข้อความว่า  #ผมเข้าใจที่อาจารย์มักจะกล่าวว่า ตัวเองสู้มาตั้ง 40 กว่าปีแล้ว บางคนชอบบอกว่าอาจารย์ยกตนข่มท่าน แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น ผมมองว่านั่นคือสิ่งที่อาจารย์อยากจะบอกว่า 40 กว่าปีที่ผ่านมา ผ่านการตรวจสอบจากมวลชนมาแล้วว่าของจริง เพราะว่าการพูดยกย่องตัวเองนั้นใครๆ ก็พูดได้ แต่การที่คนอื่นยอมรับและเชื่อฟัง มันต้องผ่านอะไรมากมาย ทั้งข้อกล่าวหา ทั้งคำนินทาแต่ก็ผ่านมาได้เพราะว่าเป็นของจริง คำสอนของอาจารย์จะยังอยู่ต่อไป และจะไม่มีวันหายไปจากใจองทุกคน รวมทั้งผมเอง คุณสมบัติของนักปฏิวัติ 6 ข้อ จะต้องทำให้ได้ครับ 

พิรุธปมอุ้มฆ่า ศพลอยน้ำไร้วิญญาณเชื่อว่าเป็น "สุรชัย แซ่ด่าน" 

ในขณะที่กลุ่มมิตรสหายของสุรชัย แซ่ด่าน อีกคนหนึ่งได้เปิดเผยข้อมูลว่า "ภาพศพนี้โพสต์โดยเจ้าหน้าที่ นรข. คนหนึ่ง เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 61 โดยระบุว่า ว่าพบศพชายไทยไม่ทราบสัญชาติ ลอยอืดโผล่ติดริมตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน คาดว่าน่าจะเป็น "สุรชัย แซ่ด่าน"
เป็นศพแรกที่พบ ไม่ใช่ศพที่ 3 อย่างที่เข้าใจกัน แต่ในเวลานี้ศพนี้ได้หายไปแล้ว (อาจจะเป็นการสั่งการโดยเร่งด่วน เพราะเป็นศพแรก และคงไม่คาดคิดว่าจะมีศพที่ 2 และ 3 โผล่ตามมาฟ้องอีก)
ส่วนศพที่ 2 พบวันที่ 27 ธันวาคม 61 ลอยมาติดริมฝั่งโขง ช่วงหน้าวัดหัวเวียง ใกล้ตลาดนัดไทย-ลาว ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม ญาติรีบเข้ามาติดต่อและได้ทำการพิสูจน์ผลตรวจ DNA ยืนยันว่าคือ สหายภูชนะ หรือนายชัชชาญ บุปผาวัลย์
สำหรับศพที่ 3 พบวันที่ 29 ธันวาคม 61 ที่บริเวณตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านสำราญเหนือ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับผลตรวจ DNA ยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคือศพของ สหายกาสะลอง หรือนาย ไกรเดช ลือเลิศ ณ บัดนี้ ยังไม่ทราบว่าศพแรกของ สุรชัย แซ่ด่าน ตอนนี้ไปอยู่ ณ ที่ใด ทั้ง 3 ศพได้รับการยืนยันจากคนในพื้นที่ รวมทั้ง สื่อกระแสหลักๆ ในเวลานั้น ว่ามีทั้งหมด 3 ศพ สภาพศพถูกกระทำคล้ายคลึงกันทั้งหมด
คือ ถูกฆ่าโหดเหี้ยม ลำคอถูกรัดด้วยเชือกป่านขนาดใหญ่ ถูกของแข็งทุบหน้าเละ คว้านท้องจนไม่เหลือเครื่องใน ยัดด้วยเสาปูนยาว 1 เมตร เพื่อให้มีน้ำหนักถ่วงน้ำ ใส่กุญแจมือไขว้ด้านหน้า ห่อด้วยกระสอบป่านเย็บติด 2-3 กระสอบ ห่อหุ้มด้วยตาข่าย แล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำโขง
ภาพทั้ง 3 ที่กล่าวถึงในเรื่อง

เขาคือใคร ‘สหายกาสะลอง’ คนสนิท สุรชัย แซ่ด่าน 

จากกรณีที่พบ 2 ศพที่ถูกฆ่าถ่วงแม่น้ำโขงอย่างโหดเหี้ยม เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา ก่อนทราบผลตรวจดีเอ็นเอ 2 ศพ ภายหลังยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ สหายกาสะลอง และ สหายภูชนะ (นามแฝง) คนสนิท นายสุรชัย แซ่ด่าน หรือ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำคนสำคัญในการผลักดันระบอบประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นับตั้งแต่การรัฐประหารของคสช.เมื่อปี 2557 และขาดการติดต่อจากญาติในช่วงปลายปี 2561 
"สหายกาสะลองคือนามแฝง" ชื่อนามสกุลจริงคือ นายไกรเดช ลือเลิศ อายุ 47 ปี เป็นคน อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยกำเนิด เริ่มเข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งแต่ปี 2551 สนใจแนวคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแบบประชาธิปไตย พบและรู้จักสนิทสนมกับ อาจารย์สุรชัย แซ่ด่าน ในกลุ่มผู้ชุมนุม คบหากันมาต่อเนื่องไม่เคยทิ้งกัน ความสัมพันธ์เสมือนพ่อกับลูก
บุคลิกส่วนตัวของสหายกาสะลอง จะเป็นคนเงียบเชียบ มีความสนใจในข้อมูลข่าวสารของบ้านเมือง เชี่ยวชาญด้านระบบไอที ช่วยเหลือด้านการถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ เวลาอาจารย์สุรชัยพูดให้ความรู้ต่อระบอบประชาธิปไตย ผ่านสมาร์ทโฟน กล้องวงจรปิด หรือโน้ตบุ๊ก แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวตน ทั้งตอนที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศ ที่ร่วมลี้ภัย ทางการเมือง กับอาจารย์สุรชัย และเพื่อน ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 57 ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก เพราะรู้ทันทีว่าจะมีการยึดอำนาจ
สหายกาสะลอง ในวงกลมแดง
โดยช่วงลี้ภัยก็ทำหน้าที่ วางระบบถ่ายทอดสดผ่านเครือข่ายออนไลน์ ทำหน้าที่คนหนุ่มประคับประคองร่วมกับอาจารย์สุรชัยเสมอมา มีการย้ายที่อยู่สลับไปมาละแวกเพื่อนบ้านสองประเทศ ก่อนจะพบเสียชีวิตที่แม่น้ำโขง จากนี้ ก็จะประกอบ พิธีกรรมตามศาสนา และนำอัฐิ กลับบ้านเกิด ที่ จ.เชียงราย ต่อไป

คนสนิท โพสต์ข้อความพิสูจน์ความจริง ฆาตกรรม 3 ศพ 

#ทวงความเป็นธรรมให้กับอาจารย์สุรชัย #สหายกาสะลอง และ #สหายภูชนะ
ต่อไปนี้เป็นภาพที่มีการส่งมาให้จากนครพนม เพื่อให้ช่วยกันพิสูจน์ความจริงของการฆาตกรรมโหดอันน่าสะเทือนขวัญครั้งนี้ รูปทั้งสามนี้ คือภาพศพแรกที่มีการพบเห็นเมื่อ 26 ธันวาคม ที่ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ. นครพนม การฆาตกรรมโหด 3 ศพที่โผล่ที่จังหวัดนครพนมนั้น สภาพภายนอกทั้งสามศพเหมือนกัน
และในสองศพที่มีการพิสูจน์หลักฐานและเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีสภาพแบบเดียวกัน คือ ศพถูกใส่กุญแจมือ มัดเท้า ทุบหน้าตาจนเละ คว้านท้องยัดท่อนคอนกรีตขนาดหนึ่งเมตรเพื่อถ่วงน้ำหนักแล้วห่อหุ้มด้วยกระสอบมัดปิดโดยรอบอย่างแน่นหนา แล้วโยนศพทิ้งลงแม่น้ำโขง
ชาวประมงเจอศพ
"ชาวประมงพบศพลอยกลางแม่น้ำโขงที่บริเวณท่าจำป่า อ.ท่าอุเทน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ก่อนที่จะมีการพบศพที่สองที่บริเวณหลังวัดหัวเวียง ต.ธาตุพนม หมู่ 2 อ.ธาตุพนม เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม และเมื่อมีการพบศพที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ที่บริเวณริมฝั่งโขงบ้านสำราญเหนือ หมู่ ต.อาจสามารถ ศพนี้คือศพที่ปิดข่าวไม่มิด มีสื่อไปถ่ายภาพทำข่าวทั้งสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อทีวี"

 ฆาตกรรมตามคำสั่ง ต้องการเก็บงานแบบหมดจด

มีการอ้างว่า ศพที่สามคือศพแรกที่หลุดลอยมาจาก อ.ท่าอุเทน แต่มันน่าสงสัยยิ่ง เพราะว่าเชือกที่ผูกศพไว้รอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบนั้น เป็นเชือกขนาดใหญ่เช่นนี้ จึงไม่มีทางที่ศพจะหลุดลอยไปเองได้ นอกจากมีคนจัดการกับศพ มีผู้ให้การสังเกตไว้ว่า การฆาตกรรมแบบนี้ไม่น่าจะใช่การฆาตกรรมของคู่แค้น ที่คงไม่เสียเวลามาจัดการกับศพแบบนี้ แต่น่าจะเป็นการฆาตกรรมตามคำสั่ง ที่ต้องการเก็บงานแบบหมดจดเพื่อรายงานลำดับเบื้องบนต่อไป
การหายไปของทั้งสามคน สอดคล้องกับข่าวและข้อมูลที่หนักแน่นว่า มีกระบวนการต้องการกำจัดผู้ลี้ภัย 112 ชาวไทย 
การที่ทั้งสามศพ โผลที่แม่น้ำโขงในฝั่งไทยในเวลาไล่เลี่ยกัน มันชวนให้ต้องสงสัยอย่างยิ่งว่าเป็นสามศพผู้ลี้ภัยการเมืองไทยทั้ง 3 คน คือ สุรชัย กาสะลอง และภูชนะ ที่ถูกอุ้มหายไปจากบ้านพักเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561
ศพถูกฆ่าโหด โยนแม่น้ำโขง

เรียกร้องความเป็นธรรมแก่ผู้ลี้ภัยการเมืองทั้งสาม

ถ้าทั้งสามศพคืออาจารย์สุรชัย แซ่ด่าน และสหายทั้งสองจริง นี่คือการวิสามัญฆาตกรรมที่กระทำกับคนเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่โหดร้ายป่าเถื่อนยิ่งนัก มันจึงจำเป็นยิ่งที่จะต้องเรียกร้องความเป็นธรรม เรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของการหายไปของศพแรก และทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้ลี้ภัยการเมืองทั้งสามคนกันอย่างจริงจัง

ประเทศลาว เข้า-ออก ง่าย รู้ดีแก่ใจว่าใครอุ้มไปฆ่า 

การเข้าไปจับผู้ร้ายข้ามแดนของผู้มีอิทธิพลจริงๆ แล้ว ประเทศลาวถือว่าเข้าออกง่ายสุด ง่ายกว่าพม่า และเขมร เสียอีก ที่สำคัญทั้ง 3 คนที่หายตัวไป อาศัยเช่าบ้านอยู่กันลำพัง ไม่ได้มีแบ็กหลังหรือคนคุ้มครอง ไม่มีการส่งท่อน้ำเลี้ยงจากขั่วอำนาจเก่า เงินที่ได้ส่วนใหญ่น่าจะมาจากแฟนรายการประจำ แฟนคลับที่ฟังวิทยุโอนเงินมาให้ใช้ ทุกคนอยู่อย่างลำบาก เคยมีกลุ่มไฟเย็น หนีข้ามแดนไปอยู่ด้วย สุดท้ายบางคนต้องกลับมา เพราะมันอยู่อย่างยากลำบากมาก
"เคยมีคนจัดเตะฟุตบอลการกุศล หาเงินช่วยเหลือ สุรชัย แซ่ด่าน โดยมีคนไทยนำเงินเข้าไปให้ที่ประเทศลาว แต่การจัดเตะฟุตบอลนี้ เป็นการจัดแบบเงียบๆ เพราะไม่อยากให้ทหารติดตามความเคลื่อนไหว เนื่องจากในขณะนั้นเป็นช่วงยึดอำนาจใหม่ๆ ข่าวที่ออกไปว่า มีขั้วอำนาจเก่าส่งเงินให้ใช้ ไม่น่าจะใช่เรื่องจริง เพราะนอกจากเขาจะป่วยมากแล้ว ยังใช้ชีวิตบั้นปลายที่ไม่สบายนัก และไม่มีอาชีพทำกินเป็นในประเทศลาว ตอนนี้แม้แต่ป้าน้อย ภรรยาเขาเองก็เชื่อว่า สามีตายแล้ว และสหายทุกคนก็รู้ดีแก่ใจว่าใครเป็นคนเข้าไปอุ้มฆ่า"  คนสนิทกับสุรชัย ให้ข้อมูลเรา ทิ้งท้าย ไว้แบบนี้

ไม่มีความคิดเห็น: