PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562

ชัวร์ล็อกสเปคกันแล้ว

กองแช่ง” โห่ฮา เซ็งไปตามๆกัน

ล่าสุด พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยผลการสอบสวนคำร้องเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ จากการตรวจสอบนิติบุคคล 40 ราย และบุคคล 84 คน ไม่พบการบริจาคจากต่างชาติ

จึงถือว่าไม่มีความผิดที่จะเข้าข่ายยุบพรรค โดยจะสรุปเรื่องดังกล่าวส่งให้ กกต.ต่อไป

“พลังประชารัฐ” รอด หนีไม่พ้นเสียงก่นด่า 2 มาตรฐาน

โดยอาการของทีมดูไบและพรรคการเมืองฝ่ายโหนประชาธิปไตยที่จ้องตัดแต้มต่อของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องช่วยกันตีปี๊บ รัวเกราะเคาะไม้

ประจานการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมของเผด็จการทหาร

แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย ในเมื่อโดยท้องเรื่องพลังประชารัฐไม่ได้ผิดจะจะ แบบจงใจเล่นกับไฟเหมือน “บิ๊กเซอร์ไพรส์” พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)

จะให้ลากเป็นโทษหนัก “ตายตกตามกัน” มันก็ใช่ที่

และก็ไม่ยอมตายง่ายๆเหมือนกัน กับสถานการณ์ดิ้นหาช่องหายใจของทีมพรรคไทยรักษาชาติ

หาโอกาสฟื้นคืนชีพไม่ยอมสูญสลายหลังโดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

ตามปรากฏการณ์สะท้อนจากยุทธศาสตร์ จังหวัดแพร่ “เสี่ยแมว” นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล อดีตแกนนำและผู้สมัคร ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักษาชาติ

จัดฉากชาวบ้านกองเชียร์รณรงค์ “โหวตโน” ล่วงหน้า

เป้าหมายเพื่อให้แต้มช่องประสงค์ไม่ลงคะแนน เหนือกว่าคนที่ได้ที่หนึ่ง ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ แล้วจะเป็นโอกาสให้ผู้สมัครคนอื่นของพรรคตระกูลเพื่อ ลงสมัครยึดพื้นที่ภายหลัง

หรือกับมุกแบบที่นางฐิติมา ฉายแสง ผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคไทยรักษาชาติ ประกาศชัด พร้อมจัดรถหาเสียงวิ่งขอโอนคะแนนกองเชียร์ไปให้ผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่

โหนแนวร่วมประชาธิปไตยต้านทหารตามสูตรสำเร็จทีมดูไบ

“นายใหญ่” ไม่ยอมให้แต้มหาย ยุทธศาสตร์ทีม ทษช.แต่ละพื้นที่ “ขายผ้าเอาหน้ารอด” ตามวิธีที่คิดได้

สถานการณ์ต่อเนื่องกับการรุมทึ้งซากของ ทษช.

เสียงของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ประกาศโปรดฟังอีกครั้ง ไม่สนับสนุน “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สืบทอดอำนาจ

เป็นไพ่ใบสุดท้ายของคนที่แทบไม่เหลือโอกาสลุ้นเดิมพัน ไม่มีอะไรจะเสีย

หวัง “ฟลุก” ปลุกกระแสพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจ หันมาเทแต้มให้ประชาธิปัตย์พุ่ง สานฝัน “อภิสิทธิ์” กลับมาแก้ตัวในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

หรืออย่างน้อยก็ได้ “เบ่ง” ตัวเลขของประชาธิปัตย์ เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในดีลร่วมรัฐบาล

โดยที่ “อภิสิทธิ์” จะได้เล่นบทพระเอกหล่อส่งท้าย โชว์สปิริตลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะนำทีมแพ้เลือกตั้ง โดยที่ประทับภาพอุดมการณ์ไม่หนุนการสืบทอดอำนาจผู้นำทหาร

“อภิสิทธิ์” ไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน

และที่ได้เต็มๆก็คือ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รีบถีบ “อภิสิทธิ์” ไปอยู่กับ “ทักษิณ” ดึงคะแนนปักษ์ใต้ แฟนประชาธิปัตย์ ไหลกลับมาที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย

แต่ทั้งหมดทั้งปวง โดยสถานการณ์มันสะท้อนว่าทุกอย่างอยู่ในมือ “ลุงตู่”

ล่าสุดวัดจากปรากฏการณ์ที่แฝงความมั่นใจว่าจะได้ตีตั๋วต่อ กับสิ่งที่ “นายกฯลุงตู่” ตอบคำถามนักข่าว ชัดถ้อยชัดคำเลยว่า ถ้าวันหน้ากลับมาเป็นนายกฯจะมีทีมที่คัดสรรมาอย่างดี อย่างที่พยายามบอกกับประชาชน ถ้าอยากทำต้องทำให้สำเร็จ ทีมที่จะมาทำงานต้องคัดสรรหา ไม่ใช่เอาทีมเดิมทั้งหมด

ต้องคัดสรรมาใหม่มาจากการเมือง ต้องเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจหน้าที่ในการขับเคลื่อน

นายกฯต้องมีแรงขับเคลื่อนและอยู่ในกรอบให้มากที่สุด

แน่นอนแปลความตามจุดนี้ มันคือพันธสัญญารัฐบาลต่อไป การทำความเข้าใจล่วงหน้ากับคนในทีมพรรคพลังประชารัฐ นักการเมืองขาใหญ่ จอมเก๋าทั้งหลายที่จ้องเข้ามาคุมกระทรวงปั่นโปรเจกต์

อย่าหวังอาศัยต้นทุนโปร่งใสของ “ลุงตู่” เป็นใบเบิกทางในการทำมาหากินแบบเก่าๆ

รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่มั่นใจได้เสียบเป็นตัวแปร ประเภทที่ไม่ทันไรก็มีขาใหญ่ประกาศผ่านข้าราชการ ขู่เป็นนัยจะเข้ามาคุมกระทรวงคมนาคม ล็อกเมกะโปรเจกต์เอื้อธุรกิจตัวเอง เล็งขุมทรัพย์บริษัทการท่าฯ ตั้งธงมาถอนทุนบวกกำไร ไม่มีทางได้ขี่คอนายกฯ กรรโชกกันได้ง่ายๆ

รัฐบาลเปลี่ยนผ่านห้วงเวลาพิเศษ มันต้องคัดพิเศษจริงๆ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: