PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

ใครยื้อคดีพันธมิตร

ขึ้นศาลมาห้าปี วันนี้เริ่มเห็นแสงปลายอุโมงค์
วันนี้ใช้เวลาอยู่ในห้องพิจารณาคดีในศาลอาญากว่าแปดชั่วโมง สว.อย่างเราพอรับได้ แต่แกนนำสูงวัยทีถูกเบิกตัวออกมาเรือนจำพิเศษ อาทิ ลุงจำลอง ลุงพิภพ ลุงสมศักดิ์ อาจารย์สมเกียรติ และ น้องสุริยะไสย น่าเห็นใจอยู่ไม่น้อย ลุงจำลอง สุขภาพก็ร่วงโรยตามวัย ลุงสนธิ ลุงสมศักดิ์ ลุงพิภพ อ.สมเกียรติ และ สุริยะไสย ถึงแม้อยู่สภาพทุกขเวทนาแต่ทุกท่านมีกำลังใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใสไม่ทำหดหู่มากนัก
แกนนำพันธ์มิตรที่ถูกศาลตัดสินจำคุกคนละ 8 เดือน เป็นจำเลยร่วมกับแนวร่วมพันธมิตร 98 คน ในคดีพันธ์มิตรชุมนุมประท้วงไล่รัฐบาลโนมินีของทักษิณที่สนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิปี 2551 จำทั้งหมดถูกเหมารวมข้อหาก่อการร้าย เนื่องด้วยจำเลยมากเกือบร้อยคนถูกฟ้องในสำนวนเดียวกันการดำเนินคดีจึงล้าช้ามาแล้วกว่าห้าปี เพราะคดีที่มีโทษสูงถึงประหารชีวิต ต้องสืบพยานต่อหน้าจำเลยหมดพร้อมกัน ห้าปีที่ผ่านมาจำเลยมาพร้อมกันทุกคนเพียงนัดเดียวและสืบพยานได้เพียงครึ่งปากจากจำนวนพยานพันกว่าคน
ผู้พิพากษาที่เพิ่งรับช่วงพิจารณาคดี เห็นว่าความล่าช้าไม่เป็นธรรมแก่จำเลยและทุกฝ่ายจึง พยายามหาลู่ทางแง่มุมกฎหมายให้คดีดำเนินได้อย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนมีทนายและจำเลยบางท่านไม่เห็นด้วย พยายามขัดขวางยกแม่มุมกฎหมายขึ้นโต้แย้ง ราวกับว่าจงใจจะยื้อให้การพิจารณาคดีออกไปให้นานที่สุดเท่าที่ทำได้ จนสุดท้ายศาลใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งการพิจารณารวดเร็วได้ โดยจัดวันสืบพยานคดีใหม่จาก สองสามเดือนต่อหนึ่งนัด เป็นนัดสืบพยานทุกๆวันอังคาร-พุธ ตั้งแต่เดือนมิ.ย. ถึง เดือน สิงหาคม โดยตั้งเป้าหมายให้ตัดสินคดีได้ภายในปีนี้
การยื้อกันในแง่มุมกฎหมายที่เสียเวลามาแล้วกว่าห้าปี ทำให้ผู้พิพากษากำหนดวันสืบพยานทุกๆอังคาร พุธ ทุกสัปดาห์ตั้งเดือน มิ.ย. ทำให้เกิดการโต้แย้งจากทนายและจำเลยบางรายสุดท้ายศาลสั่งให้ทำหนังโต้แย้งมาเป็นลายลักษณ์อักษร และ พิจารณาคำร้องในวันที่ 3 พ.ค
เราไม่ทราบเจตนาของการยื้อคดีให้นานออกไป แต่ด้วยความจริงใจและมั่นใจว่าเราไม่เป็นก่อการร้ายจึงได้แต่ภาวนา ให้การนัดพิจารณาคดีไม่เปลี่ยนจากศาลกำหนดไว้วันนี้ ถ้าเป็นตามที่ศาลกำหนดภายในปีนี้ต้องผลออกมา ว่าจะยกฟ้องหรือสั่งลงโทษ แต่ไม่ว่าผลจะออกสถานใดเราพร้อมเต็มใจคำตัดสินของศาลยุติธรรม
“นี้คือสิ่งเห็นว่าห้าปีที่ขึ้นศาลได้เห็นแสงปลายอุโมงค์ริบหรี่ในวันนี้ เพราะห้าปีที่ผ่านมาไม่เคยรู้ชะตาต้องขึ้นศาลไปอีกกี่สิบปี

ไม่มีความคิดเห็น: