PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ถ้าได้นั่ง'นายกฯ'! 'บิ๊กตู่'พูดแล้ว อยากทำรัฐบาลอนาคตออกมาดีที่สุด

ถ้าได้นั่ง'นายกฯ'! 'บิ๊กตู่'พูดแล้ว อยากทำรัฐบาลอนาคตออกมาดีที่สุด

"บิ๊กตู่"โยน"พปชร."จัดทัพส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เอง เผยอ่านนโยบายพรรคไปเยอะพบหลายเรื่องทำไปแล้ว จ่อถามจะต่อยอดให้ดีกว่าของเดิมอย่างไร ลั่นวันนี้ใช้รัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ ฟุ้งถ้าได้นั่งนายกฯต่อจะให้ครม.ทำดีที่สุด แต่ก็เผื่อใจหากไม่เป็นต่อ

5 ก.พ.62 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณานโยบายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ตนกำลังดูอยู่ นำนโยบายมาศึกษา ก็อ่านไปได้เยอะแล้ว หลายๆ อย่างก็ทำกันแล้ว ส่วนเขาจะทำให้ดีต่อไปอย่างไรก็ไปดูอีกครั้ง ก็ต้องถามเขาอีกทีว่าจะทำอย่างไร ซึ่งตนจะพิจารณาไม่เกินวันที่ 8 ก.พ.ขอให้เวลาตนบ้าง เพราะตนก็ทำงานอย่างอื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นการเฉพาะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องทำอะไร นั่งดูเรื่องนี้เรื่องเดียว มีร้อยแปดพันเรื่องที่ต้องทำในการเป็นนายกฯ และรัฐบาล ในเวลานี้ประชาชนต้องการดูแลการขับเคลื่อนประเทศ รัฐบาลก็ทำการอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่หยุดอันนี้เพื่อไปทำอะไรอย่างเดียว มันไม่ใช่ ต้องทำหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ไม่พอใจรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีคดีความติดตัวอยู่ในลำดับต้นๆ จะเป็นเงื่อนไจในการตอบรับเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ ผมยังไม่เห็น ก็แล้วแต่พรรคเขาทำ ไม่เกี่ยวกับผม เพราะผมยังไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคการเมืองเลย เขามีกำหนดการส่งรายชื่อของเขาอยู่แล้ว ทำไมผมจะต้องไปเกี่ยวกับเขาด้วยหล่ะ ประชาชนก็ช่วยกันดูแลหน่อยแล้วกันว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม เราต้องคิดถึงเรื่องการปฏิรูปเรื่องการเมือง การปรองดองสมานฉันท์ เราก็ต้องดูว่าคนที่เข้ามาทำงานการเมืองวันนี้ มีใครบ้างที่ปรองดองสมานฉันท์ ไม่ใช่ต่อยตีกันตลอดเวลาก็ไปไม่ได้หมด วันหน้าการเลือกตั้งถึงจะได้รัฐบาลมา จะได้ความเชื่อมั่นหรือไม่ถ้าเรากันเองไม่เชื่อมั่นกันตรงนี้ ทุกคนต้องนึกถึงประเทศชาติเป็นหลัก
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ตนใช้รัฐศาสตร์นำนิติศาสตร์ทุกอย่าง ไม่ใช้นิติศาสตร์นำรัฐศาสตร์อยู่แล้ว เราเอากฎหมายมาเป็นตัวตั้ง แต่เราก็ต้องพิจารณาหาทางออก จะทำอย่างไรไม่ผิดกฎหมายและปฏิบัติได้ อย่าคิดว่าออกกฎหมายแล้วกฎหมายจะปฏิบัติได้ ถ้าปฏิบัติไม่ได้กฎหมายที่ออกมาก็ล้มเหลว กฎหมายบางตัวที่ออกมาใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหาแต่ละจุด แต่การจะแก้ทีเดียวทั้งระบบอาจจะต้องลดลงบ้าง เอาประเด็นหลักมาก่อน แล้วประเด็นอื่นๆ ก็มีการแก้กฎหมายได้ทุกรัฐบาลเพื่อให้ดีขึ้น ไม่ใช่เขียนกฎหมายฉบับนี้แล้วจะให้เป็นประวัติศาสตร์ไปเลยคงไม่ใช่ กฎหมายทุกตัวต้องพัฒนาให้ดีขึ้น สร้างผลกระทบให้น้อยที่สุดไม่ใช่เป็นห่วงว่าอำนาจรัฐจะลดน้อยลง แต่ตนเกรงว่าการออกกฎหมายมาเพื่อหวังดีกับคนนี้ รวมถึงมีมาตรการลงโทษต่างๆ แต่มันจะมีผลกระทบกับผู้ที่มีรายได้น้อยไปด้วย ตนคิดละเอียดทุกอัน ไม่คิดเอาง่าย
เมื่อถามย้ำว่า การพิจารณาตอบรับเป็นนายกฯ ในบัญชีพรรคพลังประชารัฐ ได้มีการพิจารณาผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่งมีกระแสข่าวว่านายกฯ ไม่พอใจใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น เมื่อถามอีกว่า จะต้องนำรายชื่อ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคมาพิจาณาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับตน เป็นเรื่องของพรรค ก็ทำไปสิ ส่วนเรื่องของตน คือ จะไปร่วมให้เขาเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในบัญชีหรือไม่ สมมุติถ้าตนตอบรับให้พรรคเสนอชื่อ แล้วเป็นนายกฯ ขึ้นมา อะไรที่ต้องทำก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจน ถึงตอนนั้นก็มีคนมาร่วมรัฐบาลก็คือรัฐบาลอนาคต ถ้าตนได้อยู่ตรงนั้นก็จะทำให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อะไรที่ไม่ดีก็ขอร้องว่าอย่าทำกันอีกเลย ต้องสอนคนแบบนี้
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ เผื่อใจไว้สำหรับการไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ผมเผื่อทุกเรื่อง ผมพร้อมทุกอย่าง จะทำอะไรก็ได้ ผมก็ติดอยู่อย่างเดียว คือ ภาระดูแลประเทศชาติมาสามสี่ปี มีอะไรดีขึ้นตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ก็มีอะไรที่ไม่ได้ทำตั้งเยอะตั้งแยะเหมือนกัน อะไรที่ประชาชนคาดหวังก็อยากทำให้ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเลือกตั้งใคร"
เมื่อถามว่า นอกจากเรื่องนโยบายพรรค สถานการณ์บ้านเมืองถือเป็นปัจจัยที่ต้องพิจาณาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมือง ก็ไม่มีข่าวสารอะไรที่มันทำให้สับสนอลหม่าน ทุกคนก็ร่วมมือกันดี เว้นแต่ถ้ามีใครทำให้วุ่นวายประชาชนก็ไปว่ากันเอาเอง มันต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว จะไปทำอะไรได้ และสถานการณ์วันนี้ถือว่าปกติ อย่าพูดให้มันไม่ปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกฯ ได้ยกเครื่องวัดคุณภาพอากาศมาวัดอากาศบริเวณที่นายกฯ ยืนให้สัมภาษณ์อยู่ พร้อมกับกล่าวว่า "พอมีคำถาม 2 คำถาม ตัวเลขก็ขึ้นมา 32 แล้ว"

ไม่มีความคิดเห็น: